|
[3307]
มะม่วงป่า ( Mangifera caloneura)
ANACARDIACEAE
มะม่วงป่า,มะม่วงกะล่อน(ภาคกลาง),ม่วงเทียน(ประจวบคีรีขันธ์),มะม่วงขี้ใต้(ภาคใต้),มะม่วงเทพรส(ราชบุรี)
|
|
ท้องที่ที่ขึ้น
ขึ้นอยู่ห่างๆกันในป่าดงดิบ และป่าเบญจพรรณ หรือตามที่ชุ่มชื้น ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ ที่สูงจากระดับน้ำทะเล ๕๐-๓๐๐ เมตร |
|
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๒๐ เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดแน่น เป็นพุ่มกลม สีเขียวเข้ม เปลือกนอกสีน้ำตาลปนเทา มีต่อมระบายอากาศกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป กระพี้สีขาวนวล หรือขาวปนเหลืองอ่อนๆ แยกจากแก่นเห็นได้ชัด ใบรูปขอบขนาน ขนาด ๓.๕-๘.๐ x ๑๔.๕-๒๒.๐ ซม. โคนมนแคบๆปลายเรียว หรือเป็นติ่งสั้นๆ เนื้อหนา เกลี้ยงเป็นมัน ดอกสีขาวแกมเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อตามปลายกิ่งและง่ามใบ ช่อยาวประมาณ ๒๕ ซม. ก้านช่อมีขนสากๆ ทั่วไป กลีบดอกและกลีบรองดอกมีอย่างละ ๕ กลีบ ผลมนหรือป้อม ขนาด ๓.๐-๔.๕ x ๔-๗ ซม. เมล็ดใหญ่ เนื้อหุ้มเมล็ด มีรสหวาน กลิ่นหอม |
|
ลักษณะเนื้อไม้
แก่นสีน้ำตาลเข้ม หรือน้ำตาลไหม้ มีอยู่ไม่มาก เสี้ยนค่อนข้างตรง เนื้อเป็นมันเล็กน้อย แข็ง เหนียว ใช้ในร่มทนทาน ตัดฟัน เลื่อย ผ่า ไสกบง่าย |
|
ความถ่วงจำเพาะ
ประมาณ ๐.๘๑ |
|
สกายสมบัติ
มีอัตราการยืดหดตัวทางด้านรัศมีประมาณร้อยละ ๕.๑๑
ทางด้านสัมผัสประมาณร้อยละ ๖.๘๖
ทางด้านยาวตามเสี้ยนประมาณร้อยละ ๐.๔๒
|
|
กลสมบัติ
เนื้อไม้มี ความแข็ง ประมาณ ๑๙๙ กก.
ความแข็งแรง ประมาณ ๘๓๒ กก. / ตร.ซม.
ความดื้อ ประมาณ ๙๘,๗๐๐ กก. / ตร.ซม.
ความเหนียว ประมาณ ๑.๒๓ กก.-ม.
|
|
เคมีสมบัติ
|
|
ความทนทานตามธรรมชาติ
ตั้งแต่ ๒-๑๑ ปี เฉลี่ยประมาณ ๕.๖ ปี |
|
การอาบน้ำยาไม้
|
|
ประโยชน์
ไม้ ใช้ทำเครื่องเรือน อาคารพื้น หีบ ไม้ถือ ไม้บรรทัด ทำไม้บาง ไม้อัด และใช้ในการก่อสร้าง ทำเรือพาย เรือใบ ครก สาก กระเดื่อง ฟันสีข้าว
ผล มีขนาดเล็ก แก่สุก มีกลิ่นหอมหวาน รับประทานาได้ ดินรสเปรี้ยวจัด และมียางมาก
เมล็ดมาก มีรสฝาด ปรุงเป็นยารับประทาน แก้ท้องร่วง แก้บิด สมานแผล
กาฝาก ที่ขึ้นบนต้นชนิดนี้ รับประทานเป็นยาลดความดันโลหิตสูง
|
กลุ่ม:ป่าสถานีวนเกษตรตราด
