ชาตินี้โชคดีที่พานพบ
ในขณะนั้นไม่รู้ใครมาด้านหลังผลักข้าพเจ้ากระเด็นเข้าไปอยู่ข้างท่านรัฐมนตรี พอดีกับผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอำนาจเจริญเห็นพอดีเลยบอกท่านว่า ท่านครับคนจับอยู่นี่
�
หลังจากหนูตัวน้อยพยายามกัดบ่วงนายพรานจนขาด
จากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวที่ทำให้ต้องหวาดผวาอีกเลย
จะมีก็ข่าวดีที่พวกเราพากันบุกโกดังจับไม้พะยูงของนายทุน จนศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก
22 ปี 8 เดือน นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ และคดีที่พวกเราจับไม้ที่อำนาจเจริญ
จำนวน 1,600 ท่อน ของกลางเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อจ.1
(อำนาจเจริญ) จนทำให้ ฯพณฯเกษม� สนิทวงศ์ ณ
อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ท่านต้องเดินทางมาประชุมที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เพราะเป็นช่วงที่มีเหตุการณ์ลักลอบตัดไม้พะยูงกันมาก
และหน่วยงานป่าไม้ของเราก็จับกุมได้มาก และมีนายทุนรายใหญ่หลายกลุ่ม ...
จัดประชุมที่จังหวัดอุบลราชธานีเสร็จก็เดินทางไปดูของกลางที่จังหวัดอำนาจเจริญ
 ช่วงนั้นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ไม่ว่าท่านอธิบดีกรมป่าไม้
ท่านอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่
9(อุบลราชธานี) และผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร
มาร่วมตรวจดูไม้ของกลางที่กองไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อจ.1 (อำนาจเจริญ)
รวมทุกคดีไม่น้อยกว่า 5,000 ท่อน
งานนี้ข้าพเจ้าเดินห่างๆในฐานะข้าราชการชั้นผู้น้อย� ฟังท่านอธิบดีกรมป่าไม้
ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากรและผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอำนาจเจริญ
�พากันรายงาน ทุกคนเดินตามท่านรัฐมนตรีเป็นกลุ่ม
ท่านเดินดูกองไม้พอถึงกองที่ท่านหยุดดู สอบถามคนที่อยู่รอบท่านตอบไม่ได้ความกระจ่าง
ทำให้ท่านไม่พอใจ� ข้าพเจ้าซึ่งเดินตามท่านอยู่ห่างในระยะคนที่
4�
ในขณะนั้นไม่รู้ใครมาด้านหลังผลักข้าพเจ้ากระเด็นเข้าไปอยู่ข้างท่านรัฐมนตรี
พอดีกับผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอำนาจเจริญเห็นพอดีเลยบอกท่านว่า
ท่านครับคนจับอยู่นี่� ข้าพเจ้าจึงเล่าเหตุการณ์ในการจับกุมไม้คดีรายใหญ่ที่มีหนังสือพิมพ์ประโคมข่าว� ได้เห็นรอยยิ้มของท่านก็เบาใจ
ท่านและคณะผู้ใหญ่ฯจึงเดินทางไปพบท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญที่จวน
เนื่องจากท่านผู้ว่าไม่มาท้องที่ด้วย�
พวกเราไปรอกันประมาณชั่วโมง�
ทีมงานของเราทั้งหมดก็เดินทางไปประชุมต่อที่จังหวัดมุกดาหาร�
ในห้องประชุมเจ้าหน้าที่ของจังหวัดได้เล่าถึงกรรมวิธีของพ่อค้าว่า� ได้อ้างเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1 น.ส.3 และโฉนดที่ดิน
เช่นเดียวกันกับจังหวัดอุบลราชธานี แต่ที่นี้ลงทุนมากกว่านั้น
ใช้วิธีเอารถแบคโฮไปดึงไม้พะยูงในป่ามาทั้งต้น ตัดทอนเสร็จ
ยังตัดรากเอาตอไม้มาฝังไว้ในที่ดินกรรมสิทธิ์ของตน
จึงทำให้ที่ดินไร่หนึ่งมีไม้เกือบ 30 ต้น เพราะตอไม้พะยูงเต็มไปหมด
หากเจ้าหน้าที่เห็นชอบด้วยก็รับรองให้ ท่านรัฐมนตรีท่านถามวิธีแก้ปัญหา ทางผู้ฉายวีดีทัศน์ไม่ได้เตรียมคำตอบ
ข้าพเจ้าจึงต้องอธิบายแทน โดยยกตัวอย่างการใช้แผ่นพลาสติกใสลอกลายวงปี
ยิ่งเอาตอมาฝังอย่างนี้ด้วยตรวจสอบไม่ยากแต่ต้องอาศัยเวลา
รู้สึกว่าท่านรัฐมนตรีท่านพอใจและท่านอธิบดีทั้งสองกรมของเราก็พลอยหน้าใสไปด้วย
ข้าพเจ้าผู้คอยแก้ไขสถานการณ์ ถอนหายใจ โล่งอก...??
