กรอก email ที่ต้องการส่งแล้วกด Send
รู้จักให้...ในสิ่งที่คนอื่นอยากได้
 
     
 
ริมฝั่งโขง (๒)
เราคงจะรักแม่น้ำโขงมากขึ้นอีก ช่วยกันรักษาทรัพยากรในแม่น้ำโขงนี้ไว้ เพื่อลูกหลานของเรา
 

�������������� ตอนที่แล้วได้เขียนถึงสภาพภูมิประเทศของริมฝั่งโขงบริเวณด้านทิศตะวันออกของจังหวัดอุบลราชธานีที่เรียกกันว่าดอนส้มโฮงดอนในภาษาพื้นถิ่นหมายถึงพื้นที่โนนสูงกลางลำน้ำในฤดูน้ำหลากอาจจะมีน้ำท่วมถึงก็ได้ไม่ถึงก็ได้แต่ในฤดูแล้งน้ำลดลงแล้วลักษณะภูมิประเทศที่เรียกว่าดอนจะสูงกว่าบริเวณอื่นในลำน้ำพื้นที่ส่วนที่เป็นดอนมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่ตลอดไม่ว่าน้ำจะท่วมถึงหรือไม่ก็ตามส้มโฮงคือต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีพูพอนเพื่อค้ำยันลำต้นในภาษากลางคือต้นสมพง(Tetrameles nudiflora R.Br.)พื้นที่ระหว่างริมตลิ่ง กับ ดอนอยู่ห่างกันประมาณ๕๐๐เมตรพื้นที่ส่วนนี้เมื่อน้ำในแม่น้ำโขงลดลงมีลักษณะเป็นพื้นที่ลาดเอียงเข้าหาตลิ่งและดอนทั้งสองข้างบริเวณช่วงกลางเป็นร่องน้ำเล็ก ๆ ช่วงน้ำลดกระแสน้ำไม่รุนแรงจะมีตะกอนของดินที่ไหลมาจากพื้นที่ตอนบนของลำน้ำสะสมเป็นผืนใหญ่เดือนพฤศจิกายนธันวาคมแม่น้ำโขงเริ่มลดชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมลำโขงจะใช้พื้นที่บริเวณนี้ปลูกพืชผลการเกษตรโดยจะปลูกบริเวณด้านบนที่น้ำลดลงก่อนและจะปลูกพืชผลลดต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนติดกับลำน้ำช่วงของน้ำลดต่ำสุดในเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคมถ้ามองจากพื้นที่สูงริมตลิ่งแล้วจะเห็นพื้นที่การเกษตรมีสีเขียวอ่อนหรือเข้มของพืชผลที่ลดหลั่นกันไปตามความสูงของพื้นที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง

พืชที่พี่น้องริมโขงปลูกมีตั้งแต่ถั่วลิสงข้าวโพดมันเทศ(ภาษาถิ่นเรียกมันแกว)พืชสวนครัวเช่นผักกาดขาวผักกาดหอมโหระพาผักกาดหิ่นต้นหอมผักชีบางพื้นที่ปลูกคามเพื่อนำไปใช้ย้อมผ้าพื้นที่บริเวณนี้ทำการเกษตรได้ประมาณเดือนตั้งแต่พฤศจิกายนธันวาคมมกราคมกุมภาพันธ์มีนาคมเมษายนเมื่อฝนตกปริมาณน้ำในลำน้ำโขงสูงขึ้นจนท่วมพื้นที่เหล่านี้ชาวบ้านก็เลิกปลูกและเริ่มปลูกพืชผลใหม่หลังน้ำลดวนเวียนเป็นวัฏจักรในรอบปีมาตั้งแต่โบราณ

��������������� พื้นที่ส่วนนี้ไม่มีเอกสารสิทธิ์แต่สิทธิในการปลูกพืชของชุมชนเป็นมรดกตกทอดกันมาแต่ ปู่ ย่า ตา ยาย ทุกคนจะรู้ว่าสิทธิของตนเองอยู่บริเวณไหนเมื่อเรายืนอยู่ริมตลิ่งจะเห็นการปลูกพืชเป็นแถวเป็นแนวตามสิทธิในพื้นที่ของแต่ละคนที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณจากการชอบเลาะ(เที่ยวดู)ของนายมักเลาะทำให้เข้าใจในทรัพยากรธรรมชาติที่ประเทศไทยมีอยู่อย่างหลากหลายแม่น้ำโขงหลายคนคงจะมองเห็นแต่สายน้ำที่ไหลหลากอย่างมหาศาลในฤดูฝนในฤดูแล้งปริมาณน้ำในลำน้ำโขงแห้งขอดจนติดก้นแม่น้ำแต่ถ้าเข้าไปศึกษาเรียนรู้แม่น้ำโขงโดยละเอียดแล้วยังมีทรัพยากรที่หลากหลายที่ผู้คนทั้งสองฝั่งได้นำมาใช้ประโยชน์ทั้งน้ำผืนดินปลาในลำน้ำโขงที่มีความหลากหลายเป็นลำดับสองของโลกรองจากแม่น้ำอเมซอนแก่งหินอันสวยงามพืชพรรณที่เป็นไม้เฉพาะถิ่นเส้นทางสำหรับการคมนาคมไปจนถึงเป็นแหล่งของพิธีกรรมดังเช่นชมบั้งไฟพญานาคในวันขึ้น๑๕ค่ำ เดือน ๑๑���� ของจังหวัดหนองคายและไหลเรือไฟในช่วงออกพรรษาของ��������� จังหวัดนครพนม

��������������� เมื่อเห็นอย่างนี้เราคงจะรักแม่น้ำโขงมากขึ้นอีกช่วยกันรักษาทรัพยากรในแม่น้ำโขงนี้ไว้เพื่อลูกหลานของเรา

��������������� คำว่าแม่น้ำโขงเป็นภาษาที่คนภาคกลางหรือคนอีสานบางส่วนเรียกแต่คนอยู่ติดกับแม่น้ำโขงที่เป็นคนพื้นถิ่นและคนในสปป.ลาวเรียกว่าแม่น้ำของอำเภอเชียงของจังหวัดเชียงรายเป็นหลักฐานประการหนึ่งที่คนไทยริมโขงเรียกแม่น้ำนี้ว่าแม่น้ำของมาตั้งแต่โบราณแขวงบ่อแก้วทางตอนเหนือของสปป.ลาวถ้าศึกษาจากข้อมูลเก่ามีชื่อเดิมว่าแขวงหัวของ(ต้นแม่น้ำโขง)แต่มาเปลี่ยนเป็นแขวงบ่อแก้วในภายหลัง



Last updated: 2015-03-08 10:40:45


@ ริมฝั่งโขง (๒)
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ ริมฝั่งโขง (๒)
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
1,118

Your IP-Address: 18.118.218.112/ Users: 
1,117