การป่าไม้ ในยุค คสช.
สิ้นแร้งกาพลพรรคนักการเมือง
หวังรุ่งเรืองก้าวไกลใจจดจ่อ
การป่าไม้ในยุค
คสช.
โอละพ่อดูบ้อท่าอนิจจัง
เรื่องแต่งตั้งโยกย้ายยังใช้เส้น
ต้องวิ่งเต้นเล่นที่พึ่งจึงมีหวัง
แค่เปลี่ยนขั้วซ่องสุมคุมกำลัง
การใช้ตังค์ต่างว่าแค่ซาลง
ยังหนาหูเหลือเกินกับเงินทอน
ลือกระฉ่อนงานไม่ดีเรื่องขี้ผง
ยิ่งนานวันพาลแย่ได้แต่ปลง
พวกซื่อตรงคงพลอยละห้อยใจ
การทวงคืนผืนป่าเคยมาแรง
ค่อยอับแสงด้วยหงอชนตอใหญ่
อธิบดีที่ว่าเก่งถูกเด้งไป
อนิจจาป่ายึดได้ทำไงดี
ป่าสมบูรณ์ชั้นดีอยู่ที่ไหน
ประกาศให้อนุรักษ์เพิ่มศักดิ์ศรี
กันคนออกจากป่าอย่าคลุกคลี
เจ้าหน้าที่พร้อมแค่ไหนให้หวั่นเกรง
ป่าเศรษฐกิจเพิ่มไปไม้หวงห้าม
เหมือนคุกคามสิทธิ์คนโดนข่มเหง
ประชาชนเลิกปลูกป่าพายำเยง
จึงวังเวงยิ่งนักยากบรรยาย
ป่าชุมชนอยากให้มีทวีคูณ
เร่งเพิ่มพูนปริมาณอันหลากหลาย
คุณภาพไม่คำนึงจึงเสียดาย
ทั้งกฎหมายยังชะงักยากออกมา
ส่วนวันแมปพื้นที่ป่าว่าเร่งเสร็จ
เจอทีเด็ดเรื่องไหนไยล่าช้า
เกือบสองปีเนิ่นผ่านกาลเวลา
หรือชาติหน้าตอนบ่ายได้ใช้กัน
จากผลงานที่มีเห็นทีจอด
เหมือนตาบอดคลำช้างช่างน่าขัน
ขอร้องเถิดเลิกเสียทีตะบี้ตะบัน
อย่าดึงดันสร้างวุ่นวายป่าไม้เลย
ครูนิด
วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com
แรงดลใจ:
แม้ออกจากกรมป่าไม้มาเกือบ
27 ปีแล้ว ซึ่งก็ยอมรับว่าตัวเองมิใช่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานป่าไม้โดยตรง
แต่คงเพราะเรียนจบและยังทำงานที่เกี่ยวข้องกับทางด้านนี้อยู่
เลยยังติดตามข่าวคราวเกี่ยวกับป่าไม้มาโดยตลอด
บางทียังรู้สึกว่ามากกว่าพวกอยู่ในวงการเสียด้วยซ้ำไป ไม่ว่าการสอน การเป็นวิทยากร
การอ่านเอกสาร การเข้าร่วมประชุมหรือสัมมนา การทำวิจัย
การสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่น(ทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อาจารย์ นักวิชาการ
ชาวบ้านฯลฯ) กับทั้งเมื่อเห็นมีประเด็นป่าไม้ที่น่าสนใจทั้งด้านบวกหรือลบ
ก็มักอดรนทนไม่ไหว ต้องขอแสดงความเห็น(ส่วนตัว)ออกมาบ้าง
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แน่นอนว่าอาจเป็นที่ถูกใจหรือขัดใจกับบางคน(หรือท่านก็ตาม)
จนเพื่อนฝูงที่สนิทสนมหลายคน
รวมทั้งคนที่บ้านมักตั้งข้อสังเกตว่าทำไมต้องไป(เสือก)ยุ่งเรื่องของคนอื่นเขาด้วย
ก็ขอสารภาพว่าเป็นเพราะต้องการเห็นวงการป่าไม้ดีมากขึ้นในทุกมิติ(ของตัวเอง)เท่านั้น
คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน
ด้วยติดตามเรื่องป่าไม้ในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มาโดยตลอด
นับแต่การเถลิงอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นับถึงวันนี้
ก็กว่า 3 ปี 4 เดือนแล้ว
ระยะแรกก็รู้สึกให้ความศรัทธาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการทวงคืนผืนป่า ที่เรียกร้องให้ดำเนินการกับพวกอิทธิพลและนายทุนรายใหญ่เสียก่อน
แต่พอระยะเนิ่นนานเข้า
ความรู้สึกกลับมีความสัมพันธ์ทางสถิติโดยตรงกับผลงาน(ด้านป่าไม้)ที่ประเมินได้
ในภาพรวมคงไม่กล้าให้คะแนนตก ได้แต่มีข้อเสนอให้ต้องปรับปรุงในหลายด้าน
(ซึ่งอาจขัดแย้งกับบางท่านก็ได้เพราะความคิดเห็นหรือค่านิยมของคนย่อมแตกต่างกันได้
จากปัจจัยในหลายๆด้าน) ส่วนด้านใดและรายละเอียดเป็นอย่างไร
คงต้องมีการประเมินหรือวิจัยกันออกมาอย่างแท้จริง
เพียงแต่ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเปิดใจกว้างเท่านั้น
ขอย้ำว่าบทกลอนที่นำเสนอนี้
เป็นเพียงความคิดเห็น ที่สะท้อนจากความรู้และประสบการณ์ทางด้านป่าไม้ที่สะสมมาเกือบ
40 ปีของตัวเองเท่านั้น มิได้มีเจตนาดูหมิ่นหรือลบหลู่ผู้ใด
หากทำให้ผู้ใดขุ่นข้องทางอารมณ์บ้าง ก็ต้อง(กราบ)ขออภัย มา ณ ที่นี้
กับน้อมรับคำแนะนำดัวยความยินดี ทั้งนี้หากสิ่งใดมีคุณประโยชน์อยู่บ้างก็ขอมอบแด่บูรพคณาจารย์ที่สั่งสอนวิชาการป่าไม้ให้ตัวเองในทุกระดับ
นอกจากนี้ยังขอเรียกร้องให้บรรพวนกรและรุ่นพี่ป่าไม้วัยเก๋า(ผู้ที่ถึงวัยบวรแล้ว)
ได้ออกมามีส่วนช่วยกันในการจรรโลงป่าไม้ของเราให้เจริญรุ่งเรืองในทุกมิติหรือตามศักยภาพของท่าน
ด้วยเห็นใจชาวป่าไม้ที่อยู่ในวงราชการซึ่งยังคงมีระเบียบและวินัยค้ำหัวอยู่นั่นเอง
Last updated: 2017-10-13 09:21:52