 หลังจากที่ท่านรัฐมนตรีกลับไปไม่ถึงเดือนได้รับรายงานจากหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่
อจ.1 (อำนาจเจริญ) ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญถูกย้ายไปประจำกรม
และในสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี)ขอเราก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากรและผู้อำนวยการส่วนจัดการต้นน้ำ
ซึ่งทั้งคู่เป็นเพื่อนของข้าพเจ้าก็ถูกย้ายเช่นกัน ไม่ทราบเพราะเหตุใด� จึงเป็นเหตุให้กรมแต่งตั้งข้าพเจ้าเป็นผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร
แทนอีกหน้าที่หนึ่ง�
จึงเป็นว่างานที่ทำอยู่ในขณะนั้นสวมหมวก 3 ใบเมื่อรับมอบงานจากเพื่อนเสร็จก็เข้าไปนั่งประจำในส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากรบ้าง
ขึ้นไปที่กลุ่มงานวิชาการบ้าง วันไหนรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักฯ จะยุ่งหน่อย
เพราะตามแฟ้มไปไม่รู้เด็กหน้าห้องท่านผู้อำนวยการสำนักฯ จะวางไว้ที่ห้องไหน
นั่งนึกถ้าเป็นแต่งานเซนต์หนังสือเพียงอย่างเดียวคงไม่เท่าไหร่
แต่มีบางครั้งไปจับกุมไม้ในรายที่พนักงานตัวเล็กไม่กล้าทำ...
อยู่มาวันหนึ่งขณะที่เดินออกจากกลุ่มงานวิชาการประมาณ
11.00 น.เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น จึงหยิบจากกระเป๋ามารับสาย
มีน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงด้วยความมีน้ำใจว่า...
“พี่ทศใช่ไหมครับ
ท่านอธิบดีให้ช่วยเสนอชื่อบุคคลระดับ ซี 6 อาวุโสให้ดำรงตำแหน่ง ระดับ 7 จำนวน 3
คน ภายในก่อนเลิกงานวันนี้นะพี่”
แล้วก็วางหู
ไม่ยอมให้ข้าพเจ้าสอบถามอะไรแต่จำได้ว่าเป็นเสียงของน้องที่ทำหน้าที่หน้าห้องท่านอธิบดี��� �ใจหนึ่งก็ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง การบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นในกรมเรามีเสียงครหาและนินทาว่าร้าย
ต่างๆนาๆ ว่าหากเส้นสายไม่ใหญ่จริงต้องมีการเสียเงิน
ข่าวนี้แทบจะเป็นปกติวิสัยที่ทุกคนต้องรู้�
ว่าจะโทรศัพท์ถามหน้าห้องว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง มานั่งนึกว่าไม่เหมาะสม
เราหาคนให้ตามที่สั่งก็เป็นพอ จึงเดินมาด้านล่างมองหาประเวศฯ จึงเดินบอกให้เดินตามเข้าห้องทำงานของข้าพเจ้า
เมื่อประเวศนั่งลงจึงเล่าเรื่องหน้าห้องท่านอธิบดีแจ้งให้ทราบ
และข้าพเจ้าก็กำหนดคนแล้วที่จะส่งไปประกวดคนแรกคือเจ้า “แบ็ค”
ผู้ร่วมจังกุมคดีรายใหญ่และขึ้นศาลเป็นพยานด้วยกัน เป็นการปูนบำเหน็จรางวัลหลังเสร็จศึก
อีกคนคือหัวหน้า “จอย” หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย
ที่ได้รับคำสั่งให้ตรึงกำลังอย่าให้พวกตัดไม้นำไม้ออกจากอุทยานแห่งชาติได้อย่างเฉียบขาด
คราวนี้เหลือคนสุดท้าย มีอาวุโสอยู่ในส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร ชอบไปร่วมฟังการต่อสู้คดีของพวกเราในศาลและทำงานในสำนักงานดีแต่ไม่เด่น
วันนี้ประเวศ ประสานให้มาพบแต่ไม่ทราบว่าไปไหน
เพราะทุกคนต้องมาพบกับข้าพเจ้าจะได้ถามว่า หากมีเงื่อนไขในภายหลังจะสู้ไหวหรือไม่
ทั้งเจ้าแบ็คและเจ้าจอย รับว่าสู้ พอถึงเวลา 16.30 น.ประสานอีกคนไม่ได้จึงส่งรายชื่อไป
2 คนก่อน...
