[2805] ตะเคียนราก ( Hopea pierre) DIPTEROCARPACEAE ตะเคียนราก(ภาคใต้),แคนฮากหย่อง(หนองคาย)
|
ท้องที่ที่ขึ้น
ขึ้นตามป่าดิบชื้น และแล้ง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และตามเกาะต่างๆ ในอ่าวไทย ที่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน ๑๐๐ เมตร |
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ ๑๕-๒๐ เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นมักคดงอ โคนเป็นพูเล็กๆ และมีรากค้ำยันตามบริเวณโคนต้น เรือนยอดเป็นพุ่มกลมยาว หรือรูปเจดีย์ ค่อนข้างทึบ เปลือกเรียบสีน้ำตาลแก่ ค่อนข้างบาง มีประสีเทาทั่วไป เปลือกในสีน้ำตาลอมชมพู กระพี้สีเหลืองอ่อนปนน้ำตาล มีริ้วเป็นคลื่น ขวางกับรัศมี และมียางเหนียวๆ ซึมเมื่อตัดใหม่ๆ กิ่งอ่อนเรียบ เกลี้ยง ใบเป็นชนิดใบเดี่ยว รูปมนแกมรูปหอก ขนาด ๒-๔ x ๔-๘ ซม. โคนมนค่อยๆเรียวไปทางปลาย ปลายหยักเป็นติ่งทู่ๆ ยาวๆ เนื้อค่อนข้างหนา และเกลี้ยงเป็นมัน ดอกสีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อสั้นๆตามง่ามใบ และเหนือรอยแผลใบ ตอนปลายๆกิ่ง ผลรูปกรวยแหลม ขนาด ๗ x ๑๐ มม. ปลายสุดเป็นหนามแหลม มีปีกรูปใบพาย ๒ ปีก |
ลักษณะเนื้อไม้
แก่นสีน้ำตาลออกเหลืองอมเขียว แก่กว่าสีกระพี้เล็กน้อย สีใกล้เคียงกับไม่ตะเคียนทอง เมื่อถูกอากาศนานๆ สีจะคล้ำลงเล็กน้อย เสี้ยนตรง เนื้อค่อนข้างละเอียด แข็ง เหนียว เลื่อย ผ่า ไสกบ ตบแต่งไม่สู้ยากรัก ขัดชักเงาได้ดี |
ความถ่วงจำเพาะ
ประมาณ ๐.๗๙ (๑๖.๘%) |
สกายสมบัติ
|
กลสมบัติ
เนื้อไม้มี ความแข็ง ประมาณ ๖๔๓ กก.
ความแข็งแรง ประมาณ ๑,๒๐๖ กก. / ตร.ซม.
ความดื้อ ประมาณ ๑๒๗,๓๐๐ กก. / ตร.ซม.
ความเหนียว ประมาณ ๔.๘๑ กก.-ม.
|
เคมีสมบัติ
|
ความทนทานตามธรรมชาติ
|
การอาบน้ำยาไม้
|
ประโยชน์
ไม้ ใช้ทำเสา กระดานพื้น คาน คร่าว ด้ามเครื่องมือ และสิ่งปลูกสร้างทั่วไป ฯลฯ
เปลือก ต้มกับเกลือ อมป้องกันฟันหลุด เนื่องจากกินยาเข้าปรอท และใช้ชะล้างบาดแผลเรื้อรัง
แก่น ใช้ผสมยารักษาทางเลือดลม กษัย
ดอก อยู่ในจำพวกเกสรร้อยแปด ใช้ผสมยาทิพย์เกสร
ยาง ใช้ผสมน้ำมันรักษาบาดแผล
|