.เป็นสาวกรุงมุ่งเป็นครูอยู่บ้านนอก
เพียงขอบอกว่าสมใจฝันใฝ่นัก
ชอบสอนคนมุ่งมั่นเป็นงานรัก
ทั้งตระหนักตอบแทนคุณแผ่นดิน
.มีหลายหนุ่มกรุ้มกริ่มคอยยิ้มให้
หวังร่วมเรียงเคียงใกล้หมายถวิล
หลากอาชีพหลายสายงานการอยู่กิน
สาวพลัดถิ่นที่เดียวดายวุ่นวายใจ
.นายตำรวจนายทหารสัญญาบัตร
อบต.คุณหมอสัตว์ปลัดใหม่
ช่างเกษตรครูศึกษาอนามัย
ลูกกำนันหลานผู้ใหญ่เหลนนายพล
.บ้างร่ำรวยลูกเศรษฐีมีที่นา
บ้างก้าวหน้าแสนฉลาดมาดน่าสน
บ้างรูปหล่อปานดาราเฉี่ยวกมล
บ้างกล้ามใหญ่ยิ่งล้นคนแข็งแรง
.เพียงล้วนมีทีท่าน่าเกรงกริ่ง
ชอบมองหญิงยิ่งแววตาประกายแสง
เผลอออกลายกิริยาพาเปลี่ยนแปลง
น่าคลางแคลงแฝงเจ้าชู้ประตูดิน
.มีเพียงหนุ่มแปลกนักหนาคนป่าไม้
คอยถามไถ่การเป็นอยู่ดูแลสิ้น
หาของป่าสมุนไพรทั้งใช้กิน
พาเที่ยวถิ่นท่องเขาลำเนาไพร
.ถึงไม่หล่อเลิศหรูมาดดูดี
ไม่จู้จี้เพียงแนะทางสร้างสรรค์ให้
ยึดพอเพียงเคียงวิถีที่เหมาะไป
จุดเด่นนักปากกับใจหมายตรงกัน
.รู้สังคมของท้องถิ่นแม้กินเหล้า
แต่ไม่เมาสร้างเฮฮาอารมณ์ขัน
กับชาวบ้านมีน้ำใจใฝ่สัมพันธ์
สาวกรุงพลันหวั่นไหวหาทีละนิด
.ถึงวันครูพาตราตรึงซึ้งหัวใจ
พร้อมดอกไม้ปวารณามาเป็นศิษย์
ขอให้สอนสรรค์สิ่งดีสร้างชีวิต
สาวปลงจิตร่วมชีวาหนุ่มป่าไม้
.ครูนิด วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com
แรงดลใจ: ตอนนี้ศิษย์เก่า KU หลายท่านอยู่ในอารมณ์ย้อนยุคกัน โดยตั้งเป็นกลุ่มในเฟซบุ๊คย้อนเวลา ซึ่งมีสมาชิกนำเรื่องราวเก่าๆมาเล่าให้ฟังอย่างน่าสนใจ เพื่อให้ทันกระแสกับเขาบ้าง เลยขอย้อนเวลากลับไปก่อนปี 2520 ที่รุ่นพี่วนศาสตร์ก่อนรุ่น วน.43(KU.37) น่าเป็นสังคมที่ห้าวหาญดุเดือดเลือดพล่านมาก เพราะมีแต่ผู้ชายที่เรียนด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านั้นยังไม่รับผู้หญิงเข้ามาเรียนทางด้านป่าไม้ ด้วยการทำงานป่าไม้สมัยนั้นต้องเผชิญกับความลำบากนานับประการ โดยสรุปก็ตอนนั้นคือยังไม่เหมาะให้ผู้หญิงทำงานป่าไม้
สมัยตอนเรียนวนศาสตร์ช่วงปี พ.ศ.2520-2524 รวมถึงหลังจากจบเข้าทำงานป่าไม้ในช่วงแรก ได้มีโอกาสสัมผัสกับรุ่นพี่มากมาย เนื่องจากช่วงนั้นหลงใหลกับรสชาติและอิทธิฤทธิ์ของน้ำเปลี่ยนนิสัย จึงได้ร่วมวงก๊งกับรุ่นพี่เก่าๆในหลายโอกาส ก็มีประโยชน์หลายด้านทีเดียว นอกจากได้ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ผู้น้องแล้ว ยังได้เรียนรู้เรื่องราวการทำงานป่าไม้ภาคสนาม ในรูปแบบต่างๆที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ รวมทั้งบุ๋นและบู๊ผสมผสานกันไปให้กลมกลืน ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จึงทำให้งานราบรื่นมากยิ่งขึ้น
ที่น่าสังเกตุด้านคู่ครองของรุ่นพี่ในอดีต พบว่าอาชีพที่มีมากจนน่ามีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่งจากอาชีพอื่น ก็คือ ครูและพยาบาล ทั้งนี้ฟันธงได้เลยว่า การทำงานภาคสนามของชาวป่าไม้มักพบกับสาว 2 อาชีพนี้มากกว่าอาชีพอื่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักเป็นคนต่างพื้นที่ ที่พอสำเร็จการศึกษา ก็ได้รับการบรรจุให้เข้ารับราชการในที่ทำงานที่อยู่ใกล้เคียงกับป่าไม้ จึงไม่น่าแปลกใจที่สาวและหนุ่มวัยฉกรรจ์ได้มีโอกาสมาพบกันอย่างถูกที่และถูกเวลา จึงได้เกิด"สมาคมยู"และ"สมาคมยาล"ในสังคมป่าไม้ยุคนั้นนั่นเอง
โอกาสแรกนี้ ขอเอาใจรุ่นพี่ที่อยู่ในสังกัดสมาคมยูก่อน เพราะตัวเองตอนทำงานป่าไม้ใหม่ๆในสังกัดสำนักงานป่าไม้เขตสระบุรี ก็เกือบได้เข้าสมาคมนี้กับเขาเหมือนกัน แต่ดวงผันผวนเสียก่อนเลยพลาดโอกาสไป ทั้งที่มีโอกาสโฉบเฉี่ยวสาวงามในหลายจังหวัดมากกว่าเพื่อนๆ ด้วยหน่วยงานนี้มีพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมจังหวัดด่างๆมากที่สุด นอกจากสระบุรีแล้ว ยังมีชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี ปทุมธานี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี และสมุทรปราการ อีกด้วย สำหรับบทต่อไปในเร็ววันนี้ขอนำเสนอเพื่อเอาใจพี่ เพื่อนและน้องในสมาคมยาลอีกแน่นอน