�

ก่อนที่จะเข้าเนื้อหาต้องขอขอบคุณ คุณวนกรไทย ที่ได้จัดส่งข่าวสารที่ได้รับจากไลน์ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2558 ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ไม่ได้เล่นไลน์ สำหรับผู้เขียนยอมรับว่า “ตกข่าว” จริงๆ ขอให้ผู้อ่านติดตามอ่านได้ มาว่ากันที่คุณวนกรไทย กระทู้ถามผู้เขียนว่ามีความคิดเห็นอย่างไรนั้น มาดูเนื้อข่าวโดยสรุป ดังนี้...

ประกาศ ! ป.ป.ช.ผลักดันรัฐบาล คสช.อีกครั้ง... โดยสรุปแล้วคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีแนวคิดเดิมที่เห็นว่าหากปล่อยให้กรมป่าไม้แตกเป็น 3 กรมเช่นปัจจุบันทำให้การบริหารงานไม่คล่องตัวควรกลับไปรวมกันเป็นกรมป่าไม้เหมือนเดิม ให้มีหน่วยงานการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค เช่นป่าไม้เขต ป่าไม้จังหวัดและป่าไม้อำเภอ� และมองเห็นว่าบุคลากรไม่เพียงพอเพราะข้าราชการระดับสูงเกษียณกันเป็นจำนวนมาก บุคลากรที่ขึ้นมาทดแทนขาดช่วง ขาดตอน การบริหารงบประมาณโดยรวมก็ยากลำบาก การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติจะได้เดินอย่างสะดวกสบาย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ� ง่ายต่อการดูแลพื้นที่ป่าไม้ทุก พ.ร.บ. สุดท้าย ป.ป.ช.และหน่วยงานในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทุกหน่วยเห็นพ้องต้องกันในห้วงเวลาที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ยังบริหารงานอยู่ จึงมีความเห็นควรเร่งติดตามให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ��นำเรื่องการรวมกรมเข้าคณะรัฐมนตรีทบทวนอีกครั้ง...

จากเหตุและผลดังได้กล่าวมา ผู้เขียนเห็นด้วยทุกประเด็น สิ่งสำคัญสุดยอดคือต้องรีบชี้แจงความจำเป็นเร่งด่วนต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ขอให้ท่านใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ(ชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ดำเนินการโอนคืนความสุขให้แก่คนป่าไม้ จะออกเป็นคำสั่งหรือประกาศ แล้วแต่นักกฎหมายจะพิจารณา มิฉะนั้นแล้วจะพลาดโอกาสอันหาได้ยากนัก� เพราะการออกกฎหมายและการแก้กฎหมายในสังคมไทยที่มีระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆนั้นยากเย็นนัก ร่างเสร็จแล้วกว่าจะผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกาและนำเข้าขอมติคณะรัฐมนตรี เมื่อเห็นชอบก็รีบหาวาระในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเข้าวาระแล้วกว่าจะประชุมลงความเห็นได้ออกมาเป็นกฎหมายได้ต้องฝ่าถึง 8 ด่านอรหันต์ทองคำ ดูจากตัวอย่างเมื่อปี 2555 คณะรัฐมนตรีผ่านร่างรวมกรมเมื่อ 10 กรกฎาคม 2555 ไม่มีใครนำเข้าสภาผู้แทนจึงตกไปคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)จึงได้นำมาทบทวนและถ้าปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคนปัจจุบันท่านเห็นชอบ ไม่จำเป็นต้องให้ใครไปเร่งรัดท่าน รีบนำเข้า ครม.ไม่น่าจะยุ่งยาก� สิ่งที่ยากคือถ้าไม่เห็นด้วย เพราะการรวมกรมนี้เท่าที่เคยสอบถามคนทั้งสองกรมดูเหมือนจะเฉยเมยใส่เกียร์ว่างกันทุกคน ไม่ทราบเพราะอะไร สำหรับคนที่ได้ตำแหน่งสูงขึ้นก็ย่อมชอบใจเป็นธรรมดา แต่จากการฟังจากที่เขาว่าซึ่งไม่มีที่มาของแหล่งข่าว รวมกรมแล้วจะมีเหลืออธิบดีเพียงคนเดียว แต่จะตั้งรองอธิบดีถึง 6 คน ฟังดูก็น่ารักไปอีกแบบ ถ้าเป็นจริงคงได้ลง กินเนสซ์บุ๊ก ในประเทศไทย กรมเดียวมีรองอธิบดีถึง 6 คน..?

สำหรับขั้นตอนการผ่านหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) น่าจะมีขั้นตอนไม่มากนัก เมื่อรวมกรมผ่าน มติ ครม.แล้วก็ส่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติก็สั่งการ เมื่อดำเนินการแล้วหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต้องรายงานให้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็วเท่านี้ก็เสร็จสิ้นกระบวนการ� ก่อนจบหากมีการรวมกรมได้จริงและมีการแต่งตั้งป่าไม้เขตขึ้นอีกครั้งอยากเสนอให้มีตำแหน่งผู้ช่วยป่าไม้เขตเพิ่มขึ้น เพราะเดิมนั้นมี แต่ถูกยุบไป การแต่งตั้งโยกย้ายจะได้มีคุณธรรมเพิ่มขึ้นมาบ้าง มิใช่เหมือนทุกวันนี้เวลาผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ไม่อยู่ แต่งตั้งผู้อำนวยการส่วนฯรักษาราชการรองรับไว้ 3 คน งานไม่ต่อเนื่อง จึงมีแต่คนลงนามเป็น แต่ไม่รู้เนื้อหา เพราะคงไม่มีใครขยันอ่านเรื่องเดิม หากมีผู้ช่วยจะเป็นไส้กรองอย่างดี ทำให้งานมีประสิทธิภาพ ขอเท่านี้แหละท่านและศัลยแพทย์มือดีที่ตามหาเจอแล้วคือ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

�

Last updated: 2015-11-14 07:25:07