เที่ยวเมืองตราดนอนริมหาดทับทิมที่เซ็นทารา

โดยธงชัย เปาอินทร์  เรื่อง-ภาพ

             ตราดวันนี้ เป็นฤดูผลไม้ ทุเรียน เงาะ และระกำ แต่อาหารทะเลยังมีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ภูมิอากาศเป็นปลายฤดูร้อนก่อนต้นฤดูฝนจึงเดี๋ยวร้อนอบอ้าว เดี๋ยวฝนตกพรำๆ และแล้วแดดออกเปรี้ยง สว่างแจ้งแดงแจ๋ คนเมืองตราดเขาเฉยๆด้วยว่าชาชินกันแล้ว แต่สำหรับคนต่างถิ่นเยี่ยงผม รู้สึกแปลกๆ แต่นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของแผ่นดินตะวันออกของประเทศไทย

อาหารบ้านพักหรูแบบคลาสสิคของเซนทารา ตราด

            ผมไปเมืองตราดก็มักจะเตลิดไปเกาะช้างเสียทุกที ทั้งๆที่ไปแล้วก็รู้สึกอึดอัดกับความหนาแน่นของสิ่งก่อสร้าง ถนนหนทางคับแคบ รถยนต์และรถมอเตอร์ไซต์วิ่งกันราวกับรถแข่ง ควันพิษฟุ้งกระจายไปรอบๆผิวจราจร สูดหายใจได้พิษเข้าไปเต็มปอด ประกอบกับกำลังย่างเข้าหน้าฝน อาจเกิดพายุดูจะอันตราย ก็เลยเปลี่ยนเส้นทางท่องเที่ยวดูบ้างว่าจะแตกต่างกันบ้างหรือไม่ 

            จากกรุงเทพ-แกลง-จันทบุรี-ตราด ระยะทาง 315 กิโลเมตร ช่วงก่อนถึงเมืองตราด มีสามแยกให้เลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอคลองใหญ่ถนนราดยางแบบ 2 ช่องจราจร ถึงกม.ที่ 46 เป็นหาดทับทิม ที่นี่ เซนทารา ชานทะเลรีสอร์ทแอนด์วิลล่า ถนนเส้นนี้สิ้นสุดที่ กม.73 บ้านหาดเล็ก ประตู่สู่ประเทศกัมพูชา ฝั่งซ้ายมือเป็นเทือกเขาบรรทัดกั้นระหว่างประเทศ ขวามือเป็นชายหาดยาวเหยียดจนสุดติ่งประเทศไทย

            ทางเข้ามีป้อมยามรักษาการณ์ จอดรถแล้วขนสัมภาระลงไปต่ด้วยรถกอล์ฟที่พนักงานมารับ แวะเช็คอินเข้าพักที่ "ฟร้อน" แล้วก็นั่งรถกอล์ฟต่อไปจนถึงบ้านพัก ระหว่างทางที่เลี้ยวไปเลี้ยวมามีต้นไม้ปลูกประดับสามระดับร่มรื่น ดูแล้วสดชื่นเหมือนยืนอยู่กลางป่าเขา ต้นไม้ประดับสามระดับที่กล่าวถึงคือ ระตับต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา  ระดับไม้พุ่มสุมทุมดูสวยงาม และไม้ประดับระดับดินเป็นต้นไม้ตกแต่งเตี้ยๆ

            เข้าไปในห้องพักขนาดใหญ่ซึ่งมีอยู่ 4 ส่วนดังนี้คือ ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น มีทีวี โซฟา มีพัดลมเพดาน 1 ตัว ตู้เย็นและเครื่องดื่มเต็มพิกัด ส่วนที่สองเป็นห้องน้ำขนาดกว้างขวางตกแต่งสไตล์ผสมบ้านๆกับคลาสสิค กั้นกลางด้วยกระจกใสออกเป็นส่วนอาบน้ำและส่วนสุขาและกระจกเงาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน      

            ส่วนที่สามติดกับห้องนั่งเล่นเป็นระเบียงแบบ "โอเพ่นแอร์" มีเก้าอี้สนามน่ารักให้นั่งพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย มุมนี้มองดูชายทะเลได้ด้วย

