หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.2 (ปราสาท) ได้ก่อสร้างเสร็จสมความมุ่งหมายของทางราชการ และข้าพเจ้าก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยตามความคาดหมาย มีอัตรากำลัง 2 นายรวมภารโรงเป็น 3 นาย หน่วยสังขะก็เช่นเดียวกัน มีมนตรี รุ่นน้องมาทำหน้าที่หลังจากข้าพเจ้าหนึ่งปี ในสมัยนั้นการบุกรุกทำลายป่าไม้รุนแรงมากไม่ว่าจะเป็นการแปรรูปขายหรือ บุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อเอาที่ทำกิน ทางป่าไม้เขตได้ตระหนักในข้อนี้จึงแต่งตั้งสายตรวจออกเป็น 2 สายเรียกในสมัยนั้นว่าสายอนุรักษ์ป้องกันทรัพยากรป่าไม้สายที่ 1 และ 2 สายที่ 1 ควบคุมดูแลจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกคนในป่าไม้เขตที่มีตำแหน่งเป็นนักวิชาการป่าไม้โท เป็นหัวหน้าสายลูกสาย ก็สนธิกำลังจากหน่วยป้องกันรักษาป่าจากทั้ง 2 จังหวัด โดยให้มาทำการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าโดยให้รถยนต์ปิคอัฟคันหนึ่งมาสนับสนุน สำหรับกำลังจากหน่วย สายศรีสะเกษ สุรินทร์ มีข้าพเจ้าเป็นผู้ช่วยและมีน้อง ๆ อีก 2 คนร่วมงานด้วย จะผลัดเปลี่ยนหัวหน้าทุก ๆ 15 วัน แต่ตัวข้าพเจ้ายืนพื้นเป็นผู้ช่วยเพราะในสมัยนั้นอาวุโสพอสมควร ออกสายด้วยทำหน้าที่หัวหน้าหน่วยฯด้วยไปพร้อมกัน ได้ผลัดเปลี่ยนเวียนกันออกมากันหลายหัวหน้าแล้วยังไม่เคยเกิดเรื่องอะไร มาเจอเอาตอนที่พี่ชัยพรย้ายมาจากป่าสาธิต อำเภองาว จังหวัดลำปาง พี่แกอยู่งานวิจัยมาตลอดโดยย้ายมารับตำแหน่งที่ป่าไม้เขตอุบลฯ พูดไปเสมือนดูหมิ่นพี่แก เพราะพี่ท่านไม่มีประสบการณ์ในการจับกุมดำเนินคดีป่าไม้เลย แต่ต้องมาเป็นหัวหน้าสายทำเอาข้าพเจ้าอดหนาว ๆ ร้อน ๆ ไม่ได้ เพราะสายวิชาการจะไม่เคยดำเนินคดีป่าไม้มาก่อนไม่ใช่ข้าพเจ้าจะดูหมิ่นฝีไม้ลายมือหัวหน้าก็หาไม่...................
เช้าวันนี้ก็เหมือนกับวันอื่นอากาศในตอนเช้าออกจะหนาวสักนิด เพราะเป็นปลายฝนต้นหนาวแล้ว ข้าพเจ้านัดหมายพี่ชัยพร ศัตรูพ่าย หัวหน้าสายรายปักษ์คนใหม่ที่หน่วย เพราะพี่แกจะต้องนำเจ้าหน้าที่และรถตรวจปราบปรามพร้อมคนขับรวมเบ็ดเสร็จ 4 คน รถที่ใช้เป็นปิคอัฟยี่ห้อดังขนาด 1 ตัน มีหลังคาทำด้วยอาลูมิเนียมมีผ้าใบกันฝนรอบคันเป็นสีแดง มันจึงได้ฉายาว่า เจ้าปีศาจแดง หมอเป็นรถที่สมบุกสมบันมากเพราะบางครั้งถึงเวลาพักหมอไม่เคยได้พักกินข้าวกินน้ำหรือถ่ายอุจจาระเหมือนคนอื่นเขา สักครู่ยังไม่ทันที่ข้าพเจ้าคิดคำนึงถึงอยู่มันก็แล่นเข้ามาในหน่วยเล่นเอาฝุ่นคลุ้งไปหมดตอนนั้นทางเข้าหน่วยยังไม่ได้ลงลูกรังเพราะสร้างเสร็จใหม่ ๆ...........
