พฤศจิกาที่พาเศร้า
.ยี่สิบเอ็ดพฤศจิกานี้พาเศร้า
ชวนเงียบเหงาหมองช้ำระกำนัก
สูญ"เพื่อน-พี่"สองคนดีสุดที่รัก
เศร้าประจักษ์หนักยิ่งสิ่งผ่านมา
.ด้วยทั้งคู่ผู้สนิทร่วมคิดทำ
สุขชื่นฉ่ำทุกคราวไปได้พบหน้า
เพียงโรคร้ายแรงนักพรากชีวา
เกินเยียวยาหมอแก้ไขให้ต่อบุญ
.ปีสองห้าสี่สิบสามช้ำใดเหมือน
จำลาเพื่อนวนศาสตร์สหายรุ่น
จาก"บุญส่ง
วนนุรักษ์สกุล"
ที่มักคุ้นเคียงกันกว่ายี่สิบปี
.เคยช่วยเหลือเกื้อกันหลายด้านนัก
แรกรู้จักเรียนปีหนึ่งถึงปีสี่
แม้จบไปทำงานหมั่นคลุกคลี
ปันเงินทองทุกข์สุขมีที่สำนึก
.ปีสองห้าหกศูนย์อาดูรเสีย
สูญซีเนียร์วนศาสตร์บาดใจลึก
จาก"พี่ต๋อง:มณฑล
จำเริญพฤกษ์"
ชวนตรองตรึกสัมพันธ์ดีสี่สิบปี
.เป็นเช่นเพื่อนพี่ยาทั้งอาจารย์
วิชาการวิจัยกันหมั่นเต็มที่
หวังผลักดันสรรค์ค่าวนาลี
เล่นดนตรีกลอนกีฬาเฮฮาไป
.ไร้"เพื่อน-พี่"ทั้งสองครองทุกข์จัด
ยามติดขัดปัญหามากยากแก้ไข
ขาดมิตรเสริมเพิ่มพลังทั้งกายใจ
พบโพยภัยให้ลำบากหนักจังเออ
.ยี่สิบเอ็ดพฤศจิกาครั้งคราใด
ทำบุญไปให้"เพื่อน-พี่"นี้เสมอ
หวังภพหน้าฟ้าใหม่ใฝ่ฝันเจอ
ขอเป็นเกลอเช่นชาตินี้ที่พบมา
ครูนิด
วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com
แรงดลใจ:
ไม่อยากเชื่อว่าชีวิตได้เผชิญเหตุการณ์เลวร้ายในวันที่ 21 พฤศจิกายน ถึง 2 ครั้ง
โดยสูญเสีย"เพื่อนและพี่"ที่สนิทสนมยิ่ง 2
คนก่อนวัยอันควรด้วยโรคร้ายที่หมอไม่สามารถเยียวยาได้ เพียงแต่ต่างปีกันเท่านั้น
ทั้งนี้อยู่ในความทรงจำตลอดมาและเชื่อมั่นว่าจะตลอดไป
โดยต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ทุกปีไม่เคยขาด
โดยเรียงเหตุการณ์สำคัญของทั้งคู่ได้ดังนี้
"บุญส่ง วนนุรักษ์สกุล(แซ่ส่ง)"
เพื่อนวนศาสตร์รุ่น 43 รู้จักกันตั้งแต่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อปี
พ.ศ.2520 เริ่มคบหาและผูกพันกันมาตลอด โดยช่วยเหลือเกื้อกูลกันในด้านต่างๆ
ทั้งเรื่องเรียน เสื้อผ้า อาหาร ของกินของใช้ รวมทั้งเงินทองที่มีอยู่
เรียกได้ว่าแบ่งปันสุขทุกข์กันมาโดยตลอด
กับทั้งไปเผชิญชีวิตในการฝึกงานและทำงานตามป่าเขากันมาหลายครั้ง
แม้"บุญส่ง"เลือกทำงานในสังกัดองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
ก็ยังติดต่อและไปมาหาสู่กันเสมอ ในการแลกเปลี่ยนสารทุกข์สุกดิบที่มีกันอย่างจริงใจ
และไม่คิดเอาเปรียบซึ่งกันและกันที่คนใกล้ชิดของทั้งสองฝ่ายต่างรู้กันดี
จัดได้ว่าเป็น"กัลยาณมิตร"ที่หาได้ยากยิ่ง
เพียงแต่มีกรรมเก่าที่ต้องเผชิญโรคร้ายจนจากไปเมื่อปี พ.ศ.2543 ขณะมีอายุเพียง 43
ปีและกำลังก้าวหน้าในชีวิตการงานเป็นอย่างยิ่ง
คนต่อมา คือ "พี่ต๋อง:รศ.ดร.มณฑล
จำเริญพฤกษ์" พี่วนศาสตร์รุ่น 40 ซึ่งเป็นซีเนียร์
โดยเริ่มรู้จักครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ.2520
เช่นเดียวกัน โดยขณะนั้น"พี่ต๋อง"โดดเด่นนัก ด้วยเป็นหัวหน้าวงดนตรี Forester
40 ซึ่งมีชื่อเสียงมากทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
แต่เริ่มมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันเมื่อคราวไปบรรจุรับราชการที่สำนักงานป่าไม้เขตสระบุรีเมื่อปลายปี
พ.ศ.2524 โดย"พี่ต๋อง"
ให้ความอนุเคราะห์ที่พักที่สถานีวนกรรมภาคกลาง(พุแค)ที่เป็นหัวหน้าอยู่ ซึ่งได้รับคำแนะนำด้านวิชาการและการทำงานมากมาย
จนเป็นแรงผลักดันให้เรียนต่อทั้งปริญญาโทและเอก
ทั้งนี้ได้ไปมาหาสู่ทั้งเรื่องส่วนตัว
และร่วมสร้างสรรค์งานทั้งด้านวิชาการและวิจัยทางป่าไม้มาโดยตลอด
จนจากไปแบบที่ทุกคนคาดไม่ถึงด้วยโรคร้ายเมื่อ ปี พ.ศ.2560 หลังเกษียณจากราชการเพียงปีเดียวเท่านั้น
นับได้ว่าเป็นคนที่โชคร้ายเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสูญเสียทั้ง
2 คนไป เพราะมีความสนิทสนมและรักใคร่กันมากจนเกินคำบรรยายได้
ซึ่งผู้ที่เคยสัมผัสทั้งในครอบครัว และพี่
เพื่อนและน้องชาวป่าไม้ที่คุ้นเคยต่างรู้กันดี
ก็ต้องทำใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะคงไม่สามารถไปฝ่าฝืนโชคชะตาและบุญกรรมที่ทำมาได้
เพียงแต่ภาวนาให้ได้เจอกับทั้ง 2
คนในชาติหน้าเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์งานป่าไม้ต่อไป
Last updated: 2023-11-27 15:04:26