องค์สุริยะเทพทรงสั่งให้สารถีชักรถอาชามุ่งหน้าสู่ทิศประจิม เพลาย่ำค่ำเริ่มเข้ามาเยือน อากาศลดความดันลงต่ำแล้ว พระพายได้โอกาสพุ่งตัวเข้ามาแทนที่ ยามนี้อากาศเริ่มเย็นลงตามลำดับ มันเป็นไปตามธรรมชาติมาชั่วนาตาปี ข้าพเจ้าวันนี้ว่างเดินเล่นอยู่หน้าหน่วย สดชื่นไปกับธรรมชาติเดินไปคิดไป เมื่อตอนบ่ายได้รับจดหมายลงทะเบียนจากบุรุษไปรษณีย์ ซึ่งนำมาให้โดยตรงกับข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นหนังสือราชการจากป่าไม้เขต ความอยากรู้อยากเห็นอดใจไม่ได้รีบเปิดผนึกดูทันที ปรากฏว่ามันเป็นคำสั่งย้ายข้าพเจ้าจากสำนักพัฒนาป่าไม้ที่อำเภอขุขันธ์ไปเป็นหัวหน้าสำนักพัฒนาป่าไม้ที่อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นหรือประหลาดใจให้กับตัวข้าพเจ้าแต่อย่างใด เพราะเป็นข้าราชการต้องทำตัวพร้อมที่จะย้ายตลอดเวลา แต่การย้ายครั้งนี้ไม่ได้ย้ายเพราะกระทำผิด ประพฤติมิชอบ เพียงแต่ย้ายเพื่อความเหมาะสม เพราะอยู่สำนักนี้มาสองปีเศษแล้ว สมควรแก่เวลาเพราะงานที่เน้นไปทางปราบปราม ไม่ควรจะอยู่นาน นอกจากจะสร้างความคุ้นเคยกับบุคคลในพื้นที่แล้วยังเป็นเหตุให้ทำงานยากลำบาก ความคุ้นเคยฆ่าคนมามากแล้วในลักษณะงานเช่นนี้...........
.......แม้นจะอยู่อาละวาดจนพ่อค้าไม้แถวบ้านตะแบง โอปังโกว์ จำปานวง หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาอย่างหนักก็ตาม หาได้ทำให้ข้าพเจ้ามีศัตรูก็หาไม่ เพราะข้าพเจ้าถือคำสอนที่ว่า ....
...........ปัญญาเปรียบประดุจดังอาวุธ
สุจริตไซร์ คือเกระกำบังศาสตร์พ้อง.........
ถ้าท่านทั้งหลายจะนำไปใช้บ้างจะเป็นมงคลกับชีวิตมากทีเดียว หลังจากที่ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่า ข้าพเจ้าจะย้ายแล้ว น้องที่อยู่หน่วยไม่ว่าจะเป็นอิทธิฤทธิ์ แตรชัย เจ้าตุ้ย เจ้าสุมน และน้องคนอื่น ๆ ที่ไม่ได้เอ่ยนาม ได้จัดให้มีกิจกรรมการแข่งขันกีฬาตะกร้อ ให้ชื่อเกมส์ว่า ศึกชิงความเป็นเจ้าแห่งขุนเขาพนมดงรัก ปรากฏว่าทีมเจ้าภาพชนะ เนื่องจากใช้กลโกงจากสำนักของเพื่อนยิ่งชัย และเพื่อนสาคร โครตมงคล ทั้ง ๆ ที่เพื่อนสาครเป็นอดีตนักตระกร้อทีมมหาลัยมาก่อน แต่แก่แล้วย่อมร่วงโรยไปตามสังขาร สำหรับเพื่อยิ่งนั้น ผู้ได้ฉายาว่าขุนเข่าไร้น้ำใจได้แสดงฝีไม้ลายมือไม่เบา เสร็จจากงานแข่งขันก็มาถึงงานบันเทิง มีการจัดงานโดยหาวงดนตรีมาเสริมเพื่อความสนุกสนาน ในช่วงของกลางงานต่างคนต่างนั่งนิ่งเงียบกริบ พิธีกรบนเวทีได้เชิญข้าพเจ้าไปบนเวที