.ประทับใจชาวบ้านย่านโคราช
ร่วมประกาศร้องผ่านท่านผู้ว่า
ส.ป.ก.ออกโฉนดลดเลี้ยวมา
ต้องสืบหาให้กระจ่างเป็นอย่างไร
.มีมูลว่าข้าราชการคนชั้นสูง
ร่วมชักจูงรู้เห็นเป็นใจให้
ตั้งสามแปลงรวมเนื้อที่สี่สิบไร่
เกิดสงสัยยิ่งนักอยากรู้จริง
.ที่รอบข้างล้วนต่างเป็น ส.ป.ก.
ชาวบ้านขอเป็นโฉนดโคตรยากยิ่ง
เจ้าหน้าที่มีกฎหมายใช้อ้างอิง
ถูกประวิงยับยั้งไว้นานหลายปี
.ถ้ารายนี้ที่ออกมาโฉนดได้
แล้วทำไมกับชาวบ้านค้านเต็มที่
หรือว่าสองมาตรฐานหน่วยงานมี
เป็นเช่นนี้ขาดชอบธรรมน่าช้ำใจ
.ส.ป.ก.อีกหลายรายในโคราช
ที่ประหลาดคล้ายยกเว้นกฎเกณฑ์ได้
ด้วยเปลี่ยนมือซื้อขายถ่ายโอนไป
เจ้าของใหม่ใหญ่เหลือเกินรวยเงินตรา
.ทั้งไม่ทำกิจการด้านเกษตร
แสนทุเรศทำตามใจที่ใฝ่หา
ทั้งรีสอร์ทใหญ่โตโอฬารมา
เหมือนทายท้าพาสำรวจตรวจสอบกัน
.เจ้าหน้าที่ทำเพิกเฉยละเลยทั่ว
อาจคงกลัวในอำนาจจนหวาดหวั่น
หรือมีนอกมีในให้ครามครัน
จึงเงียบงันปล่อยใหัย้ำทำผิดไป
.เรียนผู้ว่าเมืองโคราชเด็ดขาดเถิด
ทำให้เกิดชอบธรรมดำรงไว้
เร่งตรวจสอบ ส.ป.ก.อย่าหงอใคร
เป็นหลักชัยตามตัวบทกฎหมายมี
.ครูนิด วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com
แรงดลใจ: สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดนครราชสีมา รายงานผ่านออนไลน์ โดยพาดหัวข่าวว่า "ชาวบ้านร้องผู้ว่าโคราชตรวจสอบ มีอดีตข้าราชการระดับสูง นำที่ สปก ไปออกเป็นโฉนดจำนวน 3 แปลง กว่า 40 ไร่ กับทางสำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา" ทั้งนี้ในเนื้อข่าวพอสรุปได้ดังนี้
"ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ บ้านมาบกราดพัฒนาหมู่ 6 ตำบลมาบกราด อำเภอพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมา มีความเคลือบแคลงสงสัย ที่ดินทำกินสมัยปู่ย่าตายาย นานกว่า 50 ปีโดยพื้นที่บางคนมีที่ดินเป็น สค.1 และบางรายเป็นที่ ส.ป.ก. เคยไปขอออกโฉนดกับทางสำนักงานที่ดิน แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยกล่าวว่าเป็นที่ ส.ป.ก.ไม่สามารถออกโฉนดได้ แต่ต่อมาเมื่อประมาณ ปี พ.ศ 2548 กลับมีข้าราชการระดับสูง นำที่ สค.1หรือที่ ส.ป.ก.ไปขอออกโฉนดกับสำนักงานที่ดินดังกล่าวได้ โดยแบ่งออกโฉนดทั้งหมด 3 แปลง เนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ โดยพื้นที่รอบข้างกว่า1,000 ไร่ เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. จนสร้างความสับสนให้กับพี่น้องประชาชนชาวตำบลมาบกราด ว่าทำไมถึงออกโฉนดได้ จึงร้องเรียนไปทางผู้สื่อข่าวให้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ช่วยตรวจสอบเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าวด้วย หากออกให้กับข้าราชการระดับสูงได้ก็ต้องออกโฉนดให้กับชาวบ้านได้เช่นกัน และชาวบ้านจะได้ไม่สับสน"
นอกจากกรณีดังกล่าวแล้ว ที่ดิน ส.ป.ก.ในจังหวัดนครราชสีมาก็มีข่าวครึกโครมถึงความไม่ชอบมาพากลมาโดยตลอด ที่มีการผิดเงื่อนไขสำคัญ 2 ประการ คือห้ามซื้อขายแต่ก็พบว่ามีการทำผิดอย่างมากมาย และต้องการทำการเกษตรแต่ก็มีจำนวนหลายรายที่ไม่ใส่ใจในเรื่องนี้ ซึ่งมีการใช้ประกอบอาชีพอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำรีสอร์ท จนหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเคยสรุปในภาพรวมว่า "ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีพื้นที่ในเขต สปก. ที่เข้าข่ายมิชอบด้วยกฎหมาย 110,000 ไร่ ซึ่งมากที่สุดในประเทศ กระจายอยู่ใน 18 อำเภอ จากทั้งหมด 32 อำเภอ มากที่สุดคือ อ.ชุมพวง กว่า 17,000 ไร่ รองลงมาคือ อ.เสิงสาง 13,000 ไร่ ไร่ และอ.สีคิ้วกว่า 10,000 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบรายชื่อผู้ครอบครองเช่นกัน"
คงต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิดว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดจะเอาจริงในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด ได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้เจอ"หัวตอ"ที่มีขนาดใหญ่จนต้องร้องเพลง "ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า" ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงได้แต่ปลงว่าเป็นเวรกรรมของเมืองไทยก็แล้วกัน

Last updated: 2025-07-30 21:20:08