กาลครั้งหนึ่ง
เมื่อ(ไม่)นานมานี้
ยิ่งเมื่อได้สัมผัสความรักความอบอุ่นจากกลุ่มบุคคลที่เรียกตนเองว่า รุ่นพี่ ที่ได้พยายามให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนแก่เขาในเรื่องต่างๆ ในวันแรกของการเปิดเรียนแล้ว ความรู้สึกเหงา ว้าเหว่จากการต้องเปลี่ยนเข้าสู่สังคมใหม่ของเขาได้จางหาย
กาลครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ มีนักเรียนชายนายหนึ่งเพิ่งจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมาจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตตัวเมือง ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เขาเข้าสอบแข่งขันเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนกับนักเรียนมัธยมปลายทั่วๆ ไป แต่จะโชคดี หรือโชคร้ายไม่มีใครทราบได้ เขาสอบได้ที่คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหากถามถึงความรู้สึกของเขาในตอนที่รับทราบผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในใจส่วนลึกนั้นย่อมเต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจและภาคภูมิใจในตนเอง เขาได้ตั้งปณิธานไว้อย่างสูงส่งว่าจะพยายามตั้งใจเรียนให้สำเร็จการศึกษาโดยเร็ว มันมิใช่เพียงเพื่อตัวเขาเองหรือครอบครัวเท่านั้น แต่มันยังเป็นเสมือนใบเบิกทางในการสร้างอนาคตของเขาและครอบครัวของเขาในกาลข้างหน้า
ณ วันแรกที่ย่างกรายเข้ามาถึงคณะวนศาสตร์ กลิ่นอายของวิทยาการต่างๆ ได้เพิ่มความเชื่อมั่นในตนเองของเขาว่า หากสำเร็จการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ เขาย่อมไม่น้อยหน้าผู้ใด เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ยิ่งเมื่อได้สัมผัสความรักความอบอุ่นจากกลุ่มบุคคลที่เรียกตนเองว่า รุ่นพี่ ที่ได้พยายามให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนแก่เขาในเรื่องต่างๆ ในวันแรกของการเปิดเรียนแล้ว ความรู้สึกเหงา ว้าเหว่จากการต้องเปลี่ยนเข้าสู่สังคมใหม่ของเขาได้จางหายไปอย่างรวดเร็ว จิตใจอันบริสุทธิ์ของเขาได้วาดหวังความสุข สนุกสนานไว้อย่างเต็มเปี่ยม จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่บรรดา รุ่นพี่ บอกเขาว่าจะมีการประชุมเพื่อร้องเพลงเชียร์ ยิ่งทำให้เขามีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับคณะวนศาสตร์และผู้คนรอบข้างมากยิ่งขึ้น เขาตั้งตานับวันรอคอยให้ วันนั้น มาถึงเร็วๆ เพื่อจะได้ร้องเพลงเชียร์และแสดงออกถึงความเป็นพรรคพวกเดียวกัน เป็นหนึ่งใน วนกร รุ่นใดรุ่นหนึ่ง
จนกระทั่ง วันนั้น มาถึง ความสงสัยได้เกิดขึ้นกับเขาในหลายๆ เรื่อง ทุกๆ เรื่องล้วนถูกตั้งคำถามว่า ทำไม? ไม่ว่าจะเป็น ทำไมรุ่นพี่จึงชอบตะโกนเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย? ทำไมรุ่นพี่จึงออกคำสั่งประหลาดที่เขาไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน? ทำไมรุ่นพี่จึงสั่งลงโทษอย่างไร้เหตุผลเหลือเกิน? และยังมีอีกหลากหลายคำถามอันเกิดมาจากพฤติกรรมรุ่นพี่ที่เกิดขึ้นใน วันนั้น เขาถูกปลูกฝังให้คิดคำนึงถึงคำสั้นๆ ว่า SOTUS ซึ่งเป็นคำที่ย่อมาจาก Spirit-Order-Tradition-Unity-Seniority เขาพยายามอดทน อดกลั้น เพื่อให้ได้ชื่อว่าได้ผ่าน การรับน้องวนศาสตร์ โดยปลอบใจตนเองตลอดเวลาว่าฝันร้ายจะผ่านพ้นไปในเวลาอันสั้น และรวดเร็ว และตั้งใจไว้ว่า สักวันหนึ่งเมื่อเขาได้ขยับขึ้นมาเป็น รุ่นพี่ กับเขาบ้าง เขาจะเก็บเอาความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเขาในวันนี้มาเปลี่ยนแปลงรูปแบบและพฤติกรรมให้ดีขึ้นกว่านี้ จะไม่บีบคั้นอย่างรุนแรงจนทำให้ รุ่นน้อง บางคนต้องสูญเสียความรู้สึกดีๆ และส่งผลเสียหายถึงการเรียนในชั้นปี 1 อย่างแน่นอน
และแล้ว วันที่เขารอคอยก็มาถึง วันนั้นเขาได้ผ่านพ้นทุกขั้นตอนในกระบวนการรับน้อง ไม่ว่าการวิ่งทดสอบ ไม่ว่าการวิ่งประเพณี หรือแม้แต่การเต้นอินเดียน และเขาได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกหนึ่งของวนศาสตร์อย่างภาคภูมิใจ นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา ชีวิตที่วาดหวังไว้ในตอนแรกได้หวนกลับมาหาเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาใช้ชีวิตอย่างผู้ใหญ่มากขึ้น อิสระในการเรียนมีสูงมากกว่าการเรียนในชั้นมัธยมที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงวันที่เขาต้องเข้าสอบในรายวิชาที่ได้ลงทะเบียนไว้ เขากลับตัวเกือบไม่ทัน บางวิชาได้ดูหนังสือเพียงชั่วข้ามคืนก่อนเข้าสอบ บางวิชาไปนั่งอ่านเอาตอนเช้ามืดของวันสอบ การต่างๆ ได้ดำเนินมาจวบจนกระทั่งเขาสอบวิชาสุดท้าย และกลับบ้านเพื่อลุ้นผลการสอบด้วยใจระทึก ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานนัก ผลการเรียนของเขาได้ทยอยประกาศอย่างเป็นทางการ และเขาก็หลีกหนีไม่พ้นคำพระที่ท่านว่า กรํมมุนา วัตตี โลโก ซึ่งมีความหมายว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เพราะเมื่อประมวลผลการเรียนตลอดภาคการศึกษาแล้ว ถึงเขาไม่ถูกคัดชื่อออกในช่วงภาคการศึกษานี้ก็ตาม แต่มันก็เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดีนัก เพราะเขาทำคะแนนสะสมได้ต่ำมาก
Last updated: 2010-10-17 09:10:39
|
@ กาลครั้งหนึ่ง
เมื่อ(ไม่)นานมานี้ |
|
|
|
|
|
|
|
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ กาลครั้งหนึ่ง
เมื่อ(ไม่)นานมานี้
|