จดแล้วไม่ค่อยจำ เข้าใจแล้วไม่ค่อยลืม
 
     
 
โตไปไม่โกง
การเขียนเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นนี้ คนเขียนต้องมาดูตัวเองให้ถ่องแท้เสียก่อนเพราะการเขียนหมิ่นเหม่ต่อ การเป็นมีด 2 คม
 

มีคนมาเล่าให้ฟังว่า คนจีนมาเที่ยวเมืองไทยพูดให้ฟังว่า “ประเทศลื้อถ้าไม่มีทุจริตคอรัปชั่น ถนนทุกสายปูด้วยทองคำ”ฟังแล้วเหมือนจะถูกประชดประชันเกี่ยวกับเรื่องเสียเงินใต้โต๊ะหรืออย่างไรแต่มานั่งใคร่ครวญตั้งสติพิจารณาน่าจะเป็นจริงอย่างที่เขาพูดถึงถนนทุกสายจะไม่ได้ลาดด้วยทองคำจริงอย่างที่ถูกเปรียบเทียบแต่อย่างน้อยทุกสายก็ควรเป็นถนนไฮเวย์ถนนคอนกรีตหนา 8 นิ้ว ทุกสายแสดงว่าแม้แต่ชาวช่างชาติก็ยังรู้ว่าองคาพยพของประเทศไทยทุกภาคส่วนมีแต่เรื่องทุจริตคอรัปชั่นเต็มไปหมดเหมือนกับที่บางคนกล่าวหาว่าอาชีพข้าราชการ ทหารพลเรือนนั้น บังหลวง ข้าราชการตำรวจทั้งฉ้อราษฎร์และบังหลวงข้าราชการครูเบียดเบียนทั้งครูและผู้ปกครองเด็กได้ฟังแล้วหดหู่หัวใจนี้กระมังที่รัฐท่านเห็นมะเร็งร้ายที่กัดกินประเทศจึงได้มีโครงการที่จะพัฒนาคนโดยเริ่มตั้งแต่เยาว์วัยเพราะไม้อ่อนดัดง่ายจึงเกิดโครงการโรงเรียนสีขาว โตไปไม่โกงขึ้นในกรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ. 2533โดยให้มีหลักสูตรครอบคลุมความดี5 ประการ

��������������� 1. ความซื่อสัตย์สุจริต

��������������� 2. การมีจิตสาธารณะ

��������������� 3. ความเป็นธรรมทางสังคม

��������������� 4. กระทำอย่างรับผิดชอบ

��������������� 5. เป็นอยู่อย่างพอเพียง

��������������� การสอนมีวัตถุประสงค์กระตุ้นให้เด็กคิดอย่างมีเหตุผลและซึมซับคุณค่าแห่งความดีอย่างเป็นธรรมชาติและสร้างความรู้สึกผิดชอบชั่วดีรังเกียจคนโกงและคนเก่งแต่โกง โดยในปีพ.ศ.2533ได้เริ่มโครงการในกรุงเทพมหานครก่อน โดยเริ่มตั่งแต่ ชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 1 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3...??

��������������� ที่นำเรื่องราวการทุจริตคอรัปชั่นมาเล่าให้ฟังวันนี้ คิดอยู่นานเพราะเข้าใจในองค์กรของทางราชการดี �����เป็นเหรียญที่สามารถมองได้สองด้านแต่เมื่อเราพบเห็นแล้วว่า มันกัดกร่อนความมั่นคงของส่วนรวมหรือประเทศชาติเราซึ่งเป็นข้าราชการมีวินัยที่ต้องปฏิบัติถึง 7 ข้อใหญ่ และมีจรรยาบรรณของข้าราชการอีก 5 ข้อ พ่อค้าก็มีเหมือนกัน“กำไรคือศาสนา” เรามีวินัยน้อยกว่าพระสงฆ์ซึ่งมีถึง 227 ข้อ แทบกระดิกตัวไม่ได้ของข้าราชการพลเรือนเราแค่ ����7 ข้อก็ขอให้ปฏิบัติได้สัก 5 ข้อเต็มๆ ก็ถือว่าสอบผ่าน...??

