�
"...มันเป็นอุบายของคนบาปหนา� แจกป่าสงวนปลูกสวนยูคา
ยูคา ยูคา ยูคาลิปตัส ใช้ทำกระดาษไม่ใช่ปลูกป่าๆๆๆๆ"*
•ฟังน้าแอ๊ดร้องบ่นแถมก่นด่า
ชวนหดหู่ปลูกยูคาพาเสียหาย
ทั้งประโยชน์แสนดีมีมากมาย
ต้องกลับกลายเป็นซาตานมารสังคม
•อันยูคานั่นหรือคือพันธุ์ไม้
เลือกปลูกได้ในดินถิ่นเหมาะสม
ที่ต้นน้ำอย่าปลูกไปไม่นิยม
คนชื่นชมตัดขายรายได้ดี
•พืชต่างถิ่นเมืองไทยหลายชนิด
โปรดพินิจคิดไปให้ถ้วนถี่
นำปลูกใช้สร้างคุณค่ามานานปี
ทุกถิ่นที่ทั้งขยายกลายพันธุ์มา
•ทีนิโกรฝรั่งคนต่างชาติ
เห็นเกลื่อนกลาดระเกะไปกลับไม่ว่า
ก่อเสียหายหลายด้านผลาญเงินตรา
บ้างยังคว้าหาคนไทยทำผัวเมีย
•แม้ดนตรีภาษาศิลปกรรม
วัฒนธรรมการแต่งกายไทยสูญเสีย
เป็นลูกครึ่งพันทางยังร้องเชียร์
น่าละเหี่ยให้อดสูกลับบูชา
•สัตว์หลายอย่างมีภัยใยยอมเสี่ยง
นำเข้าเลี้ยงฟูมฟักเฝ้ารักษา
ก่อเกิดโทษอันตรายไม่นำพา
ไร้เสียงว่าเพิกเฉยละเลยกัน
•หากวางแผนให้ถูกปลูกยูคา
มีเงินตรามาใช้ได้ดั่งฝัน
ด้วยโตเร็วเลือกได้ตามสายพันธุ์
จึงตัดฟันขายใช้ในไม่นาน
•อันต้นไม้พืชพรรณยันไผ่หญ้า
ขึ้นมากมายกลายเป็นป่าพาเรียกขาน
ก่อประโยชน์มีคุณค่าใช่ซาตาน
วอนอย่าต้านก่นด่ายูคาเลย
.ครูนิด วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com
หมายเหตุ
*เนื้อร้องท่อนจบของเพลงยูคา ในอัลบั้มชุดแจกกล้วย แต่งและร้องโดยยืนยง
โอภากุล(แอ๊ด คาราบาว) เมื่อปี���� พ.ศ.2538
แรงดลใจ:
เขียนกลอนบทนี้ขึ้นมามิได้มุ่งหวังต่อต้านหรือคัดค้านยืนยง
โอภากุลหรือแอ๊ด คาราบาว(ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง
ด้านนักร้อง-นักประพันธ์เพลงไทยสากล ประจำปี พ.ศ.2556) ผู้โด่งดังแต่ประการใด
เพราะเคารพในมุมมองของท่านที่มีต่อต้นยูคาหรือยูคาลิปตัส
เชื่อว่าท่านคงมีประสบการณ์และข้อมูลในบางด้านอยู่พอสมควร
แต่ขณะเดียวกันในฐานะที่มีประสบการณ์และข้อมูลของต้นยูคามานานปี
กลับมีมุมมองที่แตกต่างออกไปบ้าง ก็ยอมรับว่าต้นยูคาไม่เหมาะกับการนำมาปลูกในบางพื้นที่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ต้นน้ำลำธารเพราะค่อนข้างใช้น้ำมาก
แต่บางพื้นที่ก็สามารถปลูกยูคาได้เป็นอย่างดี
ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และการจัดการของการปลูก
ในประเทศไทยเรามีผู้ประสบความสำเร็จจากการปลูกต้นยูคาอย่างมากมายทั้งรายเล็กและรายใหญ่
ซึ่งพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับท่านที่ต้องการได้ เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจว่าจะปลูกต้นยูคาดีหรือไม่
อันที่จริงแล้ว
หลายสิ่งหลายอย่างในเมืองไทยเราหรือแม้แต่ในทุกประเทศ
ล้วนต่างมีการนำเข้าทั้งสิ่งที่เป็นรูปธรรม(จับต้องหรือมองเห็นได้)และนามธรรม(จับต้องหรือมองเห็นไม่ได้)
อย่างมากมาย ซึ่งในขณะที่คนหนึ่งมองว่าเป็นประโยชน์ แต่อีกคนหนึ่งอาจมองตรงกันข้าม
กล่าวคือ ไม่มีประโยชน์หรือมีโทษก็ได้ ขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตและประสบการณ์ของแต่ละคน
จึงไม่ควรบังคับให้ทุกคนต้องมีความเห็นที่คล้อยตามกันในทุกด้าน
มิฉะนั้นอาจก่อให้เกิดการขัดแย้งเช่นที่เคยผ่านมา ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ก็คือ การไม่ยอมรับกันทางความคิดเห็นที่แตกต่างกันทางการเมืองที่ผ่านมา
ทำให้ประเทศชาติเราต้องอยู่ในการควบคุมของรัฐบาลทหารมาจนทุกวันนี้
ความคิดเห็นที่แตกต่างกันต่อการปลูกยูคา มีมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี
จึงยากที่จะหาข้อยุติได้อย่างง่ายดาย
โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีผลประโยชน์ในด้านหนึ่งด้านใดแอบแฝงอยู่ด้วย(มิได้มุ่งหวังให้ฝ่ายทหารต้องเสียเวลามาควบคุมเรื่องยูคานี้ด้วย
เพราะอาจเข้ารกเข้าพงมากยิ่งขึ้น)
แม้มีการกล่าวถึงพืชและสัตว์ที่เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่น
ที่เกรงว่าอาจสร้างภาวะคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ
ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางระบบนิเวศและอาจทำให้ชนิดพันธุ์ท้องถิ่นในเมืองไทยต้องสูญพันธุ์ลงได้ก็ตาม
แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมาให้สาธารณชนรับรู้กันอย่างกว้างขวาง
จากหน่วยงานเป็นกลางที่เชื่อถือได้ ว่าพืชและสัตว์ชนิดใดบ้าง
ที่ต้องทำการกำจัดหรือทำลายให้หมดสิ้นจากเมืองไทยอย่างแท้จริง� สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่า ก็คือ
ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่เป็นคน
เพราะมีอิทธิพลในด้านต่างๆอย่างมากมายทั้งในด้านบวกคือการสร้างสรรค์และด้านลบคือการทำลาย
�เพียงแต่ว่าอะไรคือบวกและอะไรคือลบ
ที่ทุกคนมีความเห็นตรงกันเท่านั้น� ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายในการหาข้อพิสูจน์
ดังนั้นการจะปลูกยูคาดีหรือไม่
ท่านต้องหาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้พร้อมหรือทำการทดลองด้วยตนเอง
จึงจะหาข้อสรุปที่ชัดเจนอันจะส่งผลต่อการตัดสินใจที่ถูกต้องต่อไป
�

Last updated: 2016-05-11 15:01:58