ตอนแรกข้าพเจ้าก็งง เพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่ข้าพเจ้าจะขึ้นไปกล่าวอำลาเพื่อนและน้อง ๆ ข้าพเจ้ารู้ดีเพราะเคยเป็นพิธีกรมาก่อนอย่างโชกโชน เมื่อข้าพเจ้าเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างเชื่องช้าแบบไม่มั่นใจนัก เพราะคิดว่าพิธีกรอาจจะเมาประกาศผิดประกาศถูก แต่เมื่อข้าพเจ้ายืนนิ่งกลางเวที ทุกคนที่นั่งตามโต๊ะต่าง ๆ ทุกคนยืนขึ้นพร้อมกัน และ ณ นาทีนั่นเอง ดนตรีเริ่มบรรเลงเพลง ดอกไม้เพื่อคุณ กระหึ่มขึ้นทันที หัวหน้าหน่วยของข้าพเจ้าพร้อมน้องได้ทยอยเดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมช่อกุหลาบช่อใหญ่ 1 ช่อ มอบให้ข้าพเจ้า ในขณะนั้นหูของข้าพเจ้าอื้ออึงไปหมด ไม่ได้ยินเสียงไชโยและเสียงอวยพรจากน้อง ความมีน้ำใจจากน้อง ๆ และเพื่อนในครั้งนี้มันทำให้น้ำตาของลูกผู้ชายที่แม้จะเจ็บปวดอย่างไรก็ยากที่จะไหลออกมา บัดนี้มันค่อย ๆ ไหลรินออกจากตาโดยไม่รู้ตัว ไม่สามารถจะบรรยายให้ผู้อ่านได้รู้น้ำตาลูกผู้ชายมันยิ่งใหญ่นัก หลังจากนั้นน้อง ๆ ทุกคนที่อยู่ตามโต๊ะต่างเดินเรียงลำดับมามอบดอกไม้ให้ข้าพเจ้าจนครบทุกคน หลังจากนั้นพิธีกร ประกาศให้ข้าพเจ้าได้พูดแสดงความรู้สึกฐานะเจ้าภาพและผู้ถูกย้าย ข้าพเจ้าได้กล่าวขอบคุณทั้งน้ำตาใจความไม่ยาวนัก ทั้ง ๆ ที่ปกติข้าพเจ้าเป็นนักพูดดาวเด่นคนหนึ่งเหมือนกัน แต่วันนี้มาตกม้าตายจริง ๆ ความประทับใจครั้งนั้นข้าพเจ้าจักจดจำไว้จนวันตาย....ขอบคุณน้องรักที่ร่วมงานทุกคน....!
.............รุ่งเช้าข้าพเจ้าก็ได้จัดเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ลาแล้วบ้านเก่าที่ให้ความอบอุ่นตลอดเวลา ใจหายพอควร เดินทางไปยังหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 ซึ่งทางเขตเลือกเป็นสำนักพัฒนาป่าไม้ท้องที่อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เหมือนเคยสภาพของหน่วยเป็นหน่วยที่ทรุดโทรม จำเป็นต้องปรับปรุง ไม่รอช้าเมื่อแนะนำตัวให้ผู้ใต้บังคับบัญชา และทำความรู้จักทุกคนที่จำร่วมงานแล้วจึงได้เริ่มปรับปรุงหน่วยกัน โดยเริ่มจากห้องทาสีใหม่ ใต้ถุนหน่วยจัดเป็นสำนักงานตามอัตภาพ พอดูได้ไม่ทำให้น่าเกลียดจนเกินไป สำหรับสำนักนี้ มีหน่วยป้องกันรักษาป่าอยู่ในการควบคุมบังคับบัญชา 3 หน่วย และหน่วยปรับปรุงต้นน้ำอีก 1 หน่วย หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร. 1 ได้เพื่อนยิ่งชัยเป็นหัวหน้าหน่วยจึงทำให้ไม่เหงาปากนัก