เพลานี้ ใกล้ที่ดวงสุริยาเริ่มคล้อย ลอยละล่องต่ำไปทางทิศตะวันตกองค์สุริยราชคงเหนื่อยล้าเต็มทนอยากพักเหมือนกับเราทุกคนแสงทองที่สอดส่องเริ่มอ่อนแรง ทำมุมจนลอดใต้หน้าด้านล่างของหน่วยหรือสำนักพัฒนาป่าไม้ของเรา ข้าพเจ้าซึ่งวันนี้ว่างนั่งครึ่งหลับครึ่งตื่นบนเก้าอี้ คู่ชีพซึ่งเอนได้ทำให้พักผ่อนบ้างในช่วงบ่ายที่หลังรับประทานอาหารเที่ยงแล้ว มักจะหนังท้องตึง แล้วหนังตาหย่อน ได้งีบไปประมาณ 20 นาที มันเพียงพอแล้วสำหรับตอนกลางวันถือเป็นการชาร์ทแบตเตอรี่เพิ่มก็แล้วกัน วันนี้ไม่ได้ออกป่าเพราะสายข่าวไม่ได้แจ้ง ปล่อยตัวออกไปหาข่าวตั้งแต่เมื่อวานป่านนี้เป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้อดห่วงลูกน้องตัวเองไม่ได้ ตามองไปที่นาฬิกาข้างฝามันแจ้งว่าบ่ายสามโมงครึ่งแล้ว มิน่าเล่าแสงอาทิตย์ถึงได้ลอดมากระทบโต๊ะเราได้ ไม่ทันที่สายตาของข้าพเจ้าจะลดลงจากนาฬิกาข้างผนัง พลันหูกลับได้ยินเสียงรถครางอยู่หน้าหน่วยไว้เท่าความคิดสายตาเริ่มมองลอดผ้าม่านออกไปยังข้างนอกหน่วย พลันเห็นรถปิกอัพ ยี้ห้อปานกลางวิ่งเข้ามาจอดตรงกลางหน่วย เบรกด้วยความแรงหาเกรงใจเจ้าของบ้านไม่แล้วชายร่างอ้วนใส่เสื้อปล่อยชาย สวมกางเกงยีนส์ ใส่รองเท้าแตะ เปิดประตูรถออกมารีบเดินจ้ำเข้ามาทางประตูหลังมายืนอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า.....เอาละซิจะมาไม้ไหนข้าพเจ้านั้นพร้อมตลอดเวลาแล้วสำหรับเหตุด่วนเหตุร้ายเพราะมาทำงานอย่างนี้ต้องตื่นตัวตลอดเวลา.........
มีอะไรหรือ จะให้ผมช่วยเหลืออะไร ข้าพเจ้ายิงคำถามทันที
ชายนิรนามผู้นั้นมิได้ตอบแต่ล้วงมือเขาไปในกระเป๋ากางเกง......เอาละซิจะมาอีท่าไหนข้าพเจ้าเตรียมพร้อมเต็มที่ถ้าไม่ได้ทีเห็นหยิบกระบองใต้โต๊ะซึ่งเตรียมไว้พร้อมแล้ว ได้แลกกันแน่ระหว่างลูกปืนกับไม้หน้าสาม ลองดูสักตั้งมาอยู่หน่วยไม่ถึงอาทิตย์โดนลองของก็ให้มันรู้ไป แต่มันกลับหาเป็นอย่างที่ข้าพเจ้าคิดไม่เพราะสิ่งที่ติดมือหมอนั้นมามันเป็นซองขาวซึ่งยับยู่ยี่พอสมควร หมอรีบยื่นให้ข้าพเจ้าทันที และเจ้าตัวก็เตรียมจะผละออกไปขึ้นรถ ข้าพเจ้าหลังจากหายตะลึงก็เปล่งเสียงออกไป.......
เดียวอย่างเพิ่งไป นั่งก่อนซิ
ชายนิรนามผู้นั้นค่อยๆหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ต่อหน้าข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารีบเปิดซองทันทีว่ามีใครส่งข่าวมาให้ทราบแต่มันหาเป็นอย่างที่คิดมันเป็นธนบัตรใบแดงเก่าๆ 3 ใบ ซึ่งยับตามซองที่
ห่อหุ่มมันมา หน้าของข้าพเจ้าที่ ที่ร้อนแล้วก็เย็นเมื่อสักครู่นี้มันร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีจึงรีบกระทู้
ถามโดยไม่รอช้า..........