เฮ ! ทศ พร้อมไหม.? วันนี้ หรือเอายังไงเจ้าของพื้นที่
พอมาถึงไม่รอช้าพี่ชัยพรฯ รีบสอบถามความพร้อมแสดงว่าพี่แกฟิตน่าดูทีเดียว แต่จากที่ข้าพเจ้า ดูรูปร่างพี่แกแล้วน่าจะเป็นเสี่ยมากกว่าป่าไม้ บอกใครไม่มีเชื่อเด็ดขาด เพราะรูปร่างขาวออกไปทางอ้วน หน้ายิ้มร่า อารมณ์ดีตลอดเวลา และเป็นคนช่างพูดอีกด้วย ถ้าพูดไม่เก่งอย่าไปประลองคารมเด็ดขาดไม่ทันแกแน่นอน ได้นายอารมณ์เย็นก็ดีไปอย่าง ว่าแล้วพี่แกเดินอาด ๆ ส่ายพุง เดินขึ้นไปบนหน่วยตรวจตราตามความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ข้าพเจ้ารอให้ลงมาเรียบร้อยแล้วจึงได้ตอบคำถามไปบ้าง..........
ผมว่าพี่พักที่นี่สักคืนก่อนเป็นยังไงพรุ่งนี้เราค่อยว่ากันจะไปที่ไหน เอาเป็นว่าวางแผนกันคืนนี้ก็แล้วกันพี่เพิ่งมาเหนื่อย ๆ ไอ้ผมนะไม่เท่าไหร่หรอกไปเดี๋ยวนี้ก็ได้ พร้อมทุกลมหายใจ
ได้ทีข้าพเจ้าเกทับ เย้าพี่แก่เล่นสนุก ๆ ไปไม่ได้ปรามาสท่านแต่อย่างไร เพราะเราป่าไม้ถูกฝึกมาให้ต่อสู้กับความยากลำบากมาโดยตลอดแล้ว จะยอมให้ก็แต่ทหารเท่านั้นที่เราอาจฝึกไม่เท่าเทียมได้............
ผมว่าก็ดีเหมือนกันจะได้คุยกับนายบ้าง เห็นว่าจับไม้หนักช่วงนี้
ครับพี่คดีมันเยอะจริง ไม่รู้มันขโมยไม้กันชุกอะไรอย่างนี้ ยิ่งมีสัมปทานยิ่งขโมยมากขึ้น ชาวบ้านคงนึกว่าให้สัมปทานกับนายทุนมั่งพี่
นั้นซิผมนั่งรถเข้ามาในหน่วยเห็นไม้ของกลางมากเป็นพิเศษ
พี่ชัยพรฯ ช่างเป็นคนที่ละเอียดอ่อนพอสมควร จึงสามารถวิเคราะห์ได้ใกล้เคียงความจริง
นี่เป็นเพียงไม้แปรรูปและไม้ท่อนขนาดเล็กนะพี่ ไม้ใหญ่ยังขนออกมาไม่หมด เพราะกำลังติดต่อองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้นครราชสีมาให้ส่งรถจอหนังมาประจำสักหนึ่งคัน ได้รับตอบตกลงแล้ว เพราะ ออป. โคราชเห็นจับมากคุ้มที่จะส่งรถมาประจำ ผมเลยดีใจว่าต่อไปนี้คงจะสบายขึ้น
