ในช่วงวิกฤตการณ์ต้องคิดถึงคนอื่นให้มาก ๆ
 
     
 
โควิดวิกฤตนัก
จนถึงวันนี้(7 พ.ค.65) ยังมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า ..."โควิดวิกฤตนัก"... ที่ทุกคนควรให้ความตระหนักและป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป..
 

.เกือบสามปีที่โควิดวิกฤตใส่
เฒ่าป่าไม้คอยเลี่ยงเสี่ยงทุกท่า
เกรงอับโชคจากโรคภัยวัยชรา
หากติดมาพาป่วยอาจม้วยมรณ์

.เหล่าพรรคพวกเคยสังสรรค์กันเต็มที่
หยุดกันทีห่างกันไว้ไม่เหมือนก่อน
แค่โทรไลน์คลายห่วงหาอนาทร
แม้อาวรณ์อยากนัดตัองตัดใจ

.งานสังคมคนรักใคร่ญาติใกล้ชิด
ไม่เคยคิดไปร่วมงานหวั่นติดไข้
ยอมเป็นคนทนใจดำจำเลี่ยงไป
โอนเงินให้ช่วยงานเท่านั้นพอ

.การประชุมหลบเหลือเกินเผชิญหน้า
ใครบ่นว่าขี้ขลาดตัดใจหนอ
เพียงโชคดีมีออนไลน์ใช้ติดต่อ
ขลุกขลักก็กล้อมแกล้มไปให้งานเดิน

.เคยเดินวิ่งออกกำลังอย่างแข็งขัน
ระวังกันสวนสาธารณ์พาลขัดเขิน
คอยอยู่ห่างผู้คนไว้ให้ทำเมิน
ใส่หน้ากากลำบากเกินการหายใจ

.ที่ทำงานระวังอยู่ไกลผู้คน
อึดอัดล้นเพื่อนร่วมงานอันชิดใกล้
แต่ละคนทนอ้างว้างห่างกันไป
ของกินใช้ร่วมกันเป็นอันงด

.ร้านอาหารต้องร้างลามานานมาก
ยอมลำบากอยากอะไรให้ทนอด
ของที่บ้านมีสิ่งใดได้ทุกรส
กินทั้งหมดไม่บ่นว่าดีกว่าตาย

.ยามจำเป็นต้องเดินทางต่างจังหวัด
ไม่กล้านัดพี่เพื่อนน้องผองสหาย
ขับรถมีคนที่บ้านนั้นเคียงกาย
โอ้อกชายให้แสนกลุ้มถูกคุมแจ

.รอกาลดีที่โควิดวิฤตพ้น
คลายหมองหม่นมีเสรีที่รอแท้
นัดพรรคพวกเที่ยวกินไปสบายแฮ
ป่าไม้แก่ตีปีกได้สบายทรวง

 

.ครูนิด วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)

www.lookforest.com 

แรงดลใจ: จำได้ว่าเชื้อโรคไวรัสโควิด19เริ่มเข้ามาระบาดในบ้านเราตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2562 โดยที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ โดยที่บางช่วงอาจมีแนวโน้มลดลงบ้างแต่ไม่มากนักสลับกันไป ในระยะแรกมีคนติดเชื้อเพียงหลักร้อย ก็ประโคมข่าวกันในช่องทางต่างๆ รวมทั้งทางสื่อออนไลน์ที่แพร่กระจายได้อย่างกว้างขวางในเวลาอันสั้น ทำให้เกรงกลัวกันอย่างเหลือเกิน มีมาตรการออกมาในหลายด้านที่ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ผู้คนทั่วไปก็พยายามกันอย่างยิ่งในการหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ จนหลายคนที่มีความหวาดระแวงกันมากแทบเป็นโรคประสาทไปเลยก็มี แต่พอถึงวันนี้ที่มีคนติดเชื้อนับหมื่นคน กลับเริ่มเฉยชากันไปและประมาทกันมากทีเดียว

โดยความคิดเห็นและพฤติกรรมส่วนตัวแล้ว ยังให้ความหวาดกลัวและตระหนักต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิดเหมือนที่ผ่านมา แม้มีผลกระทบเกิดขึ้นบ้างก็ต้องทำใจ เท่าที่ผ่านมายอมรับว่าคีอนข้างห่างเหินต่องานทางด้านสังคมไปมาก ด้วยตัวเองอยู่ในข่ายของกลุ่ม 608 กล่าวคือ นอกจากอายุเกิน 60 ปีแล้ว ยังมีโรคประจำตัวบางด้าน โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจเรื้อรังที่เป็นมาแต่เยาว์วัย ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นแล้วก็ไม่ไปร่วมงานทางสังคม คงใช้วิธีการโอนเงินช่วยงานทางออนไลน์ ทั้งงานรื่นเริงและงานพิธีกรรมต่างๆ ยอมเป็นคนที่ดูเหมือนว่าเป็นคนใจดำหรือไม่มีน้ำใจในความรู้สึกของคนอื่นไปก่อน ด้วยความกลัวตายเร็วเกินไปนั่นเอง

ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อตัวเองนั้น คิดว่ากลับทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในหลายด้าน โดยแทบไม่ได้เดินทางออกนอกบ้านคราววันหยุดและหลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างจังหวัดในแทบทุกกรณี แม้การไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่สมุทรสงครามและพระนครศรีอยุธยา พยายามหาความสุขอยู่กับบ้านด้วยการอ่านและเขียนหนังสือที่ชื่นชอบ การขี่จักรยานและเดินออกกำลังในสนามของหมู่บ้านที่ค่อนข้างปลอดผู้คน โดยที่เป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายเป็นทุนเดิม จึงกินอาหารที่คนทางบ้านจัดเตรียมให้ ผนวกกับการเก็บหาผักหญ้าในหมู่บ้านและบริเวณใกล้เคียงมาบริโภค จนแทบไม่เคยไปนั่งตามร้านอาหารที่เคยชื่นชอบ ทำให้ประหยัดเงินที่รอวันใช้ตอนหมดโรคโควิดได้มากทีเดียว


Last updated: 2022-05-07 18:26:59


@ โควิดวิกฤตนัก
 


 
     
เชิญท่านเป็นบุคคลแรกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความ โควิดวิกฤตนัก
 
     
     
   
     
Untitled Document
 



LFG
www.lookforest.com|บทความ|โปรแกรมคาร์บอนต้นไม้|ฐานข้อมูลชีวภาพ|เครือข่ายฟาร์มป่าไม้|ติดต่อบรรณาธิการ
Powered by: LOOK FOREST GROUP
23/1 ซอยรัชดาภิเษก 64 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
Clicks: 
304

Your IP-Address: 44.210.78.150/ Users: 
302