|
|
|
|
|
[771] กระบากดำ ( Shorea farinosa) DIPTEROCARPACEAE กระบากดำ(ระนอง),เคียนทราย(กระบี่,ตรัง),ตะบากดำ(สุราษฎร์ธานี),มะรันตีสะตา(มลายู สตูล), ยอมกำ,เหล็กปัก(ตรัง),สยา(นราธิวาส),เหี้ยตะงะบ๊ะ(ชุมพร)
|
ท้องที่ที่ขึ้น
ขึ้นอยู่ตามป่าดงดิบทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ |
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๒๐-๓๕ เมตร ลำต้น เปลา ตรง เรือนยอดเป็นพุ่มกลม ทึบ เปลือกสีน้ำตาลแก่ แตกเป็นร่องตามยาวลำต้น เปลือกในสีเหลือง กิ่งอ่อนมีขนทั่วไป กิ่งแก่เกลี้ยง หูใบรูปขอบขนานแกมรูปหอก ใบมนแกมรูปขอบขนาน ขนาด ๓-๗ x ๗-๑๕ ซม. โคนและปลายมน หลังใบเกลี้ยง ท้องใบมีขน เกล็ดสีขาว หรืออาจเกลี้ยง ดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อ ตามปลายกิ่ง ผลกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๑.๕ ซม. ปลายเป็นติ่งแหลม มีปีกยาว ๓ ปีก รูปขอบขนาน โคนหยักคอด |
ลักษณะเนื้อไม้
กระพี้กับแก่นไม่ค่อยแตกต่างกัน เนื้อไม้สีเหลือง หรือสีเหลืองอมน้ำตาล เมื่อถูกอากาศนานๆ สีจะเข้มขึ้นเล็กน้อย เสี้ยนตรง เนื้อค่อนข้างหยาบ เป็นมัน ไสกบ ตบแต่งง่าย ขัดชักเงาได้ดีมาก |
ความถ่วงจำเพาะ
ประมาณ ๐.๖๓ |
สกายสมบัติ
มีอัตราการยืดหดตัวทางด้านรัศมีประมาณร้อยละ ๓.๖๘
ทางด้านสัมผัสประมาณร้อยละ ๗.๘๐
ทางด้านยาวตามเสี้ยนประมาณร้อยละ ๐.๓๓
|
กลสมบัติ
|
เคมีสมบัติ
|
ความทนทานตามธรรมชาติ
ตั้งแต่ ๒.๒-๙.๗ ปี เฉลี่ยประมาณ ๖.๑ ปี |
การอาบน้ำยาไม้
|
ประโยชน์
ไม้ ใช้ทำเสา รอด ตง ทำสะพาน และในการก่อสร้างอื่นๆ |
|
|