"เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย
จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเลย
ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง"
คือกลอนท่านพุทธทาสประกาศไว้
ชาวป่าไม้คิดให้ดีมีค่ายิ่ง
ความหมายลึกตรึกตรองต้องอ้างอิง
ชวนละทิ้งความคิดที่เคยมีมา
ด้วยพวกเราชาวป่าไม้หลายคนนัก
ทำงานหนักทุ่มกายใจได้ก้าวหน้า
เกิดผลงานมากล้นจนลือชา
คนอิจฉาหาเรื่องหมิ่นนินทาเอา
ด้วยกว้างขวางเพื่อนน้องพี่ที่ชื่นชม
ออกสังคมทั้งไม่ปลื้มการดื่มเหล้า
แต่บางคราอารมณ์เพริดเตลิดเข้า
ถูกตราหน้าว่าขี้เมาให้เศร้าทรวง
บ้างไม่หล่อแต่เท่ห์เสน่ห์มาก
จนกระชากใจสาวแอบเฝ้าห่วง
อาจเปลี่ยนแปรเรียนรู้คนคู่ควง
คนจาบจ้วงว่าเจ้าชู้ประตูดิน
บางคนอยากร่ำรวยซื้อหวยหลวง
หวังเสี่ยงดวงโชคชะตาหาทรัพย์สิน
เล่นไม่มากทั้งซวยถูกหวยกิน
คนยังหมิ่นกล่าวหานักพนัน
ใครงานดีมีส่วนด้อยปล่อยเขาเถิด
คนไม่เลิศประเสริฐสุดดุจดังฝัน
เพียงวอนเว้าชาวป่าไม้ให้ตรองกัน
โปรดเลือกสรรประพฤติตามที่ความดี
ครูนิด วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com
แรงดลใจ:
ท่านพุทธทาสภิกขุ หรือพระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินฺทปญฺโญ)
นับได้ว่าเป็นพระสงฆ์รูปหนึ่งที่ทั้งคนไทยและต่างประเทศให้ความเคารพนับถือและศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง
แม้ท่านได้ละทิ้งสังขารไปเมื่อ วันที่ 8 กรกฎาคม 2536 แต่คุณความดีของท่านเป็นที่ประจักษ์
จนองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO)
ได้ประกาศ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2548 ยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก
เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบ 100 ปีชาติกาล ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2549 ท่านเป็นปราชญ์แห่งวงการสงฆ์ ผู้มีอุดมการณ์สูงส่งที่ได้อุทิศตนเองในการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
แล้วนำมาประพฤติปฏิบัติจนมีความเข้าใจและตกผลึกในความคิด ตลอดจนแสวงหาวิธีการที่เหมาะสมในการถ่ายทอดให้กับบุคคลทั่วไป
โดยมุ่งหวังให้ดำเนินชีวิตด้วยความถูกต้องดีงามจนเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป
แนวทางสำคัญด้านหนึ่งก็คือการเขียนบทกลอนเตือนสติหรือให้ข้อคิดที่มีคุณค่ายิ่ง
บทกลอนข้างต้นหลายคนยอมรับว่ามีความคลาสสิคเป็นอย่างมาก
ซึ่งถ้าอ่านแบบผ่าน ๆ ไปก็คงไม่มีความหมายอะไรเท่าใดนัก แต่หากตรึกตรองให้ดีแล้วพบว่าสอดคล้องกับผู้คนในสังคมทั่วไป
รวมทั้งชาวป่าไม้ของเราเป็นอย่างมาก เพราะบทเรียนที่เคยประสบมาด้วยตนเองที่สัมผัสกับคนในวงการอย่างมากมายและยาวนาน
สามารถกล่าวได้ว่าชาวป่าไม้เราเองมักไม่ค่อยยอมรับนับถือกันเท่าที่ควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่เป็น "น้ำดี" หรือมี "ฝีมือ"
ในระดับแถวหน้า ที่มักมีการค่อนขอดกันเองอยู่เสมอ
โดยพยายามหาจุดด้อยของกันมาพูดแทนที่จะพูดถึงส่วนดีของคนอื่นที่ได้ทำให้แก่วงการป่าไม้
เพื่อให้บังเกิดผลดีขยายออกไปอย่างกว้างขวาง หากไม่เชื่อลองทบทวนดูจากตัวท่านเองหรือคนข้างเคียงก็ได้
อย่างไรก็ตาม มีชาวป่าไม้หลายคนทั้งรุ่นพี่
เพื่อน และน้องที่ดำเนินชีวิตตามแนวคำสอนของท่านพุทธทาสข้างต้น พบว่าบุคคลเหล่านี้มักเป็นผู้มีความสุขในชีวิตตนเองระดับหนึ่ง
แม้บางครั้งตำแหน่งหน้าที่การงานและฐานะทางการเงินอาจไม่โดดเด่นนักก็ตาม ทั้งนี้หลายคนได้ปรับเปลี่ยนนิสัยจากในอดีตมาสู่ปัจจุบันอย่างไม่น่าเชื่อ
เคยแอบสอบถามพบว่าได้ผ่านการอบรมหรือศึกษาเกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น
หรือใช้บทเรียนที่ตัวเองประสบมาทบทวนค้นหาความจริง ทำให้มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติในบางด้าน
โดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นผู้สูงวัยหรือเกษียณอายุราชการไปแล้ว
ดังนั้นจึงน่าจะหาวิธีที่ทำให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสศึกษาและเรียนรู้เพื่อปรับพฤติกรรมของตนโดยเร็ว
อันจะก่อให้เกิดผลดีกับตัวเองและวงการป่าไม้มากขึ้นนั่นเอง
Last updated: 2018-06-03 13:25:57