ในห้วงเดือนแรกที่ไปทำงานนั้นกรมป่าไม้ได้ส่งน้อง ๆ บรรจุใหม่ไปให้ 4 คน พอดีได้กำลังเพิ่ม อยู่ไปสักระยะจึงเสนอให้เจ้าซิก ซึ่งเป็นพี่ใหญ่จากจำนวนทั้งหมดให้ไปเป็นหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร. 3 ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ เป็นภาระพอสมควรในการเป็นพี่เลี้ยง แต่ฝึกไม่นานก็บินได้สบาย ต่อมาจึงส่งเจ้าจอย ธีรยุทธ วงศ์ไพเสริฐ รุ่นน้องเจ้าซิกหนึ่งรุ่นไปเป็นผู้ช่วยทำให้กำลังหน่วย สร. 3 แข็งขึ้นทันตาเห็น ทั้งสองคนจบมาใหม่ ๆ ไฟแรง งานที่รับผิดชอบจึงไปได้สวย หมดห่วงไปได้ หลังจากได้เรียกประชุมกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ วางกติกาการอยู่กันเสร็จก็แยกย้ายกันไปพักตามอัธยาศัย ไม่มีการเลี้ยงต้อนรับแต่อย่างไรเพราะข้าพเจ้าห้ามไว้
..........คืนนี้ก็เหมือนคืนอื่น ๆ มองทะลุออกไปทางหน้าต่างจึงรู้ว่าเป็นคืนเดือนมืด เพราะดวงดาวพราวพร่างไปทั่วนภากาศ ข้าพเจ้านอนคิดย้อนหลังไปเมื่อตอนบรรจุใหม่ ๆ ห้องนี้เป็นห้องที่ได้เคยนอนมาแล้ว แสดงว่ามันมีวัฏฏจักรจริงโลกอันบูดเบี้ยวของเรา.... ไม่นานก็พล่อยหลับไปเนื่องจากความเพลีย.....
...อยู่หน่วยสังขะมาได้ประมาณเดือนเศษ ลงมืออาละวาดพวกมอดไม้กระเจิดกระเจิง เปรียบดังผึ้งแตกรังได้ผลเกินคาดน้อง ๆ กำลังร้อนวิชากันทั้งนั้น เบาใจหน่อย...วันนี้ไม่ได้ออกลาดตระเวนเหมือนทุกวันขณะกำลังนั่งร่างหนังสืออยู่นั้น ได้มีอาคันตุกะที่ไม่เคยรู้จักขี่ไอ้เจ้าแมงกะไซค์ของญี่ปุ่น มาจดที่หน้าหน่วย แล้วด้วยความเร่งรีบได้เดินมาที่โต๊ะของข้าพเจ้าส่งซองจดหมายสีขาววางที่โต๊ะแล้วเจ้าตัวรีบเดินกลับกระโดดขึ้นยานพาหนะขับมันออกไปด้วยความเร่งรีบ ข้าพเจ้าเรียกให้หยุดไม่ทัน จึงไม่ได้ซักถามอะไรเลย ...ทำเอางงไปหมดเจอเล่นสงครามจิตวิทยาเข้าให้แล้ว.... ความสงสัยอันเป็นวิสัยมนุษย์ จึงรีบแกะซองจดหมาย นึกในใจ ใครคิดติดสินบนอีกแล้วหรือนี่ พอเปิดซองพบว่าหาใช่สิ่งที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายไม่ มันกลับเป็นกระดาษสมุดเก่ามีข้อความว่ามีไม้เถื่อนอยู่ในบ้านเลขที่......อย่างชัดเจน ขอให้ไปจับกุม ลายมือลงชื่อโยเย้ มันทำให้ข้าพเจ้าโล่งอกไปมากทีเดียว ไม่รอช้ารีบให้พนักงานพิทักษ์ป่าไปตาม พนักงานป่าไม้ที่ชื่อประเวศ สุจินพรหม ซึ่งย้ายมาอยู่หน่วยนี้ก่อนข้าพเจ้ามาสอบถาม
เวศ คุณพอจะรู้ที่ตรงนี้ไหมละมีคนมาแจ้งให้ไปจับไม้
รู้ครับ หัวหน้าจะให้ผมไปเตรียมพลได้เลยใช่ไหม?
