จดแล้วไม่ค่อยจำ เข้าใจแล้วไม่ค่อยลืม
 
     
 
เกษตรานคร (2)
พวกเรานิสิตรอบวงต่างหัวเราะโห่ร้องสนุกสนานกันเต็มที่ บางคนปล่อยก๊ากออกมา บางคนหัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหลก็มี
 

��������������� ............และแล้วเสียงสั่งการจากลำโพงก็กังวานขึ้น“อาณาประชาราษฎร์ของพระองค์ทุกคนขอถวายบังคมพระพุทธเจ้าข้า!!.................เสมือนอัตโนมัติพวกเราทุกคนที่นั่งคุกเข่ายกมือพนมขึ้นสูงพร้อมเงยหน้ามือชิดกันยกพร้อมเงยหน้าแล้วโน้มเข้าจรดหน้าผากแล้วลดลงมาพนมไว้ที่หน้าอกความสวยงามแล้วแต่ใครจะเคยดูลิเกหรือหนังพีเรียดย้อนยุคมาก่อนเพราะไม่ได้มีการบอกกล่าวหรือเตรียมการไว้แต่อย่างใด.....

��������������� “เฮ้ยไอ้เมธนายถวายบังคมสวยนี่หว่าสงสัยลิเกเก่าว่ะ!

��������������� ไอ้ชินมันยิ่งสวยกว่าเราอีกว่ะบ้านมันอยู่ลาดกระบังสงสัยคณะลิเกเยอะว่ะ!

��������������� ต่างคนต่างล้อเลียนกันสนุกกันเต็มที่พลันเสียงจากพระโอษฐ์ก็กังวานขึ้นในขณะที่ไฟส่องฟลอร์เริ่มหยุดเปล่งแสงไปคู่หนึ่งแสงที่เหลือจึงผ่านด้านหลังของเจ้ามหานครทำให้เรามองพระพักตร์เจ้าผู้ครองนครไม่ชัดไม่ทราบว่าใครได้สวมบทนี้สุรเสียงที่เปล่งออกมามีอำนาจผ่านลำโพงคิดว่าไมค์คงเหน็บไว้ที่คอเสื้อ.........ว่า

��������������� “ท่านเสนาบดีมาครบองค์ประชุมแล้วหรือยัง”พระองค์ทรงตรัสสุรเสียงดังฟังชัดเต็มไปด้วยน้ำเสียงนิ่มนวลแต่ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจ.............ชายทั้ง6คนที่เรามองเห็นนั่งหมอบอยู่เมื่อสักครู่ต่างคุกเข่ายกมือถวายบังคมพร้อมเปล่งวาจาพร้อมกันว่า..........

��������������� “พร้อมทุกกระทรวงแล้วพระพุทธเจ้าข้าขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน”

��������������� เอ๊า!......เมื่อพร้อมแล้วรายงานสถานการณ์ในรอบปีที่ผ่านมาให้ฟังหน่อยซิ”

��������������� บรรยากาศโดยรอบมีแต่แสงสลัวดวงตาทุกคู่ของพวกเราต่างเพ่งและจ้องมองไปยังจุดเดียวกันพยายามปรับโฟกัสของแก้วตาให้ชัดมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้มันทำให้ปวดตาพอสมควรแต่ทุกคนลืมไปเพราะความอยากรู้อยากเห็นเป็นวิสัยของมนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว............?

��������������� เอ๊า!.......ออกญากลาโหมก่อนก็แล้วกันความมั่นคงภายในและความมั่นคงภายนอกพระมหานครเป็นอย่างไรสงบเรียบร้อยดีหรือไม่มีข้าศึกมารุกรานให้รำคาญใจบ้างรึ”

��������������� “ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายรายงานความมั่นคงภายในก่อนเมื่อสองสามเพลาที่ผ่านมามีลิ้นกระทบฟันบ้างพระพุทธเจ้าข้า”

��������������� ...........เจ้าเอาอะไรมาพูดลิ้นอยู่ส่วนลิ้นฟันอยู่ส่วนฟันมันจะกระทบกันได้อย่างไรเจ้านี้จะประสาทเสียซะแล้วซิ!

��������������� “ข้าพระพุทะเจ้าขอประทานอภัยโทษมันเป็นคำเปรียบเปรยพระเจ้าข้า!

��������������� “แล้วเรื่องมันไปอย่างไรมาอย่างไรอย่ามัวเล่นลิ้นข้ารำคาญแล้ว”

��������������� “ความจริงมันเป็นดังนี้พระเจ้าข้าประชาชนชาวป่าไม้ทะเลาะกับชาวไร่ชาวสวนทำให้แตกความสามัคคีพระพุทธเจ้าข้าแต่ดีที่ว่ามันทั้งสองมิได้ยกพวกตีกันให้เป็นที่รำคาญใจของทหารหลวงมันตัดสินกันเองอย่างลูกผู้ชายได้ข่าวว่าแต่ละข้างส่งชายฉกรรจ์มาต่อยตีกันฝ่ายละหนึ่งคนไอ้สองตัวมันตัวโตด้วยกันทั้งคู่ประจวบเหมาะกับทั้งสองมันหมายปองแม่หญิงเดียวกันเลยมีความแค้นเป็นทุนเดิมอีกทั้งคู่เมื่อแต่ก่อนเป็นเพื่อนรักกันด้วยเพิ่งมาแตกคอกันเพราะนังหญิงคนเดียวกันมันก็ยุติธรรมดีแล้วพระพุทธเจ้าข้า”

��������������� “แล้วผลมันเป็นประการใดละข้าฯใคร่จะรู้นัก”

��������������� “มันก็จบเร็วเกินไปซิพระพุทธเจ้าคะ”

��������������� “มันเร็วอย่างไร?ล่ะ�� รีบเล่ามาข้าอยากฟังเต็มทนแล้ว”

��������������� “มันก็แพ้ทั้งคู่พระเจ้าข้า”

��������������� “แพ้อย่างไรทั้งคู่มันต้องมีคนชนะซิวะ”

��������������� “เป็นความจริงพระเจ้าคะมันทั้งสองกำหมัดเข้าแลกกันตูมเดียวสลบทั้งคู่เลยพระพุทธเจ้าข้า!

��������������� พอสิ้นเสียงของออกญากลาโหมรายงานพวกเรานิสิตรอบวงต่างหัวเราะโห่ร้องสนุกสนานกันเต็มที่บางคนปล่อยก๊ากออกมาบางคนหัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหลก็มี........ทันใดนั้นทุกคนต้องหุบปากลงทันทีเนื่องจากมีเสียงรับสั่งจากพระเจ้ามหานครตรัสต่อไปว่า ......

��������������� “แล้วความมั่นคงภายนอกละเป็นอย่างไร?”


Last updated: 2014-09-13 23:19:50


@ เกษตรานคร (2)
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ เกษตรานคร (2)
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
1,146

Your IP-Address: 18.221.100.52/ Users: 
1,145