คือปัญหา"งานป่าไม้"
.หลายสิบปีเข้าวงการงานป่าไม้
ห่อเหี่ยวใจในความจริงสิ่งพบเห็น
มีหลายด้านพาลช้ำแสนลำเค็ญ
ก่อขุกเข็ญเสียหายต่อไพรพง
.คนยังบุกรุกรานคอยผลาญป่า
ตัดไม้มาลักลอบใช้ทั้งขายส่ง
เปลี่ยนพื้นที่ทำเกษตรเหตุชวนปลง
แล้วเจาะจงขายไปบุกใหม่เอา
.รัฐมุ่งมีนโยบายให้ที่ป่า
ผ่อนผันมาหลายสมัยพาใจเศร้า
หาเสียงไปทำลายป่ามานานเนา
ที่ภูเขายังยกไปให้คนครอง
.วนกรแสนเดียวดายหมายรักษ์ไพร
เหนื่อยยากไปไร้ใครมาช่วยสนอง
หน่วยงานอื่นดื่นไปได้แค่มอง
ด้วยหมายปองพื้นที่ป่าเอามาใช้
.นักการเมืองคอยจ้องท่าเทียวหาเงิน
พาขัดเขินบริหารงานป่าไม้
การแต่งตั้งโยกย้ายเหนื่อยหน่ายใจ
วิ่งเต้นไปจ่ายเงินอื้อซื้อตำแหน่ง
.ชาวป่าไม้หลายคนดีที่ทำใจ
วิจารณ์ไปอาจทุกข์ถูกกลั่นแกล้ง
ทำงานมีไร้ทีท่าทะมัดทะแมง
ไม่แก่งแย่งแข่งก้าวไกลในเรื่องงาน
.มีหลายท่านมือไม่ถึงจึงเป็นใหญ่
งานป่าไม้พาบ้อท่าบริหาร
หลายด้านพลาดพัฒนาพาองค์การ
เพื่อสืบสานปกปักรักษ์พงไพร
.ที่ตั้งว่าปัองป่าไม้ไม่หายหด
กลับค่อยลดเศร้าแท้มาแต่ไหน
นโยบายเพิ่มผืนป่าพาเศร้าใจ
ตายเกิดใหม่หลายชาติอาจไม่เจอ
.หากตระหนักสำคัญการป่าไม้
ต้องร่วมใจหมายมั่นกันเสมอ
แก้ปัญหาพาพงไพรให้เลิศเลอ
สังคมไทยได้บำเรอสุขเปรอปรน
.ครูนิด
วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com พ.ค.67
หมายเหตุ:
ขอบพระคุณเจ้าของภาพประกอบ
แรงดลใจ:
ว่าจะเปลี่ยนแนวเขียนกลอนไปในทางมุมบวกหรือชื่นชมงานป่าไม้ให้มากขึ้น
เพราะเขียนทางมุมลบหรือปัญหาทางป่าไม้มามาก
ซึ่งผลตอบรับก็มีทั้งอิฐและดอกไม้ที่ต้องทำใจ เพราะมุมมองของคนมีความแตกต่างกันได้
โดยเฉพาะบางกลอนที่จี้ใจดำของบางคนหรือพรรคพวกตัวเอง ทำให้เสียอารมณ์เลยพากระแนะกระแหนกลับในบางครั้ง
ซึ่งก็ไม่ว่ากันเพราะที่เขียนไปนั้นตัวเองไม่ได้รับผลประโยชน์อะไร
หวังเพียงแต่ให้วงการป่าไม้เราดีขึ้น
ที่ส่งผลต่อความอุดมสมบูรณ์และพื้นที่ป่าเพิ่มมาเป็นเงาตามตัวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในบางโอกาสได้พบปะกับพี่ เพื่อน
น้องและลูกศิษย์ในวงการป่าไม้ รวมทั้งวนกรบางท่านที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
มักสะท้อนความเห็นให้เขียนกลอนเพื่อกระตุกพฤติกรรมของคนทั้งในและนอกวงการ
ให้ตระหนักถึงความสำคัญและช่วยกันอนุรักษ์ป่าไม้ในรูปแบบต่างๆมากขึ้น ก็นับว่าเป็นกำลังใจให้เขียนอีกต่อไป
เพราะการเขียนกลอนหรือบทความนั้น หากไม่มีคนอ่านก็ไม่รู้จะเขียนไปทำไม
สู้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นน่ามีประโยชน์มากกว่า
แต่หากมีเสียงตอบรับหรือวิจารณ์กลับแม้ต่างมุมมอง
ก็ถือว่าคุ้มค่ากับสมองและเวลาที่เสียไป
กลอนบทนี้ไม่ได้มุ่งโจมตีใครเป็นการเฉพาะเจาะจง
เพียงแต่อยากระบายความรู้สึกของคนที่รักและผูกพันกับวงการป่าไม้มาตลอดชีวิตการเรียนและทำงานเกือบ
50 ปีแล้ว เพราะมีความฝันมากมายเหลือเกินตั้งแต่เริ่มสัมผัสงานทางด้านนี้
ในการเห็นพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนถึงอย่างน้อยร้อยละ 40
ของพื้นที่ประเทศ ตามนโยบายป่าไม้ของชาติที่ได้กำหนดไว้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528
จนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะเป็นไปได้อย่างไร
เลยลองทบทวนปัญหาสำคัญๆมาเสนอไว้ ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแก้ไข
ไม่ใช่ปล่อยไปตามยถากรรมเหมือนอดีตที่ผ่านมา
Last updated: 2024-05-26 21:23:41