ข้าพเจ้าเล่าความเป็นไปในการดำเนินงานย่อ ๆ ให้พี่ฟังเพราะหน่วยเราเพิ่มสร้างเสร็จใหม่น้ำยังต้องขุดบ่อเอาน้ำใต้ดินมาใช้ อะไรก็ยังไม่พร้อมพอถึงตอนเย็นจึงได้พาพี่และน้อง ๆ ไปหาอาหารที่ในตลาดอำเภอปราสาทกินกันไปก่อนเพราะหน่วยยังไม่มีครัว เสร็จสับภาระกิจเรื่องท้องแล้วก็มาเรื่องงานพอถึงหน่วยข้าพเจ้าขอเชิญทุกท่านประชุมที่ห้องโถงบนสำนักงานมันเงียบและปลอดคนดี แจ้งให้พวกเราทราบว่าได้วางแผนที่จะพาพวกเราไปจับไม้ในท้องที่อำเภอสังขะ เพราะไม่ได้ไปหลายวันแล้วมัวแต่อาละวาดในท้องที่อำเภอปราสาทของตัวเอง ในสมัยนั้นสองฝากถนนโชคชัยเดชอุดมตั้งแต่อำเภอปราสาทตลอดจนอำเภอเดชอุดมทั้งสองฝากถนนยังเต็มไปด้วยป่าอันอุดมสมบูรณ์มาก ไม้มีค่าพวก ประดู่ พยุง แดง ตะเคียนทองยังหลงเหลืออยู่มากจริง ๆ ตามที่โบราณเขาว่า คืบก็ป่าศอกก็ป่า ยังไงเป็นเช่นนั้นจริง ๆ แต่สำหรับริมถนนแล้วไม้ที่ขึ้นอยู่จะเป็นไม้ เหียง พลวง แต่สมัยนี้ก็นับว่าเป็นไม้ที่เนื้อแข็งหายากเต็มทนแล้ว ต้นยางแต่ละต้น 3 4 คนโอบทั้งนั้น ว่าไปแล้วน่าเศร้าใจที่เราไม่สามารถคงสภาพป่าเช่นที่ว่านี้ไว้ได้ มันเป็นสัจจะธรรมที่ไม่ต้องทำการวิจัยเลยว่าถนนไปถึงไหนป่าพังที่นั่น ถนนมันเป็นตัวเร่งอย่างดีสำหรับการทำลายป่า................!?
................รุ่งเช้าวันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษเพราะเมื่อคืนไม่ได้แตะต้องน้ำเมาเลย เพราะว่ามันเป็นหน้าที่หรือภาระอันใหญ่หลวงที่จะต้องวางแผนและหาทีมงานล่าสังหารเฉพาะกิจหน่วยนี้ไปออกตรวจปราบปรามการลักลอบตัดไม้อันเป็นหน้าที่หลัก แม้จะจับไม่ได้แต่ถ้าได้ออกตรวจปราบปรามอย่างสม่ำเสมอผู้ร้ายก็เกรงกลัวเป็นการปรามทางอ้อม ไม่ใช่รอให้เขาตัดแล้วไปจับมันไม่ได้ผลอะไรเพราะป่าพังไปแล้ว.......รวบรวมเครื่องไม้เครื่องมือหากินอันมีที่รองเขียน กระดาษบันทึก กระดาษก็อปปี้ และสเตปเปิล และที่ลืมไม่ได้ก็เทปวัดไม้ ม้วนยี่สิบเมตร สิ่งที่สำคัญอันดับสุดท้ายย่ามด้ายดิบผ้าหนามากบรรจุไว้ด้วยวัตถุอันหนักพอสมควรได้แก่ ดวงตรา ต และตรา ย ตรา ต เป็นตราประจำตัวทุกคนจะมีประจำตัวมีตัวเลขเป็นรหัสตำหนิรูปพรรณ สำหรับ ย เป็นตราที่ตีตอกประทับไม้แสดงว่าไม้ได้ถูกยึดจากเจ้าหน้าที่พนักงานป่าไม้แล้ว สำหรับใครเป็นคนยึดก็จะดูได้ที่ตรา ต