ความรู้ไม่ใช่อยู่เฉพาะในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยแต่อยู่ทั่วทุกแห่งที่ไป ทุกคนที่เราพบ ขึ้นอยู่ที่เราจะยอมรับ นำมาคิดและเก็บได้มากน้อยแค่ไหน
 
     
 
สลัดได (1)
การปลูกต้นไม้คนโบราณสอนไว้ว่า ควรปลูกในช่วงดินร้อน ต้นไม้ที่ปลูกลงไปถึงจะรอดตาย ถ้าปลูกในช่วงดินเย็น โอกาสที่ต้นไม้จะรอดเป็นไปได้น้อย
 

��������������� ช่วงนี้ของปี(พฤษภาคม – สิงหาคม)เป็นช่วงเวลาแห่งการปลูกต้นไม้การปลูกต้นไม้คนโบราณสอนไว้ว่าควรปลูกในช่วงดินร้อนต้นไม้ที่ปลูกลงไปถึงจะรอดตายถ้าปลูกในช่วงดินเย็นโอกาสที่ต้นไม้จะรอดเป็นไปได้น้อยนายมักเลาะเป็นคนชอบสงสัยเลยถามต่อว่าดินร้อนมันเป็นอย่างไรผู้อาวุโสได้ให้ความหมายไว้ว่าดินร้อนคือพื้นดินในช่วงฝนประจำปีตกลงมาใหม่ๆ
ตอบง่ายๆ คือในช่วงของต้นฤดูฝนนั้นเองปีนี้มีการรณรงค์ปลูกต้นไม้แบบประชารัฐด้วยการชักชวนกันปลูกต้นไม้โดยไม่มีงบประมาณในสมัยก่อนเรียกกันว่าประชาอาสานอกจากปลูกต้นไม้ที่เป็นไม้หลักๆของป่าเช่นไม้ประดู่มะค่าโมงกันเกรายางนาฯลฯ แล้วนายมักเลาะยังได้มีโอกาสไปร่วมปลูกกล้วยไม้ป่าเพื่อสร้างความงดงามให้แก่ป่าอีกด้วยกล้วยไม้ที่ปลูกเป็นกล้วยไม้ที่ขึ้นอยู่กับแผ่นหินมีดอกสวยงามที่เรียกกันว่าม้าวิ่งหรือแดงอุบล�� ม้าวิ่งหรือแดงอุบลมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า
Phalaenopsispulcherrimaสมัยตระเวนป่าในช่วงหนุ่มนายมักเลาะพบกล้วยไม้ชนิดนี้ตามผลาญหินแถบชายแดนประเทศลาวและเขมรเต็มไปหมดช่วงฤดูฝน��� จะเห็นม้าวิ่งออกดอกสีแดงกระจายอยู่เต็มพลาญหินที่อุดมสมบูรณ์ก้านดอกของม้าวิ่งยาวอยู่ในระดับหน้าอกของนายมักเลาะด้วยความสวยของดอกม้าวิ่งเป็นเหตุให้ในปัจจุบันหากล้วยไม้ม้าวิ่งได้ยากในผืนป่าที่อยู่ใกล้คนเนื่องจากก้านดอก
ของกล้วยไม้ชนิดนี้แข็งแรงคนที่อยากได้จะใช้มือดึงบริเวณก้านดอก���ต้นม้าวิ่งทั้งลำต้นและรากที่ติดอยู่กับมอสบนแผ่นหินจะหลุดติดมือออกมาทันทีแต่พอมาอยู่ในเมืองสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากป่าธรรมชาติไม่นานต้นม้าวิ่งก็ต้องตายพลัดพรากจากโลกไปเหมือนสาวบ้านป่าที่ปรับตัวอยู่กับหนุ่มในเมืองไม่ได้

