ได้อ่านข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เสนอคณะรัฐมนตรีให้มีการรวมกรมป่าไม้ เข้ากับ กรมอุทยานแห่งชาติ� สัตว์ป่าและพันธุ์พืช� อีกครั้ง� ทั้งที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้รวมกรมตั้งแต่ วันที่ 10 มกราคม 2555� มาแล้วครั้งหนึ่ง� โดย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องการให้มีหน่วยงานในภูมิภาค คือ ป่าไม้อำเภอ ป่าไม้จังหวัด� เพื่อที่จะให้เป็นสถานที่เพื่อประชาชนติดต่อประสานงานเป็นไปด้วยความสะดวกและรวดเร็ว� และยังเสนอให้ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ( สปก.) รีบดำเนินการจัดที่ดินให้แล้วเสร็จ� ป่าไหนไม่เสร็จให้ส่งคืนกรมป่าไม้� เพื่อปลูกป่าต่อไป� นับว่าเป็นวิสัยทัศน์ของหน่วยงานอื่น เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังมองการปฏิรูปองค์การของกรมป่าไม้ในอดีตว่าน่าจะผิดพลาด สำหรับกรมป่าไม้ในอดีต� เริ่มดำเนินการผิดพลาดตั้งแต่มีการยุบ สำนักงานป่าไม้อำเภอบางอำเภอที่ดูว่าไม่มีป่า� แสดงให้เห็นวิสัยทัศน์ของผู้มีอำนาจในสมัยนั้น� ที่มองคำว่าป่าไม่กระจ่างแจ้ง� เพราะคำนิยาม ป่า ในกฎหมายป่าไม้� หมายถึง� ที่ดินที่ยังมิได้มีบุคคลได้มาตามกฎหมายที่ดิน� แต่กลับไปมองว่าเป็นอำเภอไม่มีต้นไม้ใบหญ้า� จึงยุบทิ้งเสียเลย� ในความเป็นจริงเราควบคุมดูแลและเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในกฎหมายหลายฉบับ� แต่ละฉบับมีเรื่องที่เกี่ยวข้องต้องบริการประชาชนในเรื่องการอนุญาต� เช่น� พระราชบัญญัติป่าไม้� พุทธศักราช 2484� ในเรื่องการอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้� การออกหนังสือใบเบิกทาง� พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 อนุญาตเกี่ยวกับการคุ้มครองสัตว์� และที่ออกมาให้สดๆ ร้อนๆ พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ.2558� ที่ต้องมีใบอนุญาตให้แจ้งการครอบครองงาช้าง� จึงจำเป็นจะต้องมีสถานที่ให้ราษฎรได้มาติดต่อสะดวกและรวดเร็ว ก็คงไม่พ้นที่ว่าการอำเภอ� ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีป่าไม้อำเภอ� แต่ถ้าหากจะขออนุญาตครอบครองงาช้าง� ต้องถ่อสังขารไปถึงสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่อยู่ต่างข้ามจังหวัด� แล้วประชาชนจะเป็นสุขได้อย่างไร เรากำลังหาทางมอบความสุขให้ประชาชนอยู่แล้ว

��������������� ท่านลองย้อนกลับไปอ่าน “พะยูงฤาจะสูญสิ้นแผ่นดินไทย (4)” ดูอีกสักครั้ง� ผู้เขียนได้ลองแบ่งกรมป่าไม้(เดิม) ออกเป็น 2 กรม (กรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช) ซึ่งยังไม่ได้แบ่งเป็น 3 กรม� ตามความเป็นจริง� ลองสมมุติฐานให้กรมป่าไม้ในอดีตเป็นมนุษย์เพราะถือว่ากรมป่าไม้ตั้งมานาน� มีวิวัฒนาการมาจนเต็มรูปแบบเหมือนมนุษย์ที่มีอวัยวะครบ ๓๒ ประการ� โดยแบ่งดูทั้งสองแบบ� ทั้งในแนวตั้ง และแนวระนาบ ครั้งแรกเป็นแนวระนาบ คือ ตัดตั้งแต่เอวไปจนถึงศีรษะ จากเอวลงมาเท้าก็ยังทำงานไม่ได้ จึงแบ่งในแนวตั้ง� ผ่าระหว่างกลางจมูก แยกแขนซ้ายออกจากแขนขวา ดูแล้วในแนวนี้น่าจะเป็นไปได้� แต่ปรากฏว่า เดินไม่ได้ต้องกระโดดไป� แต่พอได้ข่าวว่าจะมีการรวมกรม จิตใจเริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้างว่า ตามทฤษฎีของเราเพียงแต่จับมาต่อกันเหมือนเดิม ก็สมบูรณ์ในตัวของมันเอง แต่แล้ว มานั่งนึกที่กำลังมีความหวังเริ่มลางเลือน� เพราะงานของเราต้องการศัลยแพทย์มือหนึ่ง แล้วเราจะไปหาที่ไหนได้ละท่านที่รัก...เอวังก็มีด้วยประการะฉะนี้...???

�

Last updated: 2015-04-11 09:55:08