ว่าเป็นของใคร พอเสร็จสับกับเครื่องมือหากินแล้วก็พากันโดยสารเจ้า ปีศาจแดง ซึ่งรออยู่พร้อมเต็มที่ที่จะทำหน้าที่ของมัน แต่ก่อนจะออกรถข้าพเจ้า อดห่วงไม่ได้ รีบไปเปิดฝากระโปรงรถตรวจดูน้ำในหม้อน้ำเห็นว่าไม่พร่องก็ดึงเหล็กวัดน้ำมันเครื่อง ปรากฏว่าอยู่ในขีดระหว่างฟูล(full)กับขีดต่ำสุด แสดงว่าใช้ได้ในระดับหนึ่งแต่สีของมันออกจะดำมากไปหน่อย ข้าพเจ้าเลยใช้มือไปบี้ดูความหนืดปรากฏว่าความหนืดน้อยลงคิดว่าเสร็จงานนี้จะได้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเสียทีเพราะพวกเราใช้ รถหลวงไม่ใคร่เอาใจใส่เท่าที่ควรมักจะเติมไม่ค่อยถ่ายทิ้งกันมันทำให้รถเสื่อมสภาพเร็ว เพราะทุกคนคิดว่าธุระไม่ใช่ หน้าที่ใช้อย่างเดียวจะไปพึ่งพนักงานขับรถยิ่งไม่ได้เรื่องใหญ่ไม่รู้สอบเข้ามาได้อย่างไรพูดไปเหมือนตำหนิพวกเดียวกัน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วข้าพเจ้ากับพี่ชัยพรนั่งด้านหน้าสองคนน้อง ๆ พากันนั่งด้านหลัง รถเคลื่อนตัวออกเดินทางไปยังอำเภอสังขะที่หมาย เพราะมีสายข่าวว่ามีการ ทำไม้พยูงหลังที่ว่าการอำเภอเป็นจำนวนมาก ป่าหลังอำเภอในสมัยนั้นถูกจัดเป็นที่ดินจัดสรรบ้านชบ บ้านเขวา แต่ยังไม่ได้จัดสรรยังมีไม้มีค่าขึ้นอยู่มากมาย รถปีศาจแดงของเราแล่นมาถึงหลังอำเภอด้านทิศใต้มันมีทางเกวียนเก่าทอดยาวขนานไปกับถนนลาดยางสายยุทธศาสตร์ สายสืบของเราบอกว่ามีไม้เถื่อนแปรรูปจำนวนมาก ข้าพเจ้าให้รถจอดอยู่ปากทางเข้าแล้วแจ้งให้ พี่ชัยพรทราบว่าเราต้องลงเดินเข้าไปดูโดยทางเท้าก่อนเพราะทางรถอาจเข้าไม่ถึง พี่ชัยพรเห็นดีด้วยกับข้าพเจ้า เราจึงนัดแนะกันให้คนขับรถอยู่เฝ้า ถ้ามีอะไรเมื่อเรากู่เรียกให้นำรถเข้าไปได้ เมื่อพวกเราลงจากรถหมดแล้วทั้ง 4 ชีวิตต่างมัดเชือกรองเท้าผ้าใบกันเตรียมความพร้อมตรวจตราเครื่องไม้เครื่องมือหมดแล้วข้าพเจ้าให้สัญญาณเดินได้โดยที่ข้าพเจ้าเป็นคนนำทางตามด้วยพี่ชัยพรฯ ทางเกวียนที่เราเดินมันเก่ามากแทบจะไม่มีเกวียนเดินผ่านในระยะเวลา 1-2 เดือนนี้หญ้าเจ้าชู้ขึ้นระหว่างกลางทางสูงรบกวนกางเกงขายาวของเราพอสมควร