ความกลัวเป็นสิ่งที่บ่อนทำลายความคิดสร้างสรรค์
 
     
 
เมาป่าไม้
เคยกรำสังเวียนมากว่า 40 ปี จึงผ่านประสบการณ์ด้าน...เมาป่าไม้... มาอย่างโชกโชน ซึ่งทำให้เป็นห่วงและอยากเตือนว่าควรดื่มแบบมีสติเพื่อสุขภาพของพวกเรา
 

•เบียร์-บรั่นดี-อุ-สุรา-ไวน์-ยาดอง

ล้วนเป็นเหล้าเคยเฝัาถองลิ้มลองเล่น

อยู่ในป่าเป็นบางครั้งห่างกฎเกณฑ์

ซัดแต่เพลจนบ่ายค่ำร่ำยันเช้า

 

•เห็นป่าไม้เมากันมาห้าระดับ*

ค่อยขยับตามดีกรีที่ดื่มเหล้า

ประสาทเปลี้ยเสียหลักจากฤทธิ์เมา

นับแต่เบาไปจนหนักยากควบคุม

 

•พอเริ่มก๊งหลงเป็นปราชญ์ฉลาดยิ่ง

รู้ทุกสิ่งเก่งทุกอย่างฟังน่ากลุ้ม

สากกะเบือจนเรือรบครบคลอบคลุม

เด็กยันหนุ่มกะเทยสาวเฒ่าชรา

 

•ดีกรีเพิ่มเริ่มทำเป็นเช่นเศรษฐี

อวดมั่งมีจ่ายแหลกแจกถ้วนหน้า

ทั้งเด็กเสริ์ฟนักร้องน้องตามบาร์

ขอเพียงว่าคอยเอาใจให้แล้วกัน

 

•กรึ่มได้ที่อารมณ์พาศิลปิน

ชักบ้าบิ่นแสดงได้ไม่ไหวหวั่น

พาร้องรำทำเพลงเก่งเมามัน

แหกเสียงลั่นเพราะแค่ไหนก็ไม่รู้

 

•ขั้นเมามึนขึ้นชื่อคือจอมยุทธ์

ใจกล้าสุดทั้งดีเดือดเลือดนักสู้

ใครขวางตาท้าโรมรันเข้าพันตู

ไม่เว้นหมู่เดียวกันฟาดฟันไป

 

•จนตาลายคล้ายมีอิทธิฤทธิ์

เริ่มศักดิ์สิทธิ์เทพเจ้าสิงเข้าไว้

ไม่เกรงกลัวอินทร์พรหมยมบาลใด

กลับบ้านได้งวยงงอยู่ไม่รู้ความ

 

•เตือนชาวป่าระวังไว้ในเรื่องเมา

เลือกสรรเหล้าเอาที่ดีอย่าผลีผลาม

จิบเหมาะดีมิมีโทษประโยชน์งาม

อย่าบุ่มบ่ามระกำทุกข์ถูกเหล้ากิน

 

•ครูนิด วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)

www.lookforest.com

 

หมายเหตุ * "นักปราชญ์รอบรู้ดี เศรษฐีรวยทรัพย์สิน ศิลปินไร้สิ้นสุด จอมยุทธ์บู๊ทุกเหล่า เทพเจ้าจอมงงงวย"

 

แรงดลใจ:

พออายุชักมากขึ้นจนเกือบถึงเกษียณวัย(ที่เดี๋ยวนี้เรียกแแบบถนอมใจว่าวัยบวร)อีกในไม่นานนัก ยอมรับโดยปริยายว่าร่างกายเริ่มอยู่ในขาลงตามลำดับ ไอ้ที่เคยลุยแหลกในเรื่องต่างๆ ก็ต้องพลอยทุเลาลงมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะการดื่มน้ำเปลี่ยนนิสัยที่เคยโปรดปรานเป็นอย่างมาก กลายเป็นต้องคอยหลบหน้าหลบตาพรรคพวก ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากปะทะด้วย ถ้าเลี่ยงไม่พ้น จำเป็นต้องหวด ก็สู้แบบมีชั้นเชิง อ้างโน่นอ้างนี่ สารพัดเหตุผล เพื่อหาโอกาสคอยหนีกลับก่อนอยู่เสมอ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะว่าถ้าติดลมหรือหวดเกินพอเหมาะ กลัวเหลือเกินกับการเมาค้างที่ระยะหลังเจอเป็นประจำ ทั้งที่ถ้าเปรียบกับสมัยก่อนแล้วถือว่าแค่จิบเท่านั้น

 

เคยทบทวนและถามตัวเอง รวมทั้งหมู่เพื่อนพ้องที่สนิทสนมกันเพราะร่วมวงกันมาอย่างยาวนาน ว่าทำไมชาวป่าไม้เราต้องดื่ม"เหล้า"(อันหมายรวมถึงเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีแอลกอฮอล์) กันมากเหลือเกิน ถ้าเทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์แล้ว พวกเราไม่เป็นรองอาชีพอื่นแน่ ทั้งที่ไม่ใช่สิ่งดีหรือโก้เก๋แต่อย่างใด กับทั้งยังเปลืองเงินและสุขภาพอีกด้วย ไม่เชื่อก็ลองคำนวณกันดูเถิด จะพบได้ว่าเงินที่ได้จ่ายไปเพราะกิจกรรมเหล่านี้ นับว่าไม่น้อยเลยทีเดียว บางคนอาจถึงขั้นซื้อบ้านหรือรถยนต์ได้ด้วยซ้ำไป ส่วนเรื่องสุขภาพยิ่งชัดเจนกันมาก พวกระดับเซียนต้ังแต่หนุ่ม มักได้ของแถมมาประดับร่างกายกันคนละโรคสองโรค จนต้องคอยหลบหน้าหลบตา หรือยุติไปก็มีหลายคน

 

นอกจากนี้แล้ว จากประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสล้อมวงมากว่า 40 ปี โดยเฉพาะในช่วงที่เริ่มทำงานป่าไม้ใหม่ๆ ที่ใช้ชีวิตในเรื่องพรรค์นี้แบบสมบุกสมบันอย่างเหลือเกิน พอสรุปได้ว่า โดยทั่วไปแล้วคนไทยเราที่เมา(เหล้า)จำแนกได้เป็น 5 ระดับ ตามปริมาณที่ก๊งเข้าไป กล่าวให้คล้องจองกันได้ว่า "นักปราชญ์รอบรู้ดี เศรษฐีรวยทรัพย์สิน ศิลปินไร้สิ้นสุด จอมยุทธ์บู๊ทุกเหล่า เทพเจ้าจอมงงงวย" ทั้งนี้ถ้าอยู่ใน 3 ระดับแรก ถือว่าพบได้ทั่วไปตามปกติ ซึ่งก็มักจบลงแบบสนุกสนาน หรือที่เรียกว่าแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่บางคนติดลมจนครองสติไม่ได้ ก็มักเตลิดเข้าสู่ระดับที่ 4 และ 5 ที่ให้น่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก ต้องคอยควบคุมกันให้ดีทีเดียว มิฉะนั้นอาจมีผลเสียตามมาอย่างมากมายได้


Last updated: 2018-11-15 22:19:40


@ เมาป่าไม้
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ เมาป่าไม้
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
1,103

Your IP-Address: 3.142.255.23/ Users: 
1,102