๏สิ้นเมฆหม่นฝนซาฟ้าก็ใส
น้ำตาเอยที่เคยไหลกลายกลับแห้ง
ชีพมืดมัวหมองหม่นจนสิ้นแรง
เริ่มมีแสงส่องทางที่กลางไพร
๏ทนแบกโลกทรมานมานานนัก
ร้าวราวหนักปวดแปลบแทบไม่ไหว
คนแสนรักกลับร้างเหินห่างใจ
ตัดเยื่อใยทิ้งคำมั่นเคยสัญญา
ลืมสัมพันธ์วันเก่าเราทุ่มสร้าง
พร้อมร่วมทางห้องหอที่รอหา
สร้างความฝันกันอยู่คู่วนา
ตราบชั่วฟ้าดินสลายใจผูกพัน
๏ทั้งมุ่งหมายฝ่าฟันสู้งานหนัก
ใฝ่พิทักษ์รักษ์สัตว์ป่าพนาสัณฑ์
ให้ยืนยงคงคู่ไทยไปชั่วกัลป์
ไม่ไหวหวั่นแม้ภัยพาลมารานรอน
๏กระไรเลยรักมีที่แน่นหนัก
กลับแปรพักตร์ร้างไปให้ทอดถอน
เพียงแค่เงินเขาหว่านใจให้บังอร
เจ้าจึงจรจากลับไม่กลับคืน
๏คนแพ้พ่ายกลายเศร้าอย่างหนาวเหน็บ
ทั้งปวดเจ็บช้ำอายให้สุดฝืน
เห็นเธอสุขเคียงเขาเฝ้ากล้ำกลืน
แสนขมขื่นต้องหนีไกลในพนา
๏โชคยังดีพบน้องนางแม่กลางไพร
สานเยื่อใยดามอกหักคอยรักษา
ด้วยหัวใจจริงจังทั้งเมตตา
เฝ้าเยียวยาแผลใจจนหายดี
๏ยินข่าวนวลช้ำรักอกหักบ้าง
คงไม่ต่างคนพ่ายแพ้แต่ก่อนนี้
รอฝนซาฟ้าใสให้เข้าที
คอยเศรษฐีที่ตาต่ำดามอกเธอ
ครูนิด วน.43 (ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com
แรงดลใจ:
คนเราทุกคนเกิดมาต้องเผชิญความผิดหวังกันบ้างในชีวิต จะหนักหนาสาหัสเพียงใดยากที่จะคาดเดา ดังคำที่ว่า กัมมุนา วัตตตีโลโก กับทั้งแต่ละคนย่อมมีการปรับตัวเองต่อความทุกข์ที่เกิดขึ้นแตกต่างกันออกไป บางคนใช้เวลาที่รวดเร็วปานนกกระจอกยังไม่ทันจิบน้ำก็ปรับตัวปรับใจได้แล้ว แต่บางคนทุรนทุรายยอมแม้ทำร้ายตัวเองจนถึงขั้นเอาชีวิตเข้าแลกหรือสังเวยก็มี ทั้งนี้โปรดอย่าดูหมิ่นดูแคลนหรือซ้ำเติมเขาเหล่านั้น ความเป็นจริงแล้วน่าเห็นใจด้วยซ้ำไป คนที่ไม่เคยลิ้มรสด้วยตนเองอาจไม่รู้สึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร้าวรวดดวงใจจากการผิดหวังในความรักของหนุ่มสาวที่ยากต่อการบรรยาย หากไม่เชื่อก็ลองหาประสบการณ์เอาบ้าง หรือถ้าชีวิตเกินวัยไปแล้ว แนะนำให้หาหนังสือนิยายของนักเขียนที่มีชื่อเสียงมาอ่านดู ถ้ายังไม่รู้ว่าใครอีก ก็ขอแนะนำให้สักคนคือ ยาขอบ เพียงแต่ต้องอ่านด้วยความละเมียดละไมเท่านั้น
ชาวป่าไม้เราเองก็มีตำนานในเรื่องรักๆใคร่ๆกันอยู่บ้าง มีทั้งที่สมหวัง(แต่ผิดหวังในเรื่องอื่น โดยเฉพาะการได้ตำแหน่งที่หมายปอง) และที่ผิดหวังในระดับความรุนแรงที่ไม่เท่ากัน คนที่สามารถยืนหยัดอยู่ในสังคมชาวไพรและโลกอันผกผันใบนี้อยู่ได้ ต้องอาศัยการปรับตัวมิให้จมปลักอยู่ในวังวนของความเศร้าหมองที่มีอยู่ กับทั้งพยายามใช้ศักยภาพของตังเองที่มีอยู่ก้าวเดินไปด้วยความมั่นคง อย่าไปไหวหวั่นกับอดีตที่ผ่านมา มันอาจต้องใช้เวลานาน(แม้จนตาย)ในการเยียวยาก็ไม่เป็นไร เพราะมันจะค่อยๆทุเลาไป เปรียบเสมือนการทดแทนของระบบนิเวศป่าไม้ในพื้นที่เสื่อมโทรม หากปล่อยเอาไว้มันก็จะดีขึ้นได้ เพียงแต่ระวังอย่าให้มีปัจจัยเลวบางด้านเข้ามาคุกคามเท่านั้น กรณีที่ต้องการให้ระบบนิเวศป่าไม้นั้นดีขึ้นในเร็วพลัน ก็ต้องหาพันธุ์ไม้เข้ามาปลูกเสริมในพื้นที่ เพียงแต่ต้องคัดเลือกพันธุ์ที่ดีตามที่ใฝ่ฝันและเหมาะสมกับพื้นที่จริงๆ พร้อมกับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการไม้และบริบทที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก็จะได้ป่าที่สมบูรณ์ตามเจตนาในชีวิตอย่างแน่นอน
ขอส่งกำลังใจมาให้แก่ผู้ผิดหวังทุกคนทุกรูปแบบ กับทั้งยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์การผิดหวัง ด้วยการถ่ายทอดเป็นบทกลอนทาง lookforest นี้ จะได้ช่วยเพิ่มสีสันและอรรถรสทางอารมณ์ให้มากขึ้น(นะจ๊ะ)
Last updated: 2014-09-05 07:00:50