ระบบการติดตามป่าทดแทน
การจัดเก็บข้อมูลลงในระบบฐานข้อมูลที่ออกแบบอย่างเหมาะสม จะมีคุณค่าอย่างยิ่งต่อการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของป่าทดแทน สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมาก ในช่วงเวลาที่ต่างกัน
ป่าไม้เป็นสังคมพืชที่ไม่หยุดนิ่ง
มีการเจริญเติบโตและล้มตาย มีการเพิ่มขึ้น
ลดลงของชนิดและจำนวนของพืชพรรณที่ขึ้นอยู่ร่วมกัน
ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือโดยกิจกรรมของมนุษย์
โดยธรรมชาตินั้น
พรรณไม้ที่ขึ้นอยู่ร่วมกันจะแก่งแย่งทรัพยากรซึ่งรวมถึง ดิน น้ำ แร่ธาตุ อากาศ
และแสงสว่าง จึงทำให้ชนิดที่เติบโตได้ดีกว่ามีขนาดใหญ่กว่าและมีจำนวนต้นมากกว่า
และพืชพรรณชนิดใดที่สามารถเข้ามาสู่เวทีของการแก่งแย่งได้ก็จะเข้ามาครอบครองพื้นที่และแพร่พันธุ์ได้
โดยเฉพาะเมื่อในพื้นที่นั้นมีทรัพยากรที่หลากหลายย่อมสร้างโอกาสในการเข้ามาของพรรณพืชนานาชนิด
มีทั้งพรรณไม้ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ ไม้หนุ่ม ไม้ใหญ่ที่มีอายุมากขึ้น
ไม้ยืนต้นตายที่อ่อนแอ ทำให้เกิดโครงสร้างของป่าที่มีความเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา มีความสามารถที่จะอำนวยประโยชน์ในระบบนิเวศเปลี่ยนไป
หน้าที่ของป่าจึงขึ้นอยู่กับโครงสร้างในขณะนั้น
มนุษย์นั้นมีความต้องการใช้ประโยชน์จากป่าทั้งทางตรงและทางอ้อม
มีรูปแบบที่หลากหลายของการเก็บหา เก็บเกี่ยวพรรณพืชและทรัพยากรอื่น ๆ รวมทั้งการอนุรักษ์
ปลูกฟื้นฟู เก็บรักษาไว้เพื่อคงสภาพพื้นที่ป่าไว้อย่างยั่งยืน
หากกิจกรรมของมนุษย์ก่อให้เกิดการทำลายพืชพรรณที่เป็นโครงสร้างหลักขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อาจก่อให้เกิดสภาพความเสื่อมโทรมของป่าขึ้น
การศึกษาติดตามการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของป่าทดแทน
เป็นพื้นฐานของการกำหนดเงื่อนไขทางวนวัฒนวิทยาเพื่อจัดการป่าให้อำนวยประโยชน์ตามแผนที่วางไว้
ซึ่งระบบการติดตามประกอบด้วย ข้อมูลเชิงพื้นที่ การจัดเก็บตามเวลา การวิเคราะห์ข้อมูล
และการเสนอแนะ
การกำหนดขอบเขตพื้นที่ป่าที่สนใจ
จำนวน ตำแหน่ง ขนาดและรูปร่างแปลงตัวอย่าง
เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพป่า
ซึ่งจะต้องให้เป็นไปตามมาตรฐานทั้งในระดับสากลและระดับชาติเพื่อการเปรียบเทียบ
การวางแปลงตัวอย่างในพื้นที่จริง ในปัจจุบันสามารถใช้เครื่องมือ GPS เข้าไปหาตำแหน่งจุดศูนย์กลางแปลงได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะต้องมีการฝึกอบรมผู้เข้าไปเก็บข้อมูลทุกครั้งที่เริ่มงาน โดยเน้นการวางวางแปลงให้มีขนาดที่ถูกต้อง การวัดขนาดต้นไม้ทั้งความโตและความสูงที่แม่นยำ การจดบันทึกข้อมูลซึ่งต้องขจัดความผิดพลาดโดยการทวนสอบ รวมทั้งเมื่อเสร็จสิ้นการเก็บข้อมูลในแต่ละวันจะต้องนำเข้าข้อมูลและตรวจสอบความผิดพลาด เพื่อสร้างความมั่นใจในข้อมูลที่ถูกต้อง
การจัดเก็บข้อมูลลงในระบบฐานข้อมูลที่ออกแบบมาอย่างดี จะมีคุณค่ามากต่อการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของป่าทดแทน
สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมาก ในช่วงเวลาที่ต่างกันไม่ว่าจะกี่ปี
สามารถเรียกมาใช้งานได้เมื่อต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบฐานข้อมูลออนไลน์จะช่วยสร้างคุณภาพของทีมงาน
สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายขึ้นอยู่กับโปรแกรมประยุกต์ที่จะพัฒนาขึ้นมา
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบความถูกต้องของการเก็บข้อมูลในระดับพื้นที่จากค่าพิกัดของแปลงสำรวจได้
ภาพที่ 4 แสดงถึงการนำข้อมูลในระบบมาใช้งาน
เพื่อประเมินสภาพป่าทดแทนของสถานีวิจัยและฝึกอบรมวนเกษตรตราด
(โครงการทุนอุดหนุนวิจัยมก.2555-57:
การจัดการป่าทดแทนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานชุมชนอย่างยั่งยืน)
จะเห็นถึงความผันแปรด้านความหลากหลายทางชีวภาพและมวลชีวภาพในแต่ละพื้นที่
ภาพที่
5 แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของป่าทดแทนในพื้นที่หมู่ไม้กระทุ่ม
ณ สถานีวิจัยฯ ในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา
จะเห็นถึงความเพิ่มพูนทั้งทางด้านจำนวนชนิด ความหลากหลายทางชีวภาพ จำนวนต้น
และมวลชีวภาพ
การพัฒนาระบบการติดตามป่าทดแทนที่กล่าวข้างต้น
จะสามารถนำมาใช้ในการจัดการป่าอย่างยั่งยืนโดยการมีส่วนร่วมกับชุมชน ซึ่งได้แก่
ป่าชุมชนซึ่งปัจจุบันขยายตัวเพิ่มขึ้นมากว่า 8,000 แห่ง
การปลูกป่าเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อม การปลูกป่าเศรษฐกิจทั้งในระบบแปลงขนาดใหญ่
และระบบฟาร์มไม้ป่า ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาทีมงานป่าไม้ในระดับมืออาชีพได้
Last updated: 2016-06-30 17:25:05
|
@ ระบบการติดตามป่าทดแทน |
|
|
|
|
|
|
|
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ ระบบการติดตามป่าทดแทน
|