Untitled Document
     
 
มารู้จักไม้กฤษณากันเถอะ
Untitled Document กฤษณา
(Aquilaria crassna)
THYMELAEACEAE
กฤษณา(ตะวันออก)
 

การจำแนกชนิดไม้กฤษณาตามหลักอนุกรมวิธาน    

          ไม้กฤษณาจัดอยู่ในวงศ์ (family) Thymelaeaceae สกุล (genus) Aquilaria  ืชในวงศ์นี้สำรวจพบทั่วโลกประมาณ 50 สกุล 720 ชนิด (species) สำหรับสกุล Aquilaria ทั่วโลกพบทั้งหมด 15 ชนิด แต่ในประเทศไทยไม้สกุลกฤษณาที่สำรวจพบและรายงานไว้มี 4 ชนิด ดังนี้

1.  Aquilaria crassna (เอควิลาเรีย คราสนา)

         ไม้ยืนต้นสูง 10 - 30 เมตร เปลือกนอกมีสีน้ำตาลออกขาว เรียบหรือย่น เนื้อไม้มีสีขาวลักษณะอวบอิ่มเต็มไปด้วยน้ำ (pulp spongy)  ใบ แหลมถึงเรียวแหลม ขนาด 2.5 - 57 - 11.5 เซนติเมตร ปลายใบอาจจะยาวได้ถึง 6-10 มิลลิเมตร แผ่นใบเป็นมันคล้ายหนัง ด้านหลังใบเกลี้ยง ท้องใบเกลี้ยงหรืออาจมีขนกระจายอยู่ห่าง ๆ ตามขอบใบและเส้นกลางใบ เส้นใบมี 12 - 18 คู่ เห็นชัดทั้งสองด้าน  ดอก เป็นช่อกระจุก มี 4 - 6 ดอกย่อย ดอกมีสีออกเขียว ก้านดอกย่อยมีขนสั้นนุ่มยาว 5 - 10 มิลลิเมตร หลอดกลีบเลี้ยงมีขนประปรายทั้งด้านนอกและด้านใน (กลีบเลี้ยงมักจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากออกดอกแล้ว)  ผล เป็นรูปกึ่งวงกลม ผิวขรุขระ มีขนยาวขึ้นประปราย ผลขนาด 2 - 2.5 x 2.5 - 3.5 เซนติเมตร มีกลีบเลี้ยงติดอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งเป็นผลแก่ ผลแก่จะแห้งแล้วแตกออกกลางพู มีเมล็ดอยู่ภายใน (seed) 1-2 เมล็ด เมล็ดมีขนาด 5 x 10 มิลลิเมตร

          สำหรับชื่อพื้นเมืองเรียกว่า "ไม้กฤษณา" พบขึ้นกระจายในป่าดิบภาคตะวันออกและบางครั้งอาจพบตามเขาแกรนิตแถบภาคกลาง ได้แก่ จังหวัด จันทบุรี ตราด นครราชสีมา นครนายก ปราจีนบุรี (เขาใหญ่)

                  ดอก (A. crassna)
                    ผล (A. crassna)
          สวนป่าไม้กฤษณา (A. crassna)

 

2.  Aquilaria malaccensis (เอควิลาเรีย มาลัคเซนซิส)

          ไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 40 เมตร เปลือกนอกเรียบ มีสีออกขาวถึงสีน้ำตาล  ใบ มีลักษณะเรียวแหลม ขนาด 2 - 5.2 5 - 15 เซนติเมตร แผ่นใบคล้ายกระดาษ เกลี้ยงหรืออาจมีขนห่าง ๆ อยู่บนเส้นกลางใบของท้องใบ ท้องใบจะเห็นเส้นใบชัด แต่หลังใบจะมองเห็นได้ไม่ค่อยชัด  ดอก เป็นช่อกระจุก ออกตามยอดหรือตามซอก มี 8 - 10 ดอกต่อช่อ ดอกมสีเขียวหรือออกเหลือง ผล รูปขอบขนาน เรียบเป็นมัน หรืออาจจะมีขนสั้นนุ่มขึ้นเล็กน้อย ผลขนาด 1.5 - 2.5 2.5 - 4 เซนติเมตร ผลแก่จะแตกออกกลางพู มีเมล็ดภายใน 1 - 2 เมล็ด เมล็ดคล้ายรูปไข่ ขนาด 6 x10 มิลลิเมตร เมล็ดมีขนสีแดงปกคลุม และมีจะงอยยาวประมาณ 4 มิลลิเมตร มีรยางค์ติดที่จะงอยและจะมีความยาวมากกว่าเมล็ด

          จะเห็นว่า ถ้าดูจากลักษณะภายนอก ได้แก่ ลำต้น ใบ และดอก ของ Aquilaria crassna และ Aquilaria malaccensis จะมีลักษณะใกล้เคียงกัน ซึ่งบางครั้งอาจทำให้สับสนชนิดกันได้ แต่หากมีผลปรากฎจะสามารถจำแนกชนิดได้จากการมองด้วยตาเปล่า เพราะลักษณะผลของทั้งสองชนิดมีลักษณะแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน

          สำหรับไม้กฤษณาชนิดนี้ จะมีชื่อพื้นเมืองเรียกว่า "ไม้หอม" พบขึ้นกระจายในป่าดิบทางภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดตรัง (เขาช่องและสิเกา)

                ดอก (A. malaccensis)
                 ผล (A. malaccensis)
               ลำต้น (A. malaccensis)

 

3.  Aquilaria hirta (เอควิลาเรีย เฮอตา)

          ไม้ยืนต้นสูงได้ถึง 14 เมตร  ใบ เรียวแหลม โคนใบรูปลิ่มจนถึงมนหรือกลม ใบขนาด 2.5 - 5.5 x 6.5 - 14 เซนติเมตร แผ่นใบคล้ายหนัง ท้องใบมีขนนุ่มสั้นหนาแน่นโดยเฉพาะบริเวณเส้นกลางใบ ก้านใบมีขนสั้นนุ่ม ยาวประมาณ 5 - 7 มิลลิเมตร  ดอกเป็นช่อออกตามซอก มี 5 - 14 ดอกย่อย ดอกสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ก้านดอกย่อยยาวได้ถึง 20 มิลลิเมตร หลอดกลีบเลี้ยงรูปทรงกระบอก ยาว 6 - 8 มิลลิเมตร ด้านนอกมีขนสั้นนุ่มหนาแน่น แฉกกลีบเลี้ยงรูปไข่และมน ยาว 2-3 มิลลิเมตร ด้านนอกและด้านในมีขนสั้นนุ่มหนาแน่น กลีบดอกมีขนอุยหนาแน่น ยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร  ผล เป็นรูปหอกกลับ เมล็ดรูปไข่ มีขนประปรายหรือเกือบเกลี้ยง มีจะงอยสั้น ๆ ที่ยอด รยางค์เรียบ ยาวประมาณ 10 มิลลิเมตร

          สำหรับไม้กฤษณาชนิดนี้มีชื่อพื้นเมืองเรียกว่า "กายู (ไม้) จะแน" พบขึ้นกระจายในป่าพรุทางภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส (สุไหงโกลิก เวียง สุคีริน และภูเขาทอง)

 

4.  Aquilaria subintegra (เอควิลาเรีย สับอินเทคกรา)

          ไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็กสูงได้ถึง 2 เมตร  ใบ เรียวแหลม โคนใบรูปลิ่มจนถึงมน ใบมีขนาดใหญ่และยาวกว่า 3 ชนิดข้างต้น มีขนาดถึง 7 - 10.5 x 19 - 27.5 เซนติเมตร แผ่นใบคล้ายกระดาษ ท้องใบมีขนสั้นนุ่มจนถึงเกือบเกลี้ยง ดอก เป็นช่อออกตามซอก มี 8-20 ดอกย่อย ก้านช่อดอกมีขนประปราย ยาว 1-3 เซนติเมตร ดอกสีขาว ก้านดอกย่อยมีขนประปราย ยาว 6-13 มิลลิเมตร หลอดกลีบเลี้ยงยาว 5-12 มิลลิเมตร ด้านนอกมีขนบาง ๆ ประปรายหรือเกลี้ยง ด้านในมีขนอยู่ที่ฐาน  ผล เป็นรูปรี เมล็ดเป็นรูปรีแคบ ๆ มีขนประปราย รยางด์ไม่มีขน ติดอยู่ด้านหนึ่งของส่วนที่ยืดออกมา 

          ลักษณะลำคัญของ Aquilaria subintegra ที่แตกต่างจาก 3 ชนิดข้างต้น คือ เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ใบจะมีขนาดใหญ่กว่าทั้งสามชนิด พบทางภาคใต้ ขึ้นกระจายในป่าดิบ สูง 300 - 550 เมตรจากระดับน้ำทะเล ได้แก่ จังหวัดปัตตานี (เขาลิเชา) และนราธิวาส (เวียงและสุไหงโกลก) ปัจจุบันพบเห็นได้ยากในป่าธรรมชาติ

                 ใบ (A. subintegra)                   ผล (A. subintegra)

ที่มา: ภาพจากหอพรรณไม้ กรมป่าไม้ โดยคุณอรุณ สินบำรุง (2546)

     อย่างไรก็ตาม จำนวนชนิดไม้กฤษณาจากการรวบรวมของประเทศอินโดนีเซียเพื่อเสนอต่อที่ประชุม CITES ครั้งที่ 13 และรวมถึงชนิดใหม่ที่เพิ่งสำรวจพบที่ประเทศเวียดนามล่าสุด ในปี 2005 พบว่ามีไม้สกุลกฤษณาทั้งสิ้น 25 ชนิด Click และทั้งหมดพบขึ้นกระจายอยู่ในป่าดิบ รวมถึงป่าพรุ ในแถบเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ พม่า อินเดีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว จีน ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ นิวกินี เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ไม้สกุลนี้จะขึ้นพบได้ตั้งแต่ 25 - 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สามารถปรับตัวขึ้นอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ตั้งแต่ ดินทราย ดินที่มีหินปะปน และดินปูน ระบายน้ำดี


Last updated: 2012-08-09 00:54:32
 
     
     
   
     
Untitled Document