“ผ่องศรี”ที่ผ่องใจ

.ให้หม่นหมอง “ผ่องศรี วรนุช”
ชีพสิ้นสุดคราวัยปีแปดสิบห้า
ที่สุดของนักร้องเก่งฟังเพลงมา
ปีหกแปดหกเมษาแสนอาวรณ์
 

.ฟังบทเพลงแต่เด็กมาพาซึ้งนัก
คนอกหัก “ฝากดิน”สิ้น “จันทร์อ้อน”
ต้อง “กอดหมอนนอนหนาว”เศร้าอาทร
พ่อแม่สอน “กินข้าวกับน้ำพริก”

 
.ตอบหน่อย “น้องเป็นคนรักที่เท่าไหร่”
ทวงถาม “ไหนว่าไม่ลืม”ปลื้มระริก
“คนสุดท้าย” “ลืมเสียเถิด” เกิดตุกติก
ไยจุกจิก “สาริกาคืนถิ่น”ไป

.เห็น “วิมานในฝัน”พลันเจิดจ้า
แต่ “น้ำตาเมียหลวง”เคยห่วงไหม
“กลับบ้านเถิดพี่”อย่ามา “บาร์หัวใจ”
“คืนนี้พี่นอนกับใคร”ใคร่รู้จริง

 
. “โธ่ผู้ชาย” “ด่วนพิศวาส”บาดใจลึก
พาให้นึก “บางสาวไห้”ให้โศกยิ่ง
“หัวใจไม่มีใครครอง” หมองประวิง
อ้อน “เขามาทุกวัน” อิงอ้อยอิ่งใจ

.ยังหลายเพลงกินดวงใจไทยทุกถิ่น
“ศิลปินแห่งชาติ”ประกาศให้
เชิดชูค่า “ราชินีลูกทุ่งไทย”
อีกเกริกไกรหลายรางวัลอันลือชา

 
.เปรียบเป็นครูต้นแบบให้น้องหลายคน
ได้ฝึกฝนตนร้องเพลงจนเก่งกล้า
สร้างความดีเพื่อสังคมสั่งสมมา
ยามจากลาทั่วถิ่นไทยอาลัยกัน

.ส่งวิญญาณ “ผ่องศรี วรนุช”
สู่วิมานชั้นสูงสุดสรวงสวรรค์
เกิดชาติหน้าเช่นชาตินี้ที่แบ่งปัน
ได้สร้างสรรค์เสริมสุขไทยในเสียงเพลง

.ครูนิด วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)

www.lookforest.com 7 เม.ย. 2568

หมายเหตุ: ขอบพระคุณเจ้าของภาพและข่าวประกอบ ทั้งนี้ข้อความในเครื่องหมาย “_” คือชื่อเพลงส่วนหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้ 

“ผ่องศรี วรนุช”

แรงดลใจ: ตั้งแต่จำความได้คราววัยเด็กต่อเนื่องมา ยอมรับเป็นคนชอบฟังเพลงเอามากๆ โดยตอนสมัยเด็กๆด้วยเกิดในพื้นที่ชนบท(จริงๆ) จึงไม่มีไฟฟ้าใช้ ความบันเทิงใจหลักคือการฟังเพลงจากวิทยุทรานซิสเตอร์ที่ใส่ถ่านไฟฉาย หลายเพลงที่โดนใจพยายามจำเนื้อเพลงได้ทั้งหมด กับทั้งชอบเอามาร้องเล่นในโอกาสต่างๆ จนติดมาถึงตอนเรียนวนศาสตร์ แม้บางเพลงพรรคพวกหลายคนแซวว่าเสียงเหมือนกะละมังแตกก็ไม่สนใจ เพราะสาวหลายคนชมว่าร้องเพราะ(เหมือนกัน)