เรามาดูว่าเด็กอนุบาลต่อไปนี้ต้องรับรู้และประพฤติตนให้เป็นคนดีของสังคมแล้วพวกเราเหล่าปัญญาชนหรือปริญญาชนไม่ละอายเด็กบ้างหรือไรการเขียนเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นนี้ คนเขียนต้องมาดูตัวเองให้ถ่องแท้เสียก่อนเพราะการเขียนหมิ่นเหม่ต่อ การเป็นมีด 2 คมแทนที่จะเป็นเรื่องรณรงค์กลับกลายไปเป็นเรื่อง สาวไส้ให้กากินแต่เท่าที่จำเป็นต้องเขียนเพราะอ่านบทความที่มีการคอมเมนต์ หรือเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับป่าไม้ ส่วนมากจะเป็นเรื่องความไม่เป็นธรรมในองค์กรของเราชาวป่าไม้เสียส่วนใหญ่ มันตรงกับความในใจของผู้เขียนที่งุนงงสงสัยว่าความรักความสามัคคี ความมีน้ำใจ เอื้ออาทรต่อกัน เฉกเช่นในสมัยยังศึกษาอยู่ในสถาบันมันหายไปไหนหมด ระบบซีเนียรีตี้ ��ที่เราให้ความสำคัญกลับไม่มีปรากฏให้เห็นกำลังพลขาดความสามัคคี ขาดขวัญและกำลังใจเราจะรวมแรงร่วมใจกับป้องกันรักษาป่า และพลิกฟื้นคืนสภาพป่าขึ้นมาอย่างไรพอจบออกมาทำงานคำสอนที่รุ่นพี่สอนไว้ว่า...??

��������������� ��������������� “อะไรที่ไม่ดีของรุ่นพี่ไม่ต้องเอาอย่างเอาแต่สิ่งดีๆ ไปใช้”

มาบัดนี้มันกลับไปเป็นว่า...??

������������������������������� “ไอ้น้องนายเขาจะเอา 30 เปอร์เซ็นต์เท่านี้ไม่พอ”

ได้ยินได้ฟังแล้วอดสูใจ พอใครพูดเรื่องทุจริตขึ้นมาก็ถามหาหลักฐานและใบเสร็จ ที่จริงแล้ว เจ้าหลักฐานหรือใบเสร็จมันหาได้ไม่ยากหรอก เพราะเพื่อนเล่นทำงานกันอย่างโจ๋งครึมขนาดนั้น เพียงแต่ผู้พบเห็นเป็นผู้น้อยไม่กล้าเสียสละร้องเรียน กลัวจะเดือดร้อนไปทั้งครอบครัวได้แต่นิ่งเงียบนั่งดูเขาสวาปามกัน อันที่จริงโครงการโตไปไม่โกงนี้ไม่น่าจะเป็นหลักสูตรของเด็กและนักเรียน มันน่าจะปรากฏอยู่ในหลักสูตรของผู้ใหญ่ด้วย หากเป็นราชการก็เริ่มตั้งแต่ ซี 1 จนถึง ซี 11 เพราะข้าราชการก็เริ่มโตเป็นเหมือนกัน ฉะนั้น ก็มีโอกาสมากกว่าเด็กๆ เพราะเด็กๆ อย่างมากก็�� ลอกข้อสอบ ครูเสียอีกทำข้อสอบรั่ว ฉะนั้น การที่จะปราบทุจริตคอรัปชั่น จึงจำเป็นต้องอบรมสั่งสอนคนให้มี คุณธรรมและหิริโอตับปะมีการละอายต่อบาปแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดำเนินไปในทางที่ดีตามไปด้วย...??