รุ่งขึ้นเกือบเที่ยงเจอคนที่สาม
แต่เสนอชื่อไปได้รับคำตอบว่าเต็มตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
น่าเสียดายเรื่องอย่างนี้คนคอยเสียบเต็มไปหมดช้าไม่ได้เป็นความผิดพลาดของเราเอง� ประสบการณ์ด้านนี้เป็นศูนย์� และแล้วอีกประมาณ 2 สัปดาห์ คำสั่งเลื่อนระดับข้าราชการ
ซี 6 ขึ้นดำรงตำแหน่ง ซี 7 ก็ออกมีชื่อทั้งเจ้าแบ็คและเจ้าจอย ทั้งคู่ดีใจ
ยิ่งเจ้าแบ็คแล้วไม่มีพรรคมีพวกที่เข้าผู้ใหญ่ไม่เป็น ถือว่ามีโชค...
หลังจากนั้นไม่กี่วันเจ้าจอยขอเข้าไปขอบคุณท่านอธิบดีกับพวกตัวเอง
ข้าพเจ้าจึงนัดหมายเจ้าแบ็ค ให้เอารถปิกอัพเข้ากรมกับประเวศ
สำหรับข้าพเจ้าโดยสารรถไฟไปพบกันที่กรม
โดยก่อนไปให้เจ้าแบ็คหาวัตถุมงคลของดีเมืองอุบลราชธานี ไปฝากท่านด้วย...??
 ก่อนเข้าห้องท่านอธิบดี ข้าพเจ้าแนะนำให้เจ้าแบ็ครู้จักหน้าห้อง
ไอ้หนุ่มมอบพระเครื่องให้และขอบคุณหน้าห้อง แล้วเข้าไปพบท่านอธิบดีพร้อมกับข้าพเจ้าและประเวศ
ได้รายงานตัวพูดกล่าวขอบคุณท่านมอบวัตถุมงคลให้ท่านเสร็จก็ออกมา�
ก่อนจะลาหน้าห้องได้พูดฝากว่าเหลือประเวศอีกคนนะ ซี 6 จะเปิดอีกแล้วฝากด้วย
และได้ให้ข้อมูลไปว่าประเวศเงินเดือนน้อยไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
อย่างไรเสียก็ให้กรมลดไปอีกขั้นจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ในกรมจำนวนมากได้รับอานิสงส์ถ้วนหน้ากันเป็นการบอกกล่าวเพื่อกรมจะได้สร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการ
หลังจากเสร็จกิจที่กรมแล้วพวกเราพากันกันกลับมาปฏิบัติงานที่สำนักงาน
ไม่นานกรมแจ้งให้ข้าราชการที่มีระดับ ซี 5 อัตราเงินเดือนต่ำลงจากเดิมสมัครเข้ารับการคัดสรรเข้าดำรงตำแหน่ง
ซี 6 งานนี้ทำให้ประเวศค่อยมีความหวัง
เจ้าหน้าที่ในส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร ไม่ว่า สมศักดิ์ โค่นถอน เดชา มีแยบ พิชิต
วงค์เตียวตระกูล ฯลฯ ต่างดีอกดีใจได้พากันทำแบบประเมินส่ง และแล้วคำสั่งให้เลื่อนระดับเป็น
ซี 6 กันถ้วนหน้า�
สร้างความยินดีและเพิ่มขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกนาย
ข้าพเจ้าในฐานะคนดู ขอขอบคุณผู้บริหารกรมในยุคนั้น� ภาพป่าไม้สีขาวยังมีให้ข้าพเจ้าเห็น
นี้หากไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์มาโดยตลอดใครเล่าให้ฟังไม่เชื่อเด็ดขาด� แม้แต่ตัวข้าพเจ้าเองจะเข้ารับราชการยังต้องวิ่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)และสำนักงบประมาณ
(โปรดอ่าน บุกถ้ำเสือ) และมีเพื่อนเป็นอธิบดีถึง 2 คนและรองอธิบดี 2 คน
ยังมิมีสิทธิพิเศษใด ซึ่งไม่ได้ตำหนิท่านอธิบดีและรองอธิบดี ที่เป็นเพื่อนกัน
ที่กล่าวถึงเพราะท่านทำถูกแล้วที่ไม่เล่นพรรคเล่นพวก�
แต่สิ่งที่นำมาเล่าถึงในคราวนี้เป็นท่านอธิบดีคนที่ปูนบำเหน็จรางวัลให้กับพนักงานโดยไม่มีเรื่องเส้น
สาย สีหรือเงินแต่อย่างใด โชคดีที่ชาตินี้ได้พานพบ เสียดายท่านไม่ได้จบคณะ������ วนศาสตร์...?
 Last updated: 2015-12-22 08:55:09
|
@ ชาตินี้โชคดีที่พานพบ |
|
|
|
|
|
|
|
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ ชาตินี้โชคดีที่พานพบ
|