๏เมื่อสาวกรุงทอดไมตรีหนุ่มยี่สาร
ดอกรักผลิคลี่บานทั้งหวานหอม
ชีพกล้าพลีทูลถวายให้พะยอม
กายใจพร้อมเช่นทาสข้าบาทเธอ
๏แต่ศักดิ์ศรีหลายอย่างต่างกันทั่ว
จึงเจียมตัวเจียมใจไว้เสมอ
ดินไกลฟ้าคนละฟากยากได้เจอ
เพียงพลั้งเผลอพอประจักษ์รักจึงคลาย
๏ครั้นเรียนจบเป็นป่าไม้ตามใฝ่ฝัน
ความสัมพันธ์ก็จืดจางเริ่มห่างหาย
ป่ากับเมืองจริตต่างอย่างมากมาย
เพลงสุดท้ายเธอเอ่ยลาสุดจาบัลย์
๏แอบรอคอยด้วยใจในห้วงลึก
ที่รู้สึกภักดิ์เธออย่างเพ้อฝัน
หวังเมตตาจานให้คนไพรวัน
อกไหวหวั่นแม้ทางแสนห่างไกล
๏ต้องเผชิญความจริงสิ่งปวดร้าว
เมื่อยินข่าวสุดระทมตรมหมองไหม้
เธอเริ่มมีคนเมืองเฟื่องฟูใจ
คนอยู่ไพรบอบช้ำอิ่มน้ำตา
๏เพียรทวงหาย้อนอดีตเคยชิดใกล้
กลับถูกเหยียดหยามใจให้ด้อยค่า
ทั้งผลักใสดูหมิ่นสิ้นราคา
ยิ่งหมดท่าแพ้พ่ายตายทั้งเป็น
๏ต้องซมซานหดหู่อยู่กลางป่า
คอยหลบลี้หนีหน้าเกินกว่าเห็น
เจ็บแผลใจกลืนกล้ำสุดลำเค็ญ
เหมือนถูกเชือดอย่างเลือดเย็นไร้เห็นใจ
๏คนพ่ายแพ้เหงาใจไม่เลยละ
คนชนะสุขล้นเคียงคนใหม่
หมั่นทำบุญกรวดน้ำคว่ำขันไป
ขอชาติใดอย่าประสบได้พบกัน
๏ก้าวให้เลิศเพริดให้ดีเพลงชีวิต
ให้สมจิตหวังไว้ได้สุขสันต์
เพียงแต่รักที่เลือกใหม่ในชีวัน
จะสมฝันน้อยมากสักเพียงใด
๏ฝันไปเถิดรักใหม่ในชาตินี้
คงไม่มีที่มากจริงทั้งยิ่งใหญ่
แม้แค่ครึ่งคนยี่สารคนบ้านไพร
เคยมอบให้จากใจแท้แก่สาวกรุง
ครูนิด วน.43 (ชมรมสีเสียดแก่น)
แรงดลใจ:
หนุ่มป่าไม้ส่วนใหญ่แล้วมาจากภูธรที่มักเด๋อด๋าในหลายเรื่อง ทั้งมักไม่ประสีประสากับเรื่องรักๆใคร่ๆกับเพศตรงข้าม (รวมทั้งเพศเดียวกันสำหรับบางคน) เพียงแต่มีความจริงใจและจริงจังกับชีวิตเป็นอย่างมาก บางคนพยายามยกระดับตัวเองเป็นหนุ่มกรุง(ที่หลงคิดว่าดี)เพื่อให้เทียมทันกับสาวกรุงที่หมายปอง แต่ในระยะยาวมักไปไม่รอดเพราะเป็นการฝืนจริตความเป็นบ้านนอกของตนเอง แต่ในกรณีหากผู้สาวปรับใจจนยอมรับได้อย่างสนิทใจก็นับว่าเป็นโชคดีหรือบุญกุศลอันใหญ่หลวงของเขาไป
ที่ผ่านมามีหลายคนต้องเผชิญกับความทุกข์ระทมของการอกหัก จึงระบายให้ฟังในคราวล้อมวงดื่มน้ำอมฤตอยู่เนืองๆ(ทั้งที่มิได้เป็นศิราณีสักหน่อย) ซึ่งก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มากไปกว่าการปลอบใจและซื้อปัจจัยในการสร้างอารมณ์ชาวไพรเพิ่มเติม ท้ายที่สุดอาจลงเอยด้วยการร้องเพลงเศร้าเคล้าน้ำตา หรือบางคราก็พาไปเยี่ยมเยียนสถานบันเทิงที่มีน้องนางช่วยสมานใจ(ชั่วคราว)ตามอัตภาพทางทรัพย์สินที่มีอยู่ในขณะนั้น ครั้นพอสติครบบริบูรณ์ต่างมักฟูมฟายว่าทำไปได้อย่างไร
อันที่จริงแล้วหนุ่มป่าไม้(บ้านนอก)นั้นเปรียบเสมือนตัวเพรียงในป่าชายเลนที่ดูแล้วขะมุกขะมอมไม่น่าชมหรือชวนบริโภค แต่มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก โดยเฉพาะความเชื่อทางด้านการเพิ่มพลังการสืบต่อเผ่าพันธุ์ของมวลมนุษยชาติ หากไม่เชื่อก็คงต้องลองด้วยตนเองแล้วจึงซึ้งถึงคุณค่าของมัน อย่างไรก็ตามขอเตือนสติบรรดาคนท้องถิ่นให้เจียมตนเจียมใจไว้อยู่เสมอ จักได้ไม่เศร้าหมองและทุกข์เวทนามากเกินไป ยามสัมผัสรสของความผิดหวังที่อาจเกิดขึ้นแบบมิรู้เนื้อรู้ตัวเหมือนบางคนที่เคยเผชิญมาแล้วก็ได้
Last updated: 2014-08-02 07:27:15