เดินมาได้ประมาณ 200 เมตร พบไม้ยางต้นใหญ่มากหนึ่งต้นแผ่กิ่งก้านสาขาสยายความร่มรื่นให้กับสัตว์บนดิน และเป็นที่อยู่อาศัยของนกกา ต้นยางนั้นได้ชื่อว่าเป็นพญาไม้ต้นหนึ่ง เพราะคุณสมบัติที่มีค่าแก่การสงวนคือเป็นไม้ใหญ่ที่ต้นเปลาตรงให้เนื้อไม้มาก และเนื้อไม้ก็มีคุณสมบัติในการก่อสร้างที่ดีเยี่ยม ทีมงานของเราเดินไม่ได้รีบร้อนมากนักสายตาก็สอดส่ายกวาดดูไปรอบด้านเผื่อว่าจะเจอจุดที่มีการแปรรูปไม้ตามที่สายข่าวแจ้ง พอเดินต่อมาได้อีกประมาณ 1 กิโลเมตรโดยประมาณสายตามองไปเห็นมีแสงสะท้อนออกมาจากพุ่มไม้ข้างหน้าห่างประมาณ 100 เมตร เพราะป่าที่เราเดินข้างทางทั้งสองด้านเป็นป่าละเมาะเสียส่วนใหญ่ พอเราเดินไปถึงจุดจึงได้เห็นบ้านหลังหนึ่งปลูกอยู่ในป่าข้างทางแสงสะท้อนที่เราเห็นเป็นแสงของสังกะสีที่ยังใหม่อยู่ เป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงขนาด 9 คูณ 9 เมตร เห็นจะได้ ชั้นบนถูกตีฝาด้วยไม้ที่ถูกแปรรูปด้วยแรงคน ลักษณะไม่ใช้ไม้ฝา จะเป็นไม้พื้นเสียมากกว่าเพราะมีขนาด 1 นิ้วคูณ 6 นิ้ว ตีตอกตะปูดอกเดียวปิดรอบทั้งหลังเป็นไม้หลายชนิดคละกัน มีตั้งแต่ไม้ยาง ไม้เหียง ไม้ประดู่ ส่วนพื้นปูไม้พื้นไว้เฉย ๆ โดยไม้ได้ตีตะปูไว้แต่อย่างใด แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าที่ตรงใต้ถุนเต็มไปด้วยไม้แปรรูปขนาดต่างมีตั้งแต่ไม้เสาหน้าหกนิ้วหน้าแปดนิ้ว ไม้คาน ไม้ตงวางซ้อนกันเต็มไปหมด มีแต่ไม้มีค่าหายากทั้งนั้นเช่นไม้ประดู่ ไม้พยุง ไม้ตะเคียนทอง สำหรับตัวบ้านนั้นสรุปได้เลยว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพรางว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างเพื่อให้พ้นข้อกฎหมาย แต่ไม้ใต้ถุนบ้านเป็นไม้เถื่อนจริง โอ ? พระแม่เจ้ามันช่างมากมายและกล้าหาญชาญชัยอะไรเช่นนี้ บริเวณหน้าบ้านทำรั้วลวก ๆ ไว้ล้อมรอบแสดงอาณาเขตไว้ประมาณ 50 ตารางวา พี่ชัยพรฯเห็นแล้วตกใจ
!?
เฮ ! ทศ ! ทำไม่มันมากอย่างนี้ จากนี้ไปอำเภอมันห่างผมว่าไม่เกินสองกิโลเมตร ไม่มีใครรู้เลยหรืออย่างไร ?