ไประดมพลเร็วเดี๋ยวเจ้าของรู้ จะเอาของกลางหนีไปก่อน
..........ไม่ถึง 15 นาที ทุกคนพร้อมที่มีพนักงานพิทักษ์ป่า 8 นาย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 3 นาย รวมข้าพเจ้าเป็น 4 เท่านี้ก็น่าจะพอ.... ไม่ทัน 20 นาที พวกเรามาถึงที่หมาย มันเป็นบ้านติดถนนใต้ถุนมุงด้วยสังกะสีเก่า ๆ ตัวบ้านล้อมรอบด้วยรั้วไม้แก่นล่อนตีขวางด้วยไม้ไผ่ เหมือนบ้านในชนบททั่ว ๆ ไป ข้าพเจ้ายืนเกาะรั้วมองทะลุเข้าไปในบริเวณบ้าน ซึ่งมีบริเวณประมาณ 50 ตารางวา พบเห็นไม้ 2 ท่อน ยาวประมาณท่อนละ 3 เมตร ถูกตัดมาใหม่สด ตรงตามจดหมายน้อยร้องเรียนจริง แต่มองดูจากบ้านและฐานะของคนในครอบครัวแล้วน่าจะพอมีกิน ค่อนข้างไปในทางยากจน ในใจนึกว่าไม่น่าจับแต่เกรงว่าผู้ร้องจะคอยดูอยู่ แล้วร้องเรียนว่าพวกเราละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จึงตัดสินใจควักหมายค้นที่ขอมาจากสารวัตรใหญ่มากรอกบ้านเลขที่ ในสมัยนั้นการขอหมายค้นจะขอกับตำรวจ แต่ปัจจุบันต้องขอที่ศาล ประตูรั้วไม่ได้ใส่กุญแจแสดงว่าเจ้าของบ้านคงอยู่ในรัศมีไม่ห่างจากบ้านมากนัก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจึงให้เอารถไปรับผู้ใหญ่บ้านมาเป็นพยานในการเข้าไปค้น เมื่อผู้ใหญ่บ้านมาถึงแจ้งให้ทราบ ข้าพเจ้าพร้อมเจ้าเวศ เจ้าน้อยพนักงานพิทักษ์ป่าเดินเปิดประตูเข้าไปในบริเวณบ้าน.....
เวศ คุณมุดใต้ถุนบ้านไปดูซิเป็นไม้อะไร ขณะที่ประเวศกำลังจะมุดไปนั้น มีชายวัยกลางคนหน้าตาผิวหน้าหยาบกร้านเป็นชาวชนบท กำลังแบหน่อไม้ป่ามาถุงหนึ่ง พอมาถึงผู้ใหญ่บ้านรีบเข้าไปอธิบาย ข้าพเจ้าเอาหมายค้นไปให้ดู เจ้าของบ้านไม่พูดอะไรพาไปดูไม้แต่โดยดี ประเวศซึ่งเขาไปดูไม้ออกรายงาน........
หัวหน้าครับ ผมสงสัยว่าจะเป็นไม้งิ้วป่า พอได้รับรายงานทำให้ข้าพเจ้านิ่งอึ้งไปทีเดียว รีบให้ลูกน้องไปที่รถเอาหนังสือกฎหมายป่าไม้มารีบทำการเปิดดูพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม หาอย่างไรก็ไม่พบไม้งิ้วป่า ตายละซิ ไอ้ที่เห็นอยู่มันเป็นไม้นอกประเภทหวงห้าม จะจับอย่างไร คำถามมันวนเวียนอยู่ในสมองทำให้ต้องคิดหาทางหนีทีไล่ เพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้ให้ได้
หัวหน้าครับผมว่าเราจับไม่ได้แล้วละ ข้าพเจ้านิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ทันใดนั้นความคิดมันผุดขึ้นมาในหัวทันที
เวศ ถ้าจะจับก็จับได้ ต้องทำไม้ให้มันเป็นไม้หวงห้ามให้ได้ ประเวศและทุกคนทำสีหน้างุนงง สงสัยหัวหน้าจะเลอะเลือนเสียแล้ว ทุกคนได้แต่มองตากัน คนโน้นทีคนนี้ที คิ้วขมวดเข้าหากันทุกคนละ เกิดปริศนาเข้ามาแล้ว
..........ข้าพเจ้าเคยอ่านนิยายสืบสวนมาบ้างเขาสอนว่า ณ สถานที่เกิดเหตุจะเป็นสถานที่แสวงหาหลักฐานได้ดีที่สุด ทุก ๆ คดีจะต้องมีการทิ้งร่องรอยไว้ คิดได้ดังนั้นจึงเรียก....
