พะยูงฤาจะสูญสิ้นแผ่นดินไทย (๒)
พ่อค้าไทยจะเรียกรถตู้คอนเทนเนอร์มาจากท่าเรือใดท่าเรือหนึ่งในไทย มาขนส่งไปยังเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ไต้หวัน หรืออินเดีย โดยไม่ต้องชำระภาษีแต่อย่างใด
...ในตอนที่ (๑) เราทิ้งปรัศนีไว้ว่า โกดังที่เก็บไม้เพื่อจะส่งออกต่างประเทศในท้องที่อิสานใต้ ส่วนมากจะตั้งอยู่ที่ใด และกลยุทธ์ในการนำไม้จากที่ดินกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองตลอดจนไม้ที่ลักลอบจากป่าสงวนแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรืออุทยานแห่งชาติ มาเตรียมกองไว้เพื่อจัดส่งออกนอกประเทศไปอย่างไรนั้น จะขอเล่าย้อนไปในอดีตที่ไม่นานนัก เมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๙ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ของเรา ผ่านไปทางอำเภอพิบูลมังสาหาร ไปพบไม้กองอยู่ในโกดังที่ทำล้อมรอบด้วยสังกะสีเนื้อที่ประมาณไร่เศษ เป็นโกดังกึ่งถาวร เพราะภายในมีโรงเรือนที่มีหลังคามุงด้วยสังกะสีอยู่หนึ่งหลัง และมีไม้พะยูงกองทะลักออกมาจากโรงเรือน มาอยู่ภายนอกที่พื้นที่เป็นซีเมนต์ เป็นไม้พะยูงหลากหลายสภาพและขนาด เก่าบ้างใหม่บ้าง แล้วแต่จะหามาได้ ในตอนนั้นกรมป่าไม้ถูกแบ่งแยกไปเป็นกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แล้ว แต่เรายังคงสนธิกำลังกันได้อย่างดี ไม่เหมือนปัจจุบันที่ต่างฝ่ายต่างเกี่ยงกัน ขาดซึ่งความสามัคคี แต่ก็ได้ร่วมทำการจับกุมได้ไม้พะยูงประมาณ ๑,๖๐๐ ท่อน ทำให้รู้ว่าจะต้องมีโกดังในลักษณะนี้อีก วันรุ่งขึ้นจึงได้ออกตรวจจับกุมไม้ได้อีกหลายโกดัง บางแห่งรู้ตัวก่อน นำไม้ออกมากองทิ้งนอกโกดังก็มี อำเภอนี้มีด่านพรมแดน คือ ด่านช่องเม็ก กั้นระหว่างไทย สปป.ลาว และยังมีด่านอำเภอเขมราฐอีกหนึ่งแห่ง ในห้วงเวลานั้นประเทศเพื่อนบ้านของเราไม่ว่า สปป.ลาว หรือกัมพูชา ยังมีการส่งไม้แปรรูปออก พ่อค้าไม้ในไทยมีการนำไม้เข้าประเทศ ใน ๒ วิธีการ
ประการแรก นำเข้าตามปกติเพื่อใช้สอยในประเทศ โดยใช้กฎและระเบียบเดิม เมื่อนำเข้าไม้จำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และมีการออกใบเบิกทางกำกับไม้ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของผู้นำเข้า จะระบุชื่อไม้ต่อท้ายด้วยชื่อประเทศ เช่น ไม้พะยูงลาว หรือไม้พะยูงกัมพูชา ประการที่สอง เป็นการนำเข้ามาพักเพื่อเปลี่ยนถ่ายรถขนส่ง หากเรียกว่า เป็นการนำผ่าน น่าจะถูกต้องกว่า เป็นการนำสินค้าไม้เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อส่งไปประเทศที่สาม ซึ่งศุลกากรแจ้งว่า การนำเข้านี้เรียกกันว่า สินค้าผ่านแดน พ่อค้าเมื่อนำไม้เข้าจะใช้เอกสารที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า เอกซ์ปอร์ต พาส เปอร์มิต (Export pass permit) ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อขออนุญาตผ่านแดน แล้วนำรถบรรทุกไม้ที่มีกระบะเปลือย บรรทุกไม้มีผ้าใบคลุมปิดรัดขอบผ้าใบติดลวดตะกั่วร้อยไว้จาก สปป.ลาว ห้ามมิให้ผู้ใดเปิดก่อน หากจะมีการตรวจสอบต้องใช้เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายร่วมกันจึงจะเปิดดูได้ ทางลาวเรียกว่า หนีบกิ่ว พ่อค้าไทยได้เช่าโกดังไว้ฝั่งไทย และได้แจ้งศุลกากรขออนุมัติเป็นคลังสินค้าชั่วคราวเพื่อถ่ายเก็บไม้ที่ลำเลียงมา เมื่อตรวจสอบกันครบถ้วนตามเอกสาร พ่อค้าไทยจะเรียกรถตู้คอนเทนเนอร์มาจากท่าเรือใดท่าเรือหนึ่งในไทย มาขนส่งไปยังเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ไต้หวัน หรืออินเดีย โดยไม่ต้องชำระภาษีแต่อย่างใด เรื่องในทำนองนี้ป่าไม้เราน้อยคนที่จะรู้มาก่อน เนื่องจากเป็นระเบียบของศุลกากร ทำให้อดแปลกใจไม่ได้ จึงได้สอบถามเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้ความว่าการขนส่งไม้ในลักษณะนี้ว่าเป็น สินค้าผ่านแดน เป็นการปฏิบัติตามอนุสัญญาที่ไทยเป็นสมาชิกเรียกว่า อนุสัญญาบาเซโลนา สรุปสาระสำคัญคือ การส่งสินค้าจากประเทศหนึ่งไปยังประเทศที่สาม โดยประเทศผู้ส่งออกไม่มีดินแดนติดทะเล ให้ประเทศที่สองอนุญาตให้ผ่านโดยที่สินค้าจะต้องบรรจุภัณฑ์ให้มิดชิดเรียบร้อย และไม่ต้องชำระภาษีอากรแต่อย่างใด ยกตัวอย่าง สปป.