��������������� จากสภาพปัญหาม้าวิ่งค่อยๆ หายไปจากธรรมชาตินี้เองมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยพยายามเพาะเลี้ยงกล้วยไม้ม้าวิ่งโดยการเพาะเนื้อเยื่อเนื่องจากได้จำนวนของต้นกล้าม้าวิ่งหรือแดงอุบลเป็นปริมาณมากกิจกรรมคืนกล้วยไม้ม้าวิ่งสู่ป่าจึงบังเกิดขึ้นปริมาณจำนวนกล้าไม้ขนาดเล็กที่ผลิตขึ้นมีจำนวนมหาศาลจากความตั้งใจของนักอนุรักษ์ธรรมชาติ การนำม้าวิ่งหรือม้าวิ่งคืนสู่ธรรมชาติจึงเกิดขึ้นตามผลาญหินที่เคยมีม้าวิ่งขึ้นอยู่แต่อนิจจามันไม่ยักกะเป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็นพอถึงฤดูแล้งเมื่อเดินไปตามผลาญหินที่แห้งผากจะเห็นซากของกล้วยไม้ม้าวิ่งที่นำมาปล่อยไว้เต็มไปหมดแต่ตายแล้วเนื่องจากไม่สามารถรอดตายจากธรรมชาติที่หฤโหดในช่วงฤดูแล้งได้เป็นเรื่องตกใจของนักอนุรักษ์เป็นยิ่งนัก

��������������� ท่านจะแก้ไขกันอย่างไรที่จะให้ม้าวิ่งกลับมาสู่ผืนป่าได้เป็นหน้าที่ของนักวิชาการป่าไม้ที่จะต้องเข้ามาแก้ไขหัวหน้าสวนรุกขชาติน้ำตกสำโรงเกียรติได้ไปสังเกตการขึ้นอยู่ในธรรมชาติของม้าวิ่งในบริเวณที่คนไม่เข้าไปรบกวนเพื่อทำการทดลองคืนม้าวิ่งสู่ป่าให้ได้จากการสังเกตม้าวิ่งในธรรมชาติช่วงที่มีดอกพบว่าม้าวิ่งไม่ได้ขึ้นอยู่โดดๆจะเห็นม้าวิ่งขึ้นแทรกอยู่ในกอของสลักไดหรือสลัดได (Euphorbia antiquorum)ด้านล่างจะเห็นสีเขียวของมอสรากของม้าวิ่งถูกมอสปกคลุมมองไม่เห็นเรือนรากเลยฤดูแล้งจะเห็นกอของม้าวิ่งได้ยากแต่ถ้าสังเกตโดยละเอียดจะพบว่าม้าวิ่งทนอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่วิกฤติได้เนื่องจากกอของสลัดไดช่วยปกป้องแสงแดดที่ร้อนแรงให้แก่ม้าวิ่งพวกเราก็เลยเรียนแบบธรรมชาตินำกล้าเล็กๆของม้าวิ่งวางแทรกเข้าไปในระหว่างกอของสลัดไดแล้วติดตามผลการเจริญเติบโตของม้าวิ่งปรากฏว่าเมื่อเวลาผ่านไปสองปีม้าวิ่งชุดแรกออกดอกแล้วแต่ก้านดอกยังสั้นยาวประมาณ1ฟุตครึ่งตามขนาดของต้นที่มีขนาดเล็กอยู่

��������������� ปัญหาของการปลูกม้าวิ่งลักษณะนี้แลกมาด้วยรอยแผลเล็กๆบริเวณมือ
เนื่องจากหนามของสลัดไดในขณะที่พยายามแทรกมือแหวกกอเข้าไปเพื่อปลูกม้าวิ่งเข้าไปบริเวณกลางกอด้วยความสงสัยของนายมักเลาะอีกตามเคยว่าสลัดไดมีความหมายอย่างไรเลยได้คำตอบจากคนไทยชาติพันธุ์ไทย-เขมรสลัด ภาษาเขมรหมายถึง“สะบัด”ไดมีความหมายในภาษาเขมรว่า“มือ”รวมความหมายเข้าด้วยกันสลัดไดหมายถึงลักษณะของการสะบัดมือนั่นเองใครสงสัยเมื่อเดินผ่านผลาญหินที่มีต้นสลัดไดลองเอามือลอดเข้าไปจับก้อนมอสกลางกอสลัดไดดูจะเข้าใจเลยว่าสลัดไดมีความหมายว่าอย่างไร

ลองดูอย่าเชื่อนายมักเลาะ

ฮ่าฮ่าฮ่า



Last updated: 2017-08-21 15:51:49


@ สลัดได (1)
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ สลัดได (1)
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
1,313

Your IP-Address: 3.15.194.249/ Users: 
1,312