            ส่วนที่สี่เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ตั้งด้วยเตียงขนาด 4ฟุตคิงไซท์ 2 เตียง แอร์เย็นฉ่ำ มีม่านบางๆพริ้วไสว

            สระว่ายน้ำตั้งอยู่ด้านหน้าของบ้านพัก มีเก้าอี้สนามริมสระรองรับได้หลายรูปแบบ มีบาร์เครื่องดื่มบริหารด้านตะวันออก ส่วนด้านตะวันตกเป็นส่วนภัตตาคาร ด้านหน้าสระว่ายน้ำเป็นชายหาดทับทิมที่ทอดยาวไปทางขวามือและทางซ้ายมือ เม็ดทรายขาวละเอียดแทบเป็นผง ลงเล่นน้ำทะเลได้ด้วยความเพลิดเพลิน ที่นี่จึงลงอาบน้ำได้สองรสชาติ 

            เช้าตรู่นั่งดื่มกาแฟร้อนๆ พักผ่อนสบายๆ ได้บรรยากาศนิ่มๆ แต่เบื้องหน้าเป็นวิถีชีวิตของชาวประมงเรือเล็กที่กำลังเก็บกู้ลอบปู อวนปู และอวนกุ้ง(แชบ้วย) แต่เอะ ยังมีธงลอบปูหรืออวนหลงเหลืออยู่  นั่นแสดงว่ายังมีอีกเจ้าของหนึ่ง ซึ่งเขาแยกแยะกันที่สีของธง กำลังรอเจ้าของมาเก็บกู้ต่อไป เป็นบรรยากาศริมทะเลที่มีเวทีชีวิตให้ได้ยลทุกเช้าค่ำ 

ประมงเรือเล็ก วิถีชีวิตที่ยังเหลืออยู่ที่หาดทับทิม

            ภัตตาคารหรู ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของสระว่ายน้ำ โปร่งโล่งเย็นสบาย มีอาหารบริการตามกำหนดเวลา อาหารเช้าอย่าง อาหารกลางวันอย่าง และอาหารเย็นก็อีกอย่าง ถ้ามานั่งรับประทานอาหารเย็นไม่มากนัก อาจได้เห็นวิธีลงลอบปู อวนปู อวนกุ้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะออกมาปฏิบัติการในช่วงเย็น เก็บกู้เมื่อเช้าตรู่ เป็นวัฏจักรที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล 

สระว่ายน้ำริมหาดทับทิมได้กลิ่มหอมจากต้นเสม็ดแดงกรุ่นๆ

           อยากจะคุยโม้เลยว่า ไปที่เกาะช้างในทุกวันนี้ไม่มีวิถีชีวิตชาวประมงเรือเล็กหลงเหลืออยู่เลย ทุกคนผันเปลี่ยนเวียนชีวิตไปเป็นพนักงานบริการในรีสอร์ทและโรงแรมไปหมดแล้ว ทุกชีวิตอยากได้แต่เงินๆๆ และแสงสีที่เร้าใจจนหลายชีวิตได้ก้าวล้ำไปสู่อนาคตที่มืดมน เหมือนว่าหลงแสงสีและความศิวิไล เหมือนว่าเมาชีวิตที่แทรกซึมเข้ามาทีละนิดๆ 

           ที่หาดทับทิม อำเภอคลองใหญ่ ยังบริสุทธิ์ สงบ งดงาม และปลีกวิเวกได้อย่างกับล่องหน  ส่วนหน้าฝนจนชนหน้าหนาวเหน็บนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าบรรยากาศจะเป็นอย่างไร คลื่นลมทะเลจะร้อนแรงหรือเปล่า เด็กๆจะลงไปเล่นน้ำในทะเลได้ด้วยความปลอดภัยหรือไม่ มียามช่วยชีวิต(Life Gard)คอยสอดส่องระแวดระวังภัยและเข้าช่วยเหลือหรือไม่

           ปล. มีเสียงลูกๆทัก "พ่อๆ มีตังส์จ่ายเขาหรือ" น่ารักซะไม่มี  

              หาดทับทิมมุมตะวันออก          

หาดทับทิมมุมตะวันตก