ลาว จะส่งไม้พะยูงเป็นสินค้าไปประเทศจีน ประเทศลาวไม่มีดินแดนติดทะเลเพื่อส่งสินค้าทางเรือได้ จำเป็นต้องส่งผ่านประเทศไทย ก็ให้ไทยให้ความสะดวกตามอนุสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้ สำหรับเส้นทางขนส่งในประเทศต้องทำความตกลงว่าด้วยการส่งทางถนนระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมขนส่งไปรษณีย์และก่อสร้างของลาว ร่วมลงนามซึ่งได้มีการตกลง ลงนามร่วมกันเมื่อ ๕ มีนาคม ๒๕๔๒ ณ กรุงเทพมหานคร มีทั้งหมด ๑๕ ข้อ หากเราอ่านและตีความจะเห็นว่า ในทางปฏิบัติเท่าที่ตรวจพบเห็นว่าการปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อตกลงที่เขียนไว้ยังสับสนอยู่ ถ้าตีความว่าสินค้าที่ส่งออกไปจีนของลาว สินค้าผ่านแดนควรบรรจุไม้พะยูงไว้ในตู้คอนเทนเนอร์และซีลให้เรียบร้อย จึงมาขออนุญาตผ่านที่ด่านศุลกากร และพอไปถึงท่าเรือกรุงเทพฯหรือแหลมฉบังก็ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของตู้ว่ามีการเปิดระหว่างทางหรือไม่ แล้วจึงขนส่งลงเรือเดินทางไปประเทศจีน แต่เท่าที่เห็นกลับเป็นว่าได้นำสินค้ามาพักไว้ในประเทศไทยก่อนแล้วจึงเรียกรถตู้คอนเทนเนอร์มารับ ดังได้กล่าวไว้ในตอนต้นว่า นำไม้มาแล้วถ่ายไม้ลงลักษณะเช่นนี้ น่าจะเรียกว่า เป็นการถ่ายลำไม่น่าจะผิด การควบคุมไม้ในลักษณะนี้มีเพียงเจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายเดียวที่รับผิดชอบ หากมองในแง่ดี ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้ามองในแง่ลบ การมาถ่ายไม้ลงเพื่อไว้รอ สุ่มเสี่ยงต่อการสวมไม้หากเจ้าหน้าที่ไม่สุจริตพอ สรุปได้ว่าการกระทำในลักษณะนี้เป็นการนำเข้าไม้ ๒ กรณี คือ การนำเข้าและการนำผ่าน ซึ่งการนำผ่านนี้ ผู้นำผ่านไม่ต้องเสียภาษีอากรแต่อย่างใด และไม่ต้องประทับตรา ปมล.ที่ส้นไม้อีกด้วย จึงเห็นว่าการนำผ่านหากเจ้าหน้าที่ไม่เข้มงวดในการตรวจสอบ ควบคุมการนำไม้และไม้แปรรูปจากลาวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยผ่านด่านศุลกากรในจังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกับ สปป.ลาว ทั้งจำนวนและชนิดไม้ ซึ่งไม่ใช่สินค้าควบคุม เพราะไม่ต้องชำระภาษีและประทับตราประเทศผู้ส่งออก จึงเป็นช่องว่างหรือจุดอ่อนให้มีการนำไม้ในราชอาณาจักรไทยเข้าสวมปลอมปนเป็นไม้นำเข้า หรือเป็นสินค้าผ่านแดนได้ง่าย และเนื่องจากสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของประเทศลาว กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มิได้แตกต่างกัน ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ในประเทศลาวและไทย จึงมิแตกต่างกันทางด้านกายภาพ จึงทำให้ผู้ประกอบการอาจนำไม้ในไทยเข้าสู่ขบวนการได้ ทำให้รอดพ้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ได้โดยง่าย ที่ตั้งสมมุติฐานขึ้นมาเพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่าทำไมอำเภอที่ด่านพรมแดนตั้งอยู่ จึงมีโกดังเกิดขึ้นมากมาย และไม้พะยูงไม่ว่าจะเป็นไม้ที่ได้มาโดยชอบหรือผิดกฎหมาย จึงพากันมุ่งสู่อำเภอเหล่านี้
Last updated: 2014-02-09 07:44:53
|
@ พะยูงฤาจะสูญสิ้นแผ่นดินไทย (๒) |
|
|
|
|
|
|
|
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ พะยูงฤาจะสูญสิ้นแผ่นดินไทย (๒)
|