นี่มันเงินอะไร ใครให้เอามาให้ผม
ชายผู้นั้นไม่ตอบ ข้าพเจ้าจึงเอาเงินใส่ซองแล้วคืนไปทันที
เอาของคุณไปไม่ใช่เงินผม รับไว้ไม่ได้ ชายผู้นั้นรีบคว้าซองเงินลุกออกจากที่นั่งวิ่งไปขึ้นรถแล้วซิ่งออกจากหน่วยไปด้วยอาการร้อนรน...ข้าพเจ้าออกมาเรียกหาอิทธิฤทธิ์ ให้มาพบที่ใต้หน่วย ณ จุดที่เกิดเหตุข้าพเจ้าไม่รอช้าความอยากรู้จึงได้สอบถามไปว่า.......
อิทธิฤทธิ์ ๆ รู้ไหมเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกับผม
ไม่ทราบครับผมมัวไปซื้อของที่สามแยกละลมอยู่พอดีกลับมาพี่ทศถามหา มีอะไรหรือพี่
ข้าพเจ้าพยายามเพ่งดูหน้าไอ้น้องไม่รู้เรื่องจริงจึงได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบไอ้หนุ่มครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งถึงมีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปากว่า........
ผมสงสัยว่าต้องเป็นพวกรถหางยาวแน่นอนพี่ ตามที่พี่ให้นโยบายไม่ให้พวกเรารับเงินรถไม้เรือนเก่าพวกเราไม่มีใครกล้ารับไอ้เจ้าของไม้มันเลยเอามาให้ด้วยตัวมันเอง ผมว่าไม่ผิดแน่
ไอ้หนุ่มยืนยันมันทำให้ข้าพเจ้าฟังแล้วน่าจะเป็นไปทำนองนั้นเสียดายไอ้เจ้าคนเอาเงินมาให้มันกลัวอะไรไม่รู้รีบหนีไปก่อนไม่อย่างนั้นคงได้รู้เรื่อง ละเอียดกว่านี้และรู้ตัวคนให้ด้วย......
เอาละผมพอเข้าใจแล้วไปขอบใจพวกเราทุกคนแทนผมด้วยนะที่ให้ความร่วมมือ
...................เย็นนี้เมื่อจัดการกับอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยก็รีบเข้านอน เนื่องจากไม่มีทีวีดูเพราะยังหาช่างมาตั้งเสารับไม่ได้ เมื่อกราบพระเรียบร้อยแล้วก็เอนตัวนอนแต่ใจมันหาหลับไม่มันคอยครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น มันเป็นปัญหาที่ต้องทำให้เราขบคิดว่าจะหาทางป้องกันอย่างไรเพราะเงินมันล่อใจเหลือเกินมนุษย์สร้างเงินขึ้นมาจริงแต่หาควบคุมได้ไม่ ไม่เหมือนสร้างรถยนต์ยังควบคุมไว้อยู่ แต่นี้สิ่งที่เราสร้างมันขึ้นมามันกลับหันหลังมาเล่นงานเราอย่างเจ็บแสบที่สุด โลกของเรายุ่งอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะมันทีเดียว เงินเท่านั้นที่ครองโลกจริงๆ ไม่มีใครปฏิเสธเงิน เอาละซิจิตเริ่มฟุ้งซ่านอีกแล้ว มองทะลุไปทางหน้าต่างคืนนี้เป็นคืนข้างขึ้น จันทราเจ้าแห่งรัตติกาลเริ่มทอแสงของมันบ้างแล้วหลังจากที่ได้พักมาพอสมควร ดวงดาวที่เคยพราวพร่างเต็มท้องฟ้าเริ่มหดหายไป เนื่องถูกบดบังแสงของดวงจันทรา เจ้าแห่งเวหาในยามค่ำคืน ข้าพเจ้าหลับตาสติปล่อยจิตให้ไปอยู่ลมหายใจเขาออกได้ประมาณ 4-5 นาที พอลืมตาขึ้นจิตเริ่มแจ่มใสใจเริ่มปรากฏเห็นแสงสว่างของปัญหาเห็นทีจะต้องใช้กลยุทธ์เดิมแล้วคือตั้งจุดตรวจจับกุมบ้างเพื่อให้พวกรถได้รู้ว่าหัวหน้าเอาจริงไอ้พวกที่แอบไปรับเงินเมื่อให้ความคุ้มครองเขาไม่ได้ต่อไปเขาก็หยุดให้เงินมันเอง ทันทีที่คิดได้ จิตสงบดิ่งเข้าสู่ภวังค์ทันที......
