.ชาวป่าไม้ถูกปลูกฝังครั้งศึกษา
ให้ชนดะกล้าหาญไม่หวั่นไหว
เจอใครผิดคนพาลจัดการไป
สู้ด้วยใจเคียงคู่อุดมการณ์
.มีหลายคนหลากครั้งได้สร้างชื่อ
จนเลื่องลือเรื่องราวพากล่าวขาน
จากคราวเรียนมากล้นจนทำงาน
ก่อตำนานในหมู่เหล่าชาวพนา
.เจอนักเลงหัวไม้เมามายเขื่อง
เที่ยวหาเรื่องทำขาใหญ่ไม่ไว้หