.ปีเดือนวันผันไปใจไม่เปลี่ยน
ยังวนเวียนคงมั่นตราบวันนี้
คือแรกรักภักดิ์หน้ามนลูกนนทรี
ทั้งเป็นที่รักสุดท้ายในชีวา

.แรกรู้จักทักทายใจอาทร
พาเธอซ้อนจักรยานสานคบหา
รับส่งเรียน-หอพักก่อรักมา
ใฝ่วิชาหาความรู้เคียงคู่กัน

.ร่วมรับน้องยากแค้นแสนสาหัส
ผ่านโซตัสของรุ่นพี่ที่มุ่งมั่น
คอยปลุกปลอบกำลังใจให้ฝ่าฟัน
เพิ่มสัมพันธ์ของพวกเราชาวเคยู

.กิจกรรมมากมายในหลายด้าน
ได้พบพานเคียงบ่าไหล่ใฝ่เรียนรู้
ใครเหนื่อยยากร่วมผจญบนทางสู้
จนยืนอยู่คู่เพื่อนพ้องพี่น้องได้

.เกษตรแฟร์สงกรานต์ลอยกระทง
เที่ยวป่าดงแหล่งชื่นชอบหลังสอบไล่
ชมดนตรีแข่งกีฬามหา'ลัย
สุขกายใจใฝ่รังสรรค์กับขวัญตา

.ถึงสี่ปีช่วยกันหมั่นพากเพียร
เน้นการเรียนเรื่องสำคัญร่วมฟันฝ่า
จนสำเร็จผ่านจบครบวิชา
ภาพวันรับปริญญายังตราตรึง

.โอ้ละหนอต้องห่างกันทำงานป่า
หลั่งน้ำตาเธอหมางเมินเกินคาดถึง
พาเจ็บปวดรวดร้าวเศร้าคำนึง
อดีตซึ้งแสนหวานผ่านร่วมกัน

.เธออาจหลงรักใหม่ให้แสนปลื้ม
จึงพาลืมรักเคยมีที่ให้ฉัน
เพียงรู้ไว้ชายคนนี้นี่จาบัลย์
ยังคงมั่นรักแรกคนลูกนนทรี

.ครูนิด วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)

www.lookforest.com

แรงดลใจ: วิถีชีวิตของนิสิตช่วงปี พ.ศ.2520-2524 ที่เคยเรียนในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ น่ามีความแตกต่างจากนิสิตในยุคปัจจุบันอย่างมากมาย ด้วยสถานการณ์และค่านิยมของสังคมเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากในระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งบรรยากาศและสภาพแวดล้อมภายในและรอบรั้วนนทรีก็แตกต่างไปอย่างมากมาย จากที่เคยเป็นเหมือนชานเมืองกลับกลายเป็นเมืองใหญ่ที่บ้านเรือนแออัดและการจราจรคับคั่งอย่างอึดอัดใจจนบอกไม่ถูก ใครที่มีธุระที่ต้องไปแถวนั้นต้องวางแผนเรื่องเวลาให้ดี มิฉะนั้นอาจผิดนัดได้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ด้วยชีวิตในระยะหลังต้องเข้าไปในรั้วเกษตรฯบ่อยครั้ง ซึ่งต้องเข้าร่วมประชุมและติดต่องานกับบางหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะวนศาสตร์ ที่นอกจากได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของนิสิตเกษตรยุคใหม่แล้ว ยังทำให้อดคิดถึงชีวิตตอนเรียนไม่ได้ สภาพของเด็กบ้านนอกที่เข้ามาเรียนปี 1 แทบไม่มีให้เห็น คิดว่าคนสมัยนี้มีการใช้เครื่องมือสื่อสารที่มีคุณภาพดี ทำให้เด็กกรุงและเด็ก ตจว.แทบไม่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องอุปนิสัยและสไตล์การแต่งตัว ไม่เหมือนสมัยก่อนที่พอเห็นภาพก็พอแยกแยะได้ว่ามีถิ่นฐานอยู่แถวไหน ยิ่งถ้าได้สนทนาด้วย ยิ่งฟันธงได้ทันทีเลย

ในเรื่องการคบหาระหว่างเพื่อนต่างเพศ ก็ดูเหมือนว่ามีกำแพงประเพณีน้อยลงไป การจับไม้จับมือหรือถูกเนื้อต้องตัวกัน ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว สมัยรุ่น KU.37 ค่อนข้างต้องระมัดระวังกันทั้งชายและหญิง อาจด้วยสมัยก่อนที่เรียนมัธยมศึกษามักแยกโรงเรียนระหว่างชายหญิง แต่ภายหลังมีการปรับเปลี่ยนเป็นโรงเรียนสหศึกษา ทำให้นักเรียนชายหญิงคุ้นเคยกันมากยิ่งขึ้น ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง ก็คือ ปัจจุบันมีแนวโน้มส่วนใหญ่ที่ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายจีบชายไปเสียแล้ว แต่ก็คงไม่แปลกอะไร เพียงแต่ขอให้จริงใจต่อกันอย่างแท้จริงเท่านั้น

Last updated: 2022-09-17 22:25:39