...............ตื่นเช้าขึ้นมาสดชื่นผิดปกติอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อาจจะเนื่องมาจากอากาศที่สดใส สะอาดปราศจากมลพิษอีกทั้งปัญหาก็ขบคิดได้เรียบร้อยแล้วในใจเริ่มวางแผนทันที แต่ยังไม่ได้ขยายให้ไอ้น้องอิทธิฤทธิ์ฟังเท่านั้น
..............สายแล้วจึงได้เดินดูรอบๆ หน่วยเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมดีที่หน่วยเราล้อมด้วยลวดหนามแสดงขอบเขตชัดเจนด้านหลังมีสวนยูคาลิปตัสซึ่งปลูกมาได้ 4-5 ปีแล้วกำลังสวยทีเดียวแม้จะดูแล้งซักหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่มีต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นไม้อะไรมีประโยชน์มากกว่าโทษ........เสร็จจากการเดินตรวจหน่วยเห็นว่าสายแล้วคาดว่าจะเป็นเวลาสี่โมงเช้าจึงเดินเข้าไปยังสำนักงานขยับเก้าอี้เตรียมนั่งก้นยังไม่แตะเก้าอี้ดีมีรถปิดอัพหลังคาติดไฟเบอร์ หนึ่งคันแล่นเข้ามาจอดบริเวณข้างหน่วยข้าพเจ้าจึงลุกขึ้นมองเห็นประตูด้านซ้ายเปิดออกก่อนแล้วเห็นชายผ้าเหลืองหย่อนตามลงมา ในขณะเดียวกันด้านขวาคนขับชายหนุ่มวัยกลางคนรีบเปิดประตูวิ่งอ้อมมาทางด้านซ้ายแล้วยืนคอยจนบุคคลในรถลงมาจัดสบงจีวรให้เรียบร้อยแล้วจึงนำเดินเข้ามายังสำนักงาน ข้าพเจ้าจึงเห็นเต็มตาว่าเป็นพระภิกษุ จึงได้เดินเข้าไปหาท่านประมาณอายุ 50 เศษ จึงจัดการหาเก้าอี้มาวางที่หน้าโต๊ะทำงานสองตัวนิมนต์ให้ท่านนั่งและเชิญมัคนายกให้นั่งคู่กับท่านแล้วเดินไปที่ตู้เย็นรินน้ำใส่แก้วมา 2 แก้ว ต้อนรับศิษย์ตถาคต ผู้เผยแพร่ศาสนาประจำชาติ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วข้าพเจ้าเข้าไปนั่งประจำที่เดิม พอท่านดื่มน้ำเสร็จ ข้าพเจ้ายิงคำถามทันทีเนื่องจากสงสัยว่าท่านมาทำไม........
