.ติดตามข่าวชาวป่าไม้หลายไลน์กลุ่ม
ร่วมประชุมสัมมนามามากครั้ง
ยอมรับว่า"วนกร"เร่าร้อนจัง
เก่งหลายอย่างทั้งเก่าใหม่ให้ศรัทธา
.เรื่องสังคมเจอโรคร้ายภัยโควิด
มีคนคิดสมุนไพรใช้รักษา
พบหลายสูตรสุดดีที่ตัวยา
แถมทายท้าคนเจ็บไข้ให้ลองดู
.ด้านบ้านเมืองคุยเขื่องไปได้ทุกมุม
การชุมนุมประท้วงใหญ่ใฝ่รอบรู้
เคล็ดโกงกินตามน้ำใครทำอยู่
พวกใกล้ชิดมิตรศัตรูต่อสู้กัน
.บ้างธรรมะธัมโมโอ่เสียงขรม
เดินจงกรมนั่งทางในใฝ่กำถัน
คติธรรมนำสอนใจให้แบ่งปัน
ชี้สวรรค์ขุมนรกสาธกมี
.หลายคนเก่งสอนพ้นทุกข์สุขภาพ
แนะให้ทราบด้านโรคภัยได้เต็มที่
กินอาหารสรรอย่างไรให้ผลดี
พาช่วยชี้ออกกำลังอย่างถูกทาง
.บางคนชอบลอบเข้ามุ้งมุ่งเรื่องเซ็กส์
แอบกินเด็กจนแก่เฒ่าเอาทุกอย่าง
ไวอากร้าสมุนไพรตุนไว้ข้าง
ลุยหัวค่ำย่ำสว่างพลังล้ำ
.มีที่ชอบผจญภัยเที่ยวในป่า
ปีนหน้าผาเยี่ยมยุทธ์มุดเถื่อนถ้ำ
ลุยน้ำตกนอนกางเต๊นท์เป็นประจำ
ว่ายดำน้ำส่องสัตว์ไพรไร้เกรงกลัว
."วนกร"อ่อนเชิงไปในการเมือง
ไม่สนเรื่องผลาญพงไพรมีไปทั่ว
ยกที่ดินป่าไม้ไปให้หมองมัว
พวกเกลือกกลั้วบุกทำกินถิ่นป่าดง
.ครูนิด วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com
แรงดลใจ: สิ่งที่ผิดหวังมากที่สุดด้านหนึ่งในชีวิตการเรียนและการทำงานป่าไม้ ก็คือ การที่พื้นที่ป่าไม้ของประเทศลดลงตามลำดับ โดยในปี พ.ศ.2504 ที่เป็นครั้งแรกที่มีการใช้ภาพถ่ายทางอากาศสำรวจพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งพบว่ามีอยู่ร้อยละ ของเนื้อที่ประเทศ นับได้ว่าขณะนั้นประเทศเรามีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์อยู่มาก แต่หลังจากนั้นมีการสำรวจเพิ่มเติมเป็นระยะๆ พบว่าพื้นที่ป่าไม้มีเหลือน้อยลงตามลำดับ กับทั้งยังน้อยกว่าร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศตามที่นโยบายป่าไม้ของชาติได้กำหนดไว้ แม้บางช่วงมีรายงานมากขึ้นอยู่บ้าง แต่ผู้คร่ำหวอดในวงการระบุว่าเป็นเพราะเทคนิคการสำรวจทางภาพถ่ายและการตีความพื้นที่ป่าไม้ที่แตกต่างและมีความละเอียดมากขึ้น
สาเหตุที่ทำให้พื้นที่ป่าไม้ลดลงมีมาจากหลายด้าน ที่น่ากังวลใจเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่สืบเนื่องมาโดยตลอดจากอดีต ปัจจุบัน กับทั้งมีแนวโน้มต่อไปในอนาคต ก็คือ การบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ไปประกอบอาชีพทางการเกษตรและอาชีพอื่นตามกระแสนิยม โดยชาวบ้านผู้บุกรุกมักอ้างสาเหตุของความยากจนและไร้ที่ดินทำกิน (ทั้งนี้ในบางรายเป็นนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลที่มักซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้าน) ซึ่งทางภาครัฐและเหล่านักการเมือง(ที่ต้องการหาเสียงหรือมีผลประโยชน์แอบแฝง)ได้พยายามยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆเป็นระยะๆ เป็นการผ่อนผันให้ทำการอยู่อาศัยในพื้นที่ป่าไม้โดยถูกกฎหมาย ซ้ำร้ายในบางกรณีได้ออกเอกสารให้ที่เป็นการทำลายป่าแบบถาวร
เท่าที่ได้ติดตามนโยบายภาครัฐเกี่ยวกับที่ดินป่าไม้มาโดยตลอด พบว่ามีชาวป่าไม้ส่วนน้อยเหลือเกินที่มีปฏิกิริยาต่อต้าน โดยส่วนใหญ่ก้มหน้าก้มตารับสภาพและจำใจปฏิบัติตามหน้าที่ไป ที่อ้างว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีของข้าราชการไทย ทั้งที่เรื่องนี้น่าเป็นการทำลายป่าไม้ที่อยู่ในวงกว้างและยากต่อการนำกลับมาให้มีสภาพได้เหมือนเดิม จึงขอเรียกร้องให้ชาวป่าไม้เราทุกระดับ ควรให้ความสนใจต่อการทำให้มีพื้นที่ป่าไม้เพิ่มขึ้นถึงอย่างน้อยร้อยละ 40 ของเนื้อที่ประเทศตามนโยบายป่าไม้ของชาติกำหนดไว้ ซึ่งต้องต่อต้านการทำลายป่าในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาเหตุที่มาจากหน่วยงานภาครัฐ ที่มักมีการดำเนินงานโดยขาดพื้นฐานทางวิชาการป่าไม้อย่างแท้จริง
ความรู้ไม่ใช่อยู่เฉพาะในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยแต่อยู่ทั่วทุกแห่งที่ไป ทุกคนที่เราพบ ขึ้นอยู่ที่เราจะยอมรับ นำมาคิดและเก็บได้มากน้อยแค่ไหน
@ 