เวศ คุณตรวจดูซิว่าไม้ถูกตัดด้วยเลื่อยมือหรือเลื่อยยนต์
ประเวศไม่รอช้า ตรวจสอบบริเวณบ้านอย่างละเอียดแล้วรายงาน......
หัวหน้าครับ ไม้มี 2 ท่อน ยาวประมาณท่อนละ 3 เมตร โตวัดรอบได้ 120 เซนติเมตร ถูกตัดด้วยเลื่อยมือ พบรถเข็นหนึ่งคัน บนรถมีเศษขี้เลื่อย ล้อติดเศษดินมาใหม่ ....เอาละได้ข้อมูลพอแล้วสั่งการทันที.......
พวกเราทุกคนกระจายดูรอบ ๆ บ้านซิ มีรอยล้อรถเข็นที่ไหนบ้าง
สักครู่เดียวได้ยินเสียงเจ้าแมวพนักงานขับรถตะโกนมาทางด้านทิศตะวันตกของบ้าน........
หัวหน้าเจอแล้วรอยรถเข็นมันมาทางนี้ ไม่ทันสิ้นเสียงพวกเราทุกคนกรูกันไปตามเสียงนั้นทันที พอไปถึงพบรอยรถเข็น 2 ล้อ มุ่งไปทางทิศเหนือ จึงรีบเดินตามรอยไปอย่างรวดเร็วบริเวณที่เดินเป็นป่าโปร่ง เพราะเป็นสวนป่าขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ปลูกไว้โตมากแล้ว พอพ้นแนวสวนป่า ทีนี้ละมืดแปดด้านเพราะต่อไปเป็นป่าทึบ พื้นมีแต่ไม้แห้งหารอยของรถเข็นไม่เจอ ข้าพเจ้าสั่งให้หยุดแล้วมานั่งพักประชุมวางแผนกันหลังจากที่เราเดินได้ประมาณครึ่งกิโลเมตร......
เอ้า! พวกเรานั่งพักเหนื่อยก่อน มีความเห็นอย่างไรเสนอมา
ไอ้เจ้าแมว คนขับรถ เสนอควรกระจายเดินค้นหาตอเพราะคนเรามาก อาจจะหาไม่ยาก ข้าพเจ้ารับฟังเหตุผลแต่ควรจะเป็นระบบจึงได้สั่งการทันที......
ทุกคนยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่ง หันหน้าไปทางทิศเหนือขยายข้างละ 10 ก้าว พวกเรามี 12 คน คงจะพอ เวลาเดินให้มองรอบตัวหาตอไม้งิ้วป่าให้เจอ หน้าเดิน
ทุกคนรีบปฏิบัติการเดิน ในป่าเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่บ้างเล็กบ้างแดดรำไร ๆ ลมโชยมาครั้งใดทำจิตใจสดชื่น และคลายความเหนื่อยไปได้ มีป่าก็ดีมันก็ดีอย่างนี้แหละ ขณะที่พวกเราเดินมาได้ประมาณ 300 เมตร ก็มีเสียงตะโกนของเจ้าเวศ...........
เจอแล้วหัวหน้า ตอมันอยู่ที่นี่เอง ทุกคนรีบมุ่งหน้าไปตามเสียงทันที เสียงเท้าคนที่เหยียบไปบนใบไม้ขณะที่ป่าเงียบสงัดและวังเวงดังไม่น้อยทีเดียว พอไปถึงมันเป็นตอไม้งิ้วป่าจริง ๆ ถูกตัดไปใหม่ ๆ สดเลยทีเดียว ข้าพเจ้าสั่งให้พวกเรานั่งพักเอาแรงเพราะงานใหญ่รออยู่ข้างหน้า เมื่อเห็นทุกคนหายเหนื่อยแล้ว สั่งการทันที.............
