คะนึงหา"สาวป่าไม้"
.ซึ้งพระคุณถิ่นนนทรีที่ศึกษา
ช่วยนำพาพบสาววนศาสตร์
บุญปางก่อนคงย้อนมาพาร่วมชาติ
ต่างหมายมาดรอครองคู่อยู่ด้วยกัน
.เพียงหลังจบจำอ้างว้างต้องห่างไกล
โอ้น้องนางอยู่กลางไพรตามใฝ่ฝัน
อุทยานฯงานทายท้าให้ฝ่าฟัน
ไม่นานวันเธอสัญญาจะหวนคืน
.อยากสอบไปเป็นครูอยู่ใกล้ขวัญ
เพียงแม่ป่วยต้องช่วยท่านอันสุดฝืน
นอนติดเตียงคงยากหายได้กลับฟื้น
ทนกล้ำกลืนสอนเด็กไปในถิ่นเดิม
.แสนอึดอัดอยากโทร-ไลน์ให้ร้าวราน
ไร้สัญญาณการติดต่อที่รอเสริม
คอยนวลออกจากไพรได้ต่อเติม
ร่วมหมั่นเพิ่มสัมพันธ์เรายืนยาวไป
.ยามคิดถึงซึ้งหทัยใฝ่พบเจ้า
วอนลมเอาเพลงหวานสื่อสารให้
มองดาวเดือนเตือนน้องปองด้วยใจ
ส่งความนัยสะท้อนแสงแฝงอ้อนเธอ
.เป็นห่วงแต่โพยภัยที่ในป่า
อย่าประมาทอาจเกิดมาได้เสมอ
ปวงสัตว์ร้ายพึงระวังที่พลั้งเจอ
ต้องอย่าเผลอไว้ใจคนเล่ห์กลนัก
.สบโอกาสจะนัดมาเที่ยวป่าไพร
ได้สุขสันต์เคียงขวัญใจที่ใฝ่ภักดิ์
ออดอ้อนนวลหวนคำมั่นสัญญารัก
ให้แน่นหนักพริ้งเพริดเฉิดฉันไป
.ทุกค่ำคืนหลังเตรียมสอนไหว้วอนพระ
จิตแรงกล้าอธิษฐานท่านดลให้
ได้ครองเรือนร่วมเรียงเคียงกายใจ
คู่นวลเจ้าสาวป่าไม้ในเร็ววัน
.ครูนิด
วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com 23 พ.ย. 2567
หมายเหตุ:ขอบคุณเจ้าของภาพประกอบ
แรงดลใจ:
มีโอกาสได้เจอและคารวะท่าน อาจารย์จงรัก:ผศ.ดร.จงรัก ปรีชานนท์
อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(พ.ศ.2525-2529) ในหลายครั้ง
ทั้งที่คณะวนศาสตร์และงานสังคมของชาวป่าไม้
หากมีโอกาสท่านมักเล่าผลงานในอดีตที่เคยฝากฝีมือไว้ในคราวเป็นคณบดีคณะวนศาสตร์ ในช่วงปี
พ.ศ.2515-2523 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตัดสินใจเปิดโอกาสให้มีนิสิตหญิง
เข้ามาเรียนที่คณะวนศาสตร์เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ด้วยเหตุผลหลายประการ
ที่สำคัญอย่างมาก ก็คือ
งานป่าไม้บางด้านเชื่อว่าเพศหญิงน่ามีความเหมาะสมมากกว่าเพศชาย
นับว่าโชคดีที่ได้เข้ามาเรียนในคณะวนศาสตร์รุ่นนี้พอดีในปี
พ.ศ.2520 โดยเป็น วน.รุ่น 43 เทียบกับ KU.37
ที่มีนิสิตหญิง 19 คน ในขณะที่มีนิสิตชายจำนวน 100 คน
นับว่าเป็นตำนานหน้าหนึ่งของชาววนศาสตร์ทีเดียว
มีอาจารย์และรุ่นพี่หลายท่านมักเอ่ยชมทำนองว่า ในภาพรวมแล้วสาววนศาสตร์รุ่นนี้
น่ามีค่าเฉลี่ยที่สวยกว่ารุ่นอื่นๆทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน จริงเท็จอย่างไรคงต้องพิสูจน์กันไป
แต่เรื่องความผูกพันทางใจกับชาวป่าไม้แล้ว
เชื่อว่าคงไม่มีสาวรุ่นไหนเทียบได้อย่างแน่นอน
เพราะมีเพียงสาวเดียวในรุ่นที่ครองคู่กับคนวงการอื่น
นอกนั้นป้วนเปี้ยนอยู่ในวงการป่าไม้ทั้งหมด
ระยะหลังนิสิตหญิงวนศาสตร์กลับมีจำนวนมากกว่านิสิตชาย
โดยมีประมาณร้อยละ 60-70 ของนิสิตทั้งหมด
ก็ต้องยอมรับตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
เพราะไม่สามารถกำหนดสัดส่วนตเพศเช่นในอดีต
เพราะอาจขัดต่อความเสมอภาคทางเพศตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่กำหนดๆไว้
เป็นการเปิดโอกาสให้นิสิตชายคณะอื่น ได้มีการคบหากับชาววนศาสตร์มากขึ้น
จนถึงขั้นวางแผนครองคู่กันหลังเรียนจบ
แต่บางคู่อาจเจอปัญหาเกี่ยวกับการทำงานที่ห่างไกลของฝ่ายหญิง
เช่นเดียวกันกับรายที่เขียนกลอนไว้
ก็ได้แต่เอาใจช่วยให้มีทางออกและสมหวังในชีวิตอย่างราบรื่น อย่าต้องตรอมตรมหมองไหม้เหมือนบางคูู่ทีต้องเลิกร้างจากกันเลย
Last updated: 2024-11-26 22:23:26