พี่ครับผมว่ามันต้องมีอะไรซ่อนเงื่อนไว้เป็นแน่ เอาอย่างนี้ ผมจะให้พวกเราไปตาม ป่าไม้อำเภอมาร่วมด้วย
ดวงแสง คุณไปตามคุณจำลอง ป่าไม้อำเภอมาที่นี้แจ้งว่าผมเชิญมาก็แล้วกัน
ผมสั่งดวงแสงเด็กเพิ่งจบจากโรงเรียนป่าไม้แพร่มาใหม่พอ ๆ กับข้าพเจ้า ดวงแสงเมื่อได้รับคำสั่งรีบจูงมือเพื่อนอีกคนไปด้วยกัน พอพ้นสายตาข้าพเจ้าไปแล้วจึงได้ชวนพี่ชัยพรตรวจดูที่เกิดเหตุ โดยเดินดูรอบ ๆ ไม่กล้าเข้าไปในบ้านเพราะเราไม่ได้ขอหมายค้นมา ดูคร่าว ๆ ไปก่อนฆ่าเวลา
ไม้ดี ๆ ทั้งนั้นเลยพี่ ผมกะว่าไม่น้อยกว่า 3 คิวแน่เลย
ผมเดินดูโดยรอบแล้วกะประมาณเปรย ๆ ให้พี่แกฟัง เพราะเริ่มมีประสบการณ์ทางด้านนี้บ้างแล้ว
รอไม่ถึงชั่วโมงป่าไม้อำเภอก็มาถึง เป็นหนุ่มวัยเดียวกับข้าพเจ้า ได้ความว่าอดีตเป็นนักมวยเก่า เราจึงถามว่าบ้านหลังนี้พอจะรู้หรือไม่ว่าเป็นบ้านใคร ตอนแรกทำท่าจะปฏิเสธ ข้าพเจ้าเลยแจ้งให้ทราบว่ามีคนแจ้งเราจึงจำเป็นต้องมาดูท่าทีป่าไม้อำเภอจะอึดอัดใจพอได้คุยกับข้าพเจ้าถึงข้อเสียจึงยอมปริปากบอกว่าเป็นบ้านของนายตำรวจยศ ร้อยตำรวจเอกใหญ่โตพอดูในสมัยนั้น ขณะที่เรากำลังคุยกันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ ฟังจากเสียงแล้วรู้ได้ทันทีว่ามุ่งมาทางเรา สักครู่ปรากฎชายหนุ่มอยู่ในยูนิฟอร์มของเจ้าพนักงานผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ลงจากรถจักรยานยนต์เดินตรงมายังป่าไม้อำเภอ และในจังหวะเดียวกันป่าไม้อำเภอเหมือนจะรู้กัน ได้เดินไปหาพูดคุยกันระยะทางจับใจความไม่ได้ สักครู่เดียวที่คนทั้งสองสนทนากัน ป่าไม้อำเภอ ก็ผละจากตำรวจน้อยมาหาพี่ชัยพรแจ้งให้ทราบว่าบ้านนี้เป็นบ้านของรองสารวัตรฝ่ายปราบปราม ทางนายของตัวทราบแล้วว่ามีป่าไม้มาพบไม้แล้วให้มาขออย่าให้มีการจับกุมเลยเพราะตัวเองเก็บไม้ไว้เพื่อสร้างบ้านอยู่ไม่ได้ทำไม้ขายแต่อย่างใด ป่าไม้อำเภอไม่กล้าตัดสินใจ
นายทศ คุณว่ายังไง สารวัตรเขาขอ เราเป็นข้าราชการด้วยกัน
พี่ชัยพรฯ ซึ่งเป็นคนใจอ่อนและขาดประสบการณ์ในด้านนี้ได้แจ้งให้ข้าพเจ้าทราบ
ไม่ได้หรอกพี่มันผิดทั้งกฎหมาย เราพบการกระทำผิดแล้วไม่จับมันจะผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 เจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และอีกอย่างก็ผิดในทางคุณธรรมอีก ทีราษฎรเรายังจับพอตำรวจพวกเดียวกันเรากลับละเว้น
ข้าพเจ้ารีบขัดแย้งทันทีเพราะมันไม่ยุติธรรมเลย อ้างอย่างไรมันก็ฟังไม่ขึ้น ขณะที่เรากำลังถกเถียงว่าจะเอาอย่างไรดี ไอ้เจ้าหนุ่มน้อย พอเดินเข้ามาใกล้ ๆ จึงได้รู้ว่าเป็นพลตำรวจได้เข้ามายกมือไหว้พวกเราทุกคนแล้วขอร้อง
พี่ครับ ไม่เห็นแก่สารวัตร ก็เห็นแก่ผมเถอะ เพราะสารวัตรให้ผมมาเจรจาถ้าไม่ตกลงให้ผมรับว่าเป็นบ้านผม ถ้าพี่จับผมต้องออกจากราชการเป็นแน่
นั้น ซิทศ เจ้าหนุ่มนี้ต้องตกเป็นผู้ต้องหาแน่นอนถ้าเราจับ ผมว่าเรามีทางไหนที่จะบรรเทาได้ไหม
ว่าแล้วพี่ชัยพรก็หันหน้าไปหาป่าไม้อำเภอขอความเห็น
.?