เวศ คุณนำพวกเราที่นี้ไป 6 คน สมทบกับพวกที่เฝ้าไม้ 2 คน รวมเป็น 6 คน น่าจะพอ อันดับแรกคุณไปรับพนักงานสอบสวนที่ สภ.อ.มาด้วย หลังจากรับมาแล้วให้เอารถเข็นติดมาด้วยอาจต้องใช้ถ้ารถยนต์เข้าไม่ถึง
ณ จุดเกิดเหตุ บัดนี้พวกเราทุกคนมาพร้อมหน้ากันหมดแล้วมีมาเพิ่มคือ พนักงานสอบสวน ซึ่งหน้าตายังวัยใสอยู่ นัยว่าเพิ่งจบจากโรงเรียนนายร้อยมาหมาด ๆ และเจ้าของไม้ สักขีพยานพร้อมแล้ว ข้าพเจ้าจึงให้ดำเนินการทันที........
พวกเราเอาที่แข็งแรงหน่อยประมาณ 6 คน ช่วยยกท่อนไม้มาต่อเรียงใกล้กับตอและเอายอดไม้ที่เหลือทิ้งไว้ต่อด้วยดูซิว่ามันเข้ากันได้หรือเปล่า
ทุกคนพอได้ยินคำสั่งรีบดำเนินการทันที เมื่อไม้มาเรียงกันเรียบร้อยดีแล้วจึงหันไปทางพนักงานสอบสวน
รองสันติ คุณว่าอย่างไร พวกเราเอากล้องถ่ายรูปมาถ่ายเจ้าของไม้ยืนชี้ด้วยนะ
เสร็จสิ้นขบวนการต่อไม้ในแนวนอนเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นจุดสำคัญของปฏิบัติการดังนี้แล้ว ดูทุกคนใจจดใจจ่อว่าผลมันจะลงเอยประการใด.............
น้อย เลือกพวกเราอีก 4 คน ที่แข็งแรงยกเว้นเจ้าตั๊บ ช่วยกันยกท่อนโค่นตั้งบนตอไม้ซิ
ดีที่ว่าไม้ไม่ใหญ่นักมิฉะนั้นด้วยแรงคนคงทำไม่ได้ พอได้รับคำสั่งพิทักษ์ป่าทั้ง 6 คน ยกไม้ท่อนทั้งโค่นขึ้นตั้งบนตอไม้ ปรากฏการแห่งความมหัศจรรย์พลันเกิดขึ้นให้เป็น ไม้ท่อนกับตอต่อกันได้สนิท โดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อข้าพเจ้าเห็นเช่นนั้นก็ถอนใจโล่งอก จึงได้ให้พนักงานสอบสวนและเจ้าของไม้ถ่ายรูปร่วมกันประกอบหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป..... เมื่อขบวนการต่อท่อนเสร็จสิ้นแล้วพวกเราทั้งหมดได้เดินทางกลับมาที่บ้านอันเป็นที่เกิดเหตุ สั่งการให้ประเวศทำบันทึกการจับกุมเสร็จแล้วนำผู้ต้องหาไปแจ้งความต่อ สภ.อ. ฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต จากไม้นอกประเภทกลับเป็นไม้หวงห้ามเพราะข้าพเจ้าฉุกคิดได้ว่า หลังบ้านเป็นพื้นที่ป่าสงวนทั้งหมด ฉะนั้นไม้ทุกชนิดที่ขึ้นอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติย่อมต้องเป็นไม้หวงห้ามทั้งหมด หัวใจมันอยู่ตรงนี้เอง ผลพนักงานสอบสวนและอัยการสั่งฟ้องศาลลงโทษตามโทษานุโทษ มานึกก็ให้สงสารผู้ต้องหาแต่เมื่อมีการร้องเรียน ไม่ดำเนินการก็ไม่ได้ เข็ดแล้ว เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด
เช้าวันนี้ ตื่นขึ้นมารู้สึกปลอดโปร่ง เดินมองดูต้นประดู่ใหญ่ในหน่วยได้แต่สังเวชใจว่า ถ้ามันไปขึ้นในป่า ปัจจุบันคงเหลือแต่ตอแล้วแน่นอน เพราะมันเปลาตรงสวยเสียเหลือเกิน ดอกประดู่เป็นสัญลักษณ์ของหน่วยงานของทหารแห่งท้องทะเล กองทัพเรือแห่งราชนาวีไทย.............
Last updated: 2014-03-26 14:00:13