หลวงพ่อครับมีอะไรจะให้กระผมรับใช้หรือครับ
หลวงพ่อในสายตาของข้าพเจ้าไม่พูดพล่ามทำเพลงท่านรีบล่วงไปที่ย่ามของท่านหยิบซองขึ้นมา 1 ซอง มันเป็นซองสีขาวส่งให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงยกมือไหว้หยิบมาพลิกดูไม่มีพิมพ์หน้าซองอะไร จึงสงสัยว่าคงไม่ใช่ซองกฐินแน่ คงจะเป็นซองผ้าป่า แม้โชคดีทีเดียวเช้าวันนี้ตื่นมาก็ได้ทำบุญเลย นับว่าเป็นนิมิตอันดี ข้าพเจ้ารีบลวงไปที่กระเป๋าเสือหยิบกระเป๋าเงินออกมา และหยิบธนบัตรใบ 500 บาท รีบเปิดซองเพื่อจะใส่มันลงไปท่านอุตสาห์มาพบด้วยตนเองต้องช่วยมากหน่อย แต่คุณพระช่วยทันทีที่ซองมันเปิดออกมา สายตาก็ประสบพบเห็นกระดาษสีม่วงมันปรากฏอยู่ในซอง มันเป็นธนบัตรสีม่วงมูลค่า 500 บาท เช่นเดียวกับข้าพเจ้ามันนอนสงบนิ่งอยู่ในซองแค่ผ่านสายตาก็รู้มันเป็นแบงก์ใหม่กว่าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้านั่งนิ่งอึดใจหนึ่งแล้วค่อยปิดซองส่งคืนกลับไปยังพระภิกษุรูปนั้นพร้อมกับคำถามที่มันเล็ดลอดออกมาอย่างแหบแห้ง..............
พระคุณเจ้าหมายความว่าอย่างไร
อาตมาอยากช่วยค่าใช้จ่ายโยม
ไม่มีอะไรลำบากที่จะต้องรบกวนท่านเลย ผมมีเงินเดือนแล้ว
ไม่มีอะไรหรอกโยมอาตมาขออนุญาตตัดไม้ประดู่ในป่าเพื่อไปทำประตูโบสถ์
ท่านได้แจ้งวัตถุประสงค์ จึงทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจทะลุปรุโปร่ง จึงได้ตอบปฏิเสธท่านไปอย่างนิ่มนวลว่า.....
ท่านครับผมไม่มีอำนาจที่จะอนุญาตตัดไม้แต่อย่างใดท่านต้องไปติดต่อที่อำเภอแล้วล่ะ
อาตมาไปแล้ว ทางอำเภอบอกว่ามีแต่โยมเท่านั้นที่อนุญาตได้ทุกคนเขาไม่ติดใจ
ข้าพเจ้าพยายามที่จะอธิบายทั้งข้อเท็จจริงและขอกฎหมายให้ท่านฟังเป็นเวลานาน ท่านจึงยอมกลับด้วยอารมณ์ไม่ดีนัก ซึ่งข้าพเจ้าเข้าใจดี พระในปัจจุบันนั้นแข่งขันกันสร้างวัตถุทั้งๆ ที่ภารกิจที่ตถาคตมอบให้คือการเผยแพร่ศาสนา เมื่อท่านกลับไปแล้วพอดีอิทธิฤทธิ์ ขับรถสวนเข้ามาพอดีจึงจอดรถคุยกับข้าพเจ้า........
เสือเหลืองมาขอไม้อีกแล้วหรือครับพี่ทศ
ไอ้น้องกล่าวว่าจาจ้วงจาบพระเช่นนั้นข้าพเจ้าต้องปรามไปบ้าง.....
ใช่ แต่อิทธิฤทธิ์ไม่น่าเรียกท่านอย่างนั้นเลย
ไอ้หนุ่มซึ่งคงเจอสภาพเช่นนี้มาเยอะอารมณ์เริ่มฉุนเฉียว.........
ประจำเลยพี่ พระไม่อยู่ตามพระ ไม่รู้จะสร้างอะไรนักหนาผมไม่นับถือหรอก
ข้าพเจ้าเข้าใจความคิดและอารมณ์ไอ้น้องดีจึงอภัยให้ จึงให้ข้อคิดไปว่า
ท่านเป็นพระเข้าไม่ถึงธรรมที่แท้จริงของตถาคตอภัยให้ท่านเถอะ ท่านเข้าใจว่าการก่อสร้างสิ่งใหญ่โตนั้น คือ บารมี โดยลืมคำสอนของพระพุทธโอวาทที่ว่า สุขอื่นใดจะเสมอความสงบไม่มีอีกแล้ว
เมื่อข้าพเจ้าเล่าทุกอย่างให้ไอ้น้องฟังจนจบ ได้ยินเสียงพึมพำว่าเจอจนได้สินบนเสือเหลือง.......!?
Last updated: 2014-02-01 09:59:50