คุณจำลองว่าอย่างไรคุณเป็นเจ้าของท้องที่?
ผมไม่มีความเห็นแล้วแต่พวกคุณ เอาไหนเอาด้วย
ป่าไม้อำเภอไม่กล้าแสดงความคิดเห็น รีบบอกปัดทันที ไอ้หนุ่มพลตำรวจพอจะรู้ว่าใครเป็นหัวหน้าแล้วเดินไปยังพี่ชัยพร แล้วออดอ้อน ขอร้องอย่าให้มีการจับกุมกันเลย......พี่ชัยพรชักใจอ่อน หันมาทางข้าพเจ้าอีก
ว่าอย่างไรทศ น่าเห็นใจเขานะ ถ้าจับเขาต้องออกจากราชการแน่นอน
ข้าพเจ้าพอจะเดาได้ว่าพี่แกใจอ่อนเต็มทนแล้ว อยากช่วยเขาเต็มแก่ เมื่อทบทวนดูแล้วว่าคดีไม้เป็นคดีไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ ลองเสนอทางออกดูพบกันครึ่งทาง คิดได้ดังนั้นแล้วจึงแจ้งวิธีการให้พี่ชัยพรและ ไอ้หนุ่มฟัง.......!!
เอาเป็นว่าเราต้องจับแน่นอนเพราะขณะนี้เขาคงจะรู้กันทั้งอำเภอแล้ว แต่ผมขอแนะว่าเราจับแบบไม่มีตัวเอาแต่ไม้ไป ก็พอ
พี่ชัยพรเริ่มกังขาแล้วว่าจับยังไงไม่เอาตัวผู้ต้องหาไป ผมเลยขยายให้ฟังว่า..........
เป็นว่าเราบันทึกการจับกุมว่าเจอไม้กองอยู่ในพุ่มไม้ห่างจากบ้านสัก 15 เมตร ก็แล้วกันเป็นไม้ที่อยู่นอกรั้วบ้าน ว่าอย่างไรหนุ่มพี่ว่าเราพบกันครึ่งทางพี่ขอไม้แล้วข่าวก็จะออกมาว่าเราจับไม้แล้ว ไอ้เจ้าหนุ่มน้อยไม่ตอบรับแต่บอกว่า ผมจะไปเรียนสารวัตรตามที่พี่ว่าผมคิดว่าสารวัตรไม่น่าจะขัดข้อง ว่าแล้วเจ้าหนุ่มก็ยกมือไหว้ลากลับไปแจ้งเจ้านายของตัวให้ทราบ.........