��������������� พวกเราจบและได้เข้ามารับราชการ คิดว่าทุกคนคงได้เห็นการฉ้อราษฎร์น้อย ส่วนใหญ่จะ “บังหลวง” เสียมากกว่าสำหรับข้าราชการพลเรือน และท่านอยากให้เป็นเช่นนี้หรือไม่ เพราะมนุษย์เรามีกิเลศ โลภ โกรธ หลง ติดในกมลสันดานกับทุกผู้ทุกนามฉะนั้น พวกเราข้าราชการจาก กรมป่าไม้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งแตกออกมาจากกรมป่าไม้ มาช่วยกันร่วมเข้าโครงการโตไปไม่โกง ในที่นี้หมายถึงจาก ซี 3 ขึ้นเป็น ซี 7 หากได้เป็นหัวหน้า ไม่ว่าจะเป็น หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฯลฯ เราจะไม่โกง และผู้ที่เป็น ซี 7 ได้ขึ้นเป็น ซี 8 เป็นผู้อำนวยการส่วน จะไม่โกงและจากผู้อำนวยการส่วน ขึ้นเป็นผู้อำนวยการสำนักฯ หรืออธิบดี จะไม่โกง เรามาทำพิธีการสาบานตนต่อหน้าฟ้าดินกันทุก 6 เดือน ให้เป็นเรื่องเป็นราวอย่าเพียงแต่จัดให้ลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชา เช่น พนักงานพิทักษ์ป่า พนักงานราชการคนงาน เป็นต้น เป็นฝ่ายสาบานตนเท่านั้น เราเหล่าผู้บริหารควรปฏิบัติเป็นแบบอย่างถึงจะถูกต้องและ ระหว่างการปฏิบัติงานช่วง 6 เดือนให้ช่วยกันสอดส่องดูว่ามีใครร่ำรวยผิดปกติบ้าง นำเข้าที่ประชุมให้มีการซักถาม หากตอบที่มาของทรัพย์ไม่ได้ต้องบอยคอต ที่กล่าวมานี้เป็นความฝันลมๆ แล้งๆ ของคนสติไม่เต็มร้อย เพราะเห็นว่าพวกเราเกลียดกันนักพวกโกงกิน นำเงินไปวิ่งเต้นเอาตำแหน่ง ข้ามหัวกันไป ข้ามหัวกันมา และยังมีการข้ามห้วยกันอีก??

��������������� เรื่องการบรรจุแต่งตั้งดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น ผู้เขียนเคยสังเกตและเห็นว่า ระบบทหารเป็นระบบที่ดี แม้จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สามารถทำให้องค์กรสงบไม่วุ่นวายมาก การเข้าสู่ตำแหน่ง เป็นไปตามไลน์ และส่วนใหญ่จะเป็นไปตามอาวุโสในการทำงานไม่มีเสือข้ามห้วยระหว่าง กองทัพภาคที่ 1,2,3 และที่ 4 แต่อย่างใด ทำให้การปกครองบังคับบัญชาเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะรู้ฝีไม้ลายมือกันแล้ว เป็นการคัดกรองกันเองตามธรรมชาติเพื่อที่จะหาผู้นำ หรือถ้าเป็นช้างก็หาจ่าโขลง ป่าไม้เราก็เคยเป็นมาแล้ว สมัยที่ยังเป็นป่าไม้เขต ป่าไม้จังหวัด ป่าไม้อำเภอ ก็ขึ้นกันมาตามสาย เราทุกคนจะรู้ทันทีว่าใครจะมาเป็นป่าไม้เขตคนต่อไป ไม่เหมือนทุกวันนี้ มีทั้งข้ามรุ่น ข้ามอาวุโส ข้ามห้วยวุ่นวาย���� ไปหมด จึงเกิดปัญหาให้พวกเราเอือมระอา แตกแยกความสามัคคี ฉะนั้นหากพวกเราไม่อยากเห็นการส่งส่วย การวิ่งเต้นมีเส้นสายเสียเงิน เรามาช่วยกันกำจัดการโกง ใช้กุศโลบายที่เขาใช้สอนเด็กอนุบาล ปฏิบัติตนตามความดี������� 5 ประการ โตไปไม่โกง แล้วสิ่งที่เราเห็นพวกชอบวิ่งเต้น เส้นสาย เสียเงินจะหายไป พวกเราชาวป่าไม้พร้อมกันแล้ว�� หรือยัง...???


Last updated: 2016-04-22 07:57:45


@ โตไปไม่โกง
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ โตไปไม่โกง
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
1,349

Your IP-Address: 3.149.214.179/ Users: 
1,348