รักตนเอง รักครอบครัว รักองค์กร
 
     
 
พยัคฆ์ลาไพร...มณฑลคนปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
เมื่อทุกท่านให้ฉายาท่านมณฑล เป็นผู้ให้นั้นถูกต้องแล้ว สำหรับผู้เขียนนั้นขอให้สมญาว่า“ผู้ปิดทองหลังองค์พระปฏิมา”หากไม่มีใครปิดทองหลังองค์พระเสียบ้าง แล้วจะทำให้องค์พระท่านบริบูรณ์ได้อย่างไร
 

แสนเสียดายนักอนุรักษ์ป่าดงพงไพรที่เต็มและเปี่ยมไปด้วยอุดมการณ์ เป็นหลักชัยทางด้านวิชาการให้เหล่าบรรดานักสู้ผู้พิทักษ์  เปรียบดั่งเสนาธิการของกองทัพ หากเป็นกองถ่ายหนังหรือละครก็คือ คนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งความสำเร็จของงานนั้นๆ ในด้านนิสัยใจคอผู้เขียนในฐานะรุ่นพี่วนศาสตร์ รุ่น 34 ขอน้อมคาราวะ   และในฐานะผู้ร่วมอุดมการณ์นักเขียนบทความ     ในเว็ป www.lookforest.com ทราบข่าวว่าท่านจากเราไปจากคุณวิสูตร อยู่คง  เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 นี้เนื่องจากไปร่วมงานสังสรรค์รุ่น ที่จังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากเป็นเจ้าภาพแต่เนื่องจากขับรถทางไกลไม่ได้ เพราะไปผ่าต้อกระจกที่ดวงตาทั้งสองข้าง และที่หายหน้าหายตาไม่ได้เขียนบทความมาร่วมสนุกก็เนื่องจากเหตุนี้ ทันทีที่ทราบข่าวก็ตกใจและอดเสียใจและเสียดายแทนวงการป่าไม้ไทย ที่ต้องสูญเสียบุคลากรอันทรงคุณค่าไปทั้งๆ ที่ไม่น่าจะเกิดเหตุเช่นนี้เลย สวรรค์ช่างไม่มีตาเอาเสียเลย ป่าไม้บางคนแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน ไม่ยักกะเอาไปใช้ เปลืองบำเหน็จบำนาญ เสียเปล่า...

 

ถ้าถามกันตรงๆ ผู้เขียนไม่ได้รู้จักตัวตนของท่านเลย เรียนไม่ทันรุ่นกัน ทำงานก็ไม่เคยร่วมงานกัน เคยเห็นแต่ภาพถ่ายเมื่อท่านเกษียณราชการ แต่ผู้เขียนขอบอกทุกท่านว่าตนเองเสมือนรู้จักตัวท่านดี ทุกท่านอยากจะถามว่ารู้ได้อย่างไร แม้คุณวิสูตร อยู่คง ก็ไม่เคยเล่าประวัติให้ฟัง แต่ขอบอกให้ทุกท่านทราบว่าที่รู้จักท่านก็เนื่องจากบทความที่ท่านลงในลุ๊กฟอร์เรส (www.lookforest.com) ครั้งนั่งเขียนหนังสือยังเคยนึกจะยกข้อเขียนของท่านมาช่วยเติมเต็มบทความ ความรู้ของท่านที่ได้แสดงต่อสาธารณะหากพี่ๆ เพื่อน และน้องคนใดยังไม่ได้อ่านก็ขอให้หยิบมันขึ้นมาแสวงหาความรู้ด้านป่าไม้ได้แล้ว หากได้ออกปฏิบัติงานในภาคสนามจะได้มีความมั่นใจ อย่าให้เหมือนกามนิตหนุ่มในเรื่อง กามนิต-วาสิฏฐี เรื่องย่อที่ว่า  พ่อกามนิตหนุ่มนั่นคลั่งไคล้ในตัวพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เจ้าชายสิทธัตถะ  ว่าท่านเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ชื่อเสียงก้องไปทั้งชมพูทวีป  แต่ตนเองไม่เคยได้ศึกษาคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแม้แต่น้อย มีความประสงค์หรือต้องการเห็นได้สัมผัส  จึงดั้นด้นตามหา เปรียบได้ว่าสุดหล้าฟ้าเขียวโดยทีเดียว  วันหนึ่งมาถึงเมืองหนึ่งใกล้ค่ำจึงไปขอพักอาศัยนอนกับชาวชนบท  ซึ่งได้พักแรมในโรงวัวกับนักบวชท่านหนึ่ง ตลอดเวลาทั้งคืนได้ชวนนักบวชคุยถึงพระพุทธเจ้า และสนทนาธรรมะไปด้วย  รุ่งเช้าต่างก็ลากันแยกย้ายไป ตนเองก็ไปตระเวนถามหาจากชาวบ้าน ได้ข่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เดินทางไปทางต้นโพธิ์สามต้น  อาการรีบร้อนจึงวิ่งตามไป โดยไม่ดูตาม้าตาเรือไปถึงกลางหมู่บ้าน มีวัวบ้าตัวหนึ่งวิ่งบรรจบพบกันจึงถูกวัวบ้าขวิดตาย  อนิจจังกามนิตหนุ่ม ตนได้หารู้ไม่ว่าตนเองนั้น ได้พบและสนทนากับพระพุทธเจ้าทั้งคืนแล้วที่โรงวัว  ความที่ไม่เคยศึกษาธรรมะที่พระองค์เผยแพร่สั่งสอนนี้เลย  ถ้าได้ศึกษามาบ้าง คงจะเฉลียวใจ  แต่อานิสงส์ที่ยังได้นั่งคุยกับพระพุทธเจ้า  จึงได้ไปเกิดบนสรวงสวรรค์  เป็นที่มาของคำดำรัสพระพุทธเจ้าว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การรู้จักกันทางแนวความคิด ความรู้ที่ถ่ายทอดทางภาษาหนังสือ ก็ทำให้สามารถรู้ถึงอุดมการณ์ เมื่อทุกท่านให้ฉายาท่านมณฑล เป็นผู้ให้นั้นถูกต้องแล้ว สำหรับผู้เขียนนั้นขอให้สมญาว่า “ผู้ปิดทองหลังองค์พระปฏิมา”   หากไม่มีใครปิดทองหลังองค์พระเสียบ้าง แล้วจะทำให้องค์พระท่านบริบูรณ์ได้อย่างไร... กรรมดีคงพาท่านอาจารย์ไปยังภพภูมิที่เหมาะสม....ขอคาราวะ


Last updated: 2017-12-07 08:41:56


@ พยัคฆ์ลาไพร...มณฑลคนปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ พยัคฆ์ลาไพร...มณฑลคนปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
662

Your IP-Address: 18.218.254.122/ Users: 
661