.............เมื่อพ้นเสียงมอเตอร์ไซด์ไปสักพักพวกเราต่างมอบหมายหน้าที่กันทำงานพวกบันทึกก็ทำหน้าที่พวกวัดไม้ก็ทำบัญชีไม้การทำงานของเราเป็นการทำอยู่ในป่าปราศจากการรู้เห็นของผู้ใด เมื่อเราบันทึกเรียบร้อยแล้วคิดว่าให้พวกเราคนใดคนหนึ่งไปแจ้งความร้องทุกข์แล้วถึงจะได้ขนไม้ขึ้นรถไปเก็บ.........
ดวงแสงทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะเอาบันทึกไปลงประจำวันก่อนแล้วรีบมาช่วยกันลากไม้ออกจากใต้ถุน สำหรับไม้ที่ตีอำพรางเราคงไม่เอาหรอกเพราะต้องขออำนาจศาลรื้อยุ่งยาก แค่ไม้ใต้ถุนก็มากพออยู่แล้วเราจับเพื่อเป็นการปฏิบัติการทางจิตวิทยาด้วยจะได้เกรงกลัวกันบ้าง
ดวงแสงหายไปร่วมชั่วโมงเศษกลับมา พร้อมกับจดเลขที่ประจำวันไว้บนหัวกระดาษของสำเนาบันทึกการจับกุมที่เราทำขึ้นสามฉบับ แล้วก็มาช่วยพวกเราชักลากไม้ออกจาใต้ถุนบ้านมากองไว้นอกบ้าน.......ขณะที่เรากำลังขนไม้กันอยู่นั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่เกิดเหตุคนนี้กลับไม่ใช่ไอ้หนุ่มคนเดิม มียศสูงกว่าเป็นถึงจ่าสิบตำรวจอายุกลางคนท่าทางจะเขี้ยวพอดู พอมาถึงไม่พูดพล่ามทำเพลงเดินเข้าไปถ่ายรูปที่พวกเรากำลังชักลากไม้จากใต้ถุนบ้านเก็บหลักฐานทุกอย่างที่มันบ่งบอกว่าเป็นไม้ใต้ถุนบ้าน ในชั้นแรกข้าพเจ้าไม่ได้เอะใจเพราะตำรวจมีหน้าที่ต้องมาตรวจที่เกิดเหตุอยู่แล้ว แต่มาสังหรณ์ใจอยู่ว่าทำไมถึงต้องมาถ่ายรูป ทุกท่าทางของการขนไม้ซึ่งมันผิดสังเกต แต่พี่ชัยพรฯไม่ได้ตระหนักในข้อนี้ และไม่แสดงอาการใด ข้าพเจ้าจึงเฉยอยู่ คิดว่าเขาคงเอาไปประกอบรูปคดีเป็นแน่ แต่ก็อีกนั้นแหละเราทำที่เกิดเหตุอยู่นอกบ้านแล้วทำไมมาถ่ายรูป ใต้ถุนบ้าน เอาละซิปัญหาเริ่มมีให้ขบคิดอีกแล้ว.....?.....พี่จ่าแกถ่ายรูปเสร็จไม่พูดไม่จารีบขับเจ้า ยานยนต์คู่ชีพกลับสถานีพวกเราก็เร่งรีบขนไม้ไปเก็บไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 (สังขะ) อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่หน่วยแจ้งให้ทราบว่าพนักงานสอบสวนขอเชิญพี่ชัยพรฯไปพบขณะนั้นเป็นเวลาประมาณบ่าย 2 โมงเย็นแล้ว ข้าพเจ้าจึงบอกกับพี่ว่าพวกเราขอไปด้วยทุกคนจึงขึ้นรถไปที่ สภ.อ.สังขะไปจอดรถข้างที่ทำการพี่ชัยพรรีบเดินขึ้นไปพบพนักงานสอบสวน รู้สึกว่าจะขลุกอยู่กับพนักงานสอบสวนนานพอสมควร จึงเห็นเดินออกมาด้วยสีหน้าเครียดมาพบกับข้าพเจ้าแล้วเล่ารายละเอียดให้ฟัง.................??
Last updated: 2013-11-23 11:22:13