�
๏ปีสองสามจากกันแสนนานนัก
เคารพรัก"วนศาสตร์สี่สิบสอง"
หลายสิ่งดีพี่เคยให้มากก่ายกอง
ในใจน้องนั้นจำได้ไม่ลืมเลือน
๏เป็นเฟรชชี่ที่แรกรับกับ"โซตัส"
เหนื่อยสาหัสกายใจในหมู่เพื่อน
โซโฟมอร์เคี่ยวนักคอยตักเตือน
หากแชเชือนถูกลงโทษโหดสิ้นดี
๏หวังฝึกฝนจน"เข้มแข็ง"แกร่งทุกด้าน
ทั้ง"กล้าหาญ"ชาญชัยได้ถึงที่
ไม่ย่นย่อทรหด"อดทน"มี
"สามัคคี"หมู่คณะสร้างพลัง
๏เคี่ยวให้เลือดน้ำตาลเอ่อซ่านทั่ว
เข้มทั้งตัวข้นพอต่อความหวัง
มุ่งสืบสานวิญญาณไพรในภวังค์
สร้างมนต์ขลังลูกเผ่าชาว วน.
๏ถึงแสนโหดทุกสิ่งพี่จริงใจ
หวังน้องปกป้องไพรไม่ย่นย่อ
แฝงเมตตาอารีพี่ถักทอ
จึงสานก่อต่อสัมพันธ์ประสานใจ
๏หลังรับน้องหน้ากากเสือไม่เหลือแล้ว
เป็นพี่แก้วร่วมเรียงเคียงบ่าไหล่
แลกทุกข์สุขสารพันแบ่งปันไป
รักษาไว้ประเพณีเรามีมา
๏ทั้งดนตรีกีฬาวิชาการ
ขายอาหารงานเกษตรเหน็ดเหนื่อยล้า
เพื่อคณะร่วมสร้างสรรค์หมั่นพัฒนา
มากคุณค่ากิจกรรมเกินรำพัน
๏อวยพรพี่"สี่สิบสอง"พบผองสุข
นิราศทุกข์ไร้โรคภัยใจมุ่งมั่น
แม้เกษียณบวรวัยได้ฝ่าฟัน
ร่วมสานฝันสรรค์คุณค่าป่าไม้เรา
๏ครูนิด วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com
แรงดลใจ:
สิ้นกันยายน
2560
นี้ ก็ถึงวาระที่พี่วนศาสตร์รุ่น 42 (ที่เรียนตามเกณฑ์อายุปกติหรือพวกห้าร้อยเพราะเกิดปี
พ.ศ.2500) ต้องถอดหัวโขนและโบกมืออำลาชีวิตราชการไปสู่วัยบวร
ทั้งที่บางคนยังมีความสุขและสนุกสนานกับการทำงาน แต่หลายคนกลับมีความยินดีที่ได้พ้นขวากหนามกับระบบการทำงานอันแสนยุ่งเหยิงมากขึ้นทุกวัน
�ด้วยกระแสการแข่งขันในหน้าที่การงานมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นตามลำดับ
เช่นเดียวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
และความหลากหลายของกฎระเบียบที่ออกมาจนยากต่อการปรับตัวให้ทัน
นอกจากนี้บางคนก็รู้สึกอยากพักผ่อน ด้วยเผชิญกับความเหนื่อยล้าในชีวิตการทำงานมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้อาจมีพี่บางคนที่มุ่งเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ก็อาจเป็นได้
หากมองย้อนหวนอดีตกลับไป
พบว่ากาลเวลาผ่านอย่างรวดเร็วเหลือเกิน�
ในปี พ.ศ.2520 ที่ก้าวเข้ามาเรียนวนศาสตร์
ได้มีโอกาสพบพี่รุ่น 42 ซึ่งเป็นโซโฟมอร์(Sophomore)หรือพี่ปี 2แล้ว รู้สึกครั่นคร้ามและค่อนข้างหวาดกลัว
เพราะบุคลิกภาพในภาพรวมของพี่ๆนั้น ค่อนข้างไปทางชาวป่า ดุดันและทโมนเป็นอย่างมาก
อาจเป็นเพราะมีแต่เพศชายล้วนที่เรียนวนศาสตร์
ทำให้ขาดความอ่อนโยนและความศิวิไลซ์ทางอารมณ์
ดังนั้นการแสดงออกต่อบรรดาเฟร็ชชี่หรือปี 1ในระบบโซตัสของสังคมวนศาสตร์
จึงค่อนข้างออกไปในทางดุเดือดเลือดพล่านเป็นอย่างมากเหลือเกิน ทั้งนี้และทั้งนั้นก็มีจุดมุ่งหวังในการให้น้องเป็นวนกรที่ดีต่อไป
�ขณะเดียวกันพวกพี่ก็คอยดูแลให้ความห่วงหาอนาทรอยู่ห่างๆ
ซึ่งก็สร้างความอบอุ่นใจให้น้องๆอยู่บ้าง
หลังผ่านการรับน้องเมื่อ
17
ธันวาคม 2520 ได้มีโอกาสสัมผัสและใกล้ชิดสนิทสนมกับบรรดาพี่รุ่น
42 หลายคน ทำให้ได้รับทราบถึงความเอื้ออาทร
มิตรไมตรีและความจริงใจที่พี่ๆมีให้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะกลุ่มที่นิยมการดื่มน้ำเปลี่ยนนิสัยที่มีหลายคนเหลือเกิน รวมทั้งได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันอย่างมากมายและยาวนานกว่าทำให้รู้สึกผูกพันในภาพรวมมากกว่าพี่รุ่นอื่นๆ� ภายหลังจากที่พี่จบการศึกษาในปี พ.ศ.2523
แล้ว หลายคนได้พบปะกันทั้งในด้านการทำงาน งานสังคม
หรืออาจโดยบังเอิญ ก็ยังมีความผูกพันและใจเสน่หาเช่นเดิม แต่ขณะเดียวกันพี่หลายคนก็ไม่มีโอกาสพบปะกันอีกเลย
คงได้แต่ถามหาด้วยยังระลึกถึงอยู่เท่านั้น กับยังอาลัยกับบรรดาพี่ๆที่จากไปอย่างสุขสงบ
ทั้งพี่ธร(กำธร ทวีทรัพย์) พี่กิม(กิติชัย กิตติพรรณราย) พี่เขียว(สมคิด
ตาฬุมาศสวัสดิ์) พี่เอิร์ธ(มงคล วรรณประเสริฐ) พี่หน่อง(กำแหง ดุสิตกุล)
พี่ทักษ์(พิทักษ์ สุวรรณบุตร) เป็นต้น
หวังว่าพี่ๆคงเตรียมตัวในการมีความสุขกับชีวิตวัยบวรตามอัตภาพและศักยภาพของแต่ละคน
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าความสัมพันธ์ของพี่น้องวนศาสตร์และจิตวิญญาณในการรักป่าไม้ของพวกเราจะยังคงอยู่ตลอดไป
�

Last updated: 2017-04-03 08:39:49