มีคนเคยถามว่า ชอบเพลงของนักร้องคนใดมากที่สุด ก็ตอบแบบไม่ลังเลใจและไม่เปลี่ยนใจเลยตั้งแต่เด็กมาจนถึงทุกวันนี้ ว่าประทับใจ “ผ่องศรี วรนุช”อย่างเหลือเกิน หลายบทเพลงมีเนื้อหาที่โดนใจมาก ยิ่งมาได้เสียงร้องและอารมณ์ของนักร้องท่านนี้ด้วยแล้ว ให้คะแนนเต็มมาตลอด จำได้ตอนเรียนชั้น ม.ศ. 1ที่โรงเรียนศรัทธาสมุทร เมื่อปี 2514 ทางวัดป้อมแก้ว สมุทรสงครามได้จัดงานประจำปี ที่มีการปิดวิกกลางแจ้งแสดงดนตรีของหลายคณะ แต่ตัวเองไม่มีเงินซื้อบัตรผ่านประตูราคาผู้ใหญ่ 5 บาท เด็ก(โต) 3 บาท ได้แต่ป้วนเปี้ยนดูภาพที่ติดวิก จนมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง(ที่ยังนึกขอบคุณมาตลอด)ซึ่งไม่เคยรู้จัก คงอ่านใจออกและเวทนา จึงชวนและใช้สิทธิ์จูงมือเข้าวิก รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ชมดนตรีชื่อดัง รวมทั้ง “ผ่องศรี วรนุช”นักร้องในดวงใจอีกด้วย

เมื่อวานนี้ อ่านข่าวออนไลน์ของไทย พีบีเอส ให้รู้สึกเศร้าใจและอาลัย “ผ่องศรี วรนุช” ที่มีสาระสำคัญดังนี้

“วันนี้ (6 เม.ย.2568) ผ่องศรี วรนุช ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) ประจำปี พ.ศ.2535 เสียชีวิตด้วยวัย 85 ปี หลังมีปัญหาสุขภาพจากอาการอ่อนเพลีย ปอด และน้ำหนักลดลงอย่างมาก

ผ่องศรี เกิดเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2482 ที่ จ.ชัยนาท เป็นบุคคลที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นศิลปินเพลง ราชีนีลูกทุ่งไทย ที่มีน้ำเสียงแจ่มใส สร้างสรรค์ความสุนทรีย์ในสาขาศิลปะการแสดง (นักร้องลูกทุ่ง) มาเนิ่นนาน 

ด้วยโทนเสียงสูงเป็นเอกลักษณ์ สร้างปรากฎการณ์ในวงการเพลงลูกทุ่งผ่านบทเพลงมากมาย เช่น เพลงกอดหมอนนอนหนาว วิมานในฝัน ไหนว่าไม่ลืม น้ำตาเมียหลวง ฝนหนาวสาวครวญ และ ด่วนพิศวาส กลายเป็นเสียงครู และเพลงครู ต้นแบบของนักร้องลูกทุ่งหญิงรุ่นหลัง ทั้ง บุปผา สายชล พุ่มพวง ดวงจันทร์ สุนารี ราชสีมา ศิรินทรา นิยากร ฯลฯ

เส้นทางนักร้องเริ่มในปี 2498 เมื่อผ่องศรีอายุ 16 ปี โดยได้บันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกในชีวิต หัวใจไม่มีใครครอง และโด่งดังสูงสุดหลังจากได้ร่วมงานกับวงดนตรีสุรพล สมบัติเจริญ จากนั้นมีผลงานต่อเนื่องได้สมญานามเป็น ราชินีลูกทุ่งคนแรกของเมืองไทย

ผ่องศรีได้รับรางวัลพระราชทานแผ่นเสียงทองคำ 2 ครั้ง จากพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำ 3 ปีซ้อน จากเพลง กินข้าวกับน้ำพริก เขามาทุกวัน และ จันทร์อ้อน ได้รับรางวัลพระราชทานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย 2 ครั้ง และได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) ประจำปี พ.ศ.2535

ตลอดชีวิตบนเส้นทางดนตรี ผ่องศรีใช้ความสามารถช่วยเหลือวงการและสาธารณประโยชน์เสมอ เคยบอกกับรายการไทยบันเทิง เสมอว่า ขอไม่ยึดติดกับทางโลก เพราะอยากใช้ชีวิตทำการกุศลให้มากที่สุด”

Last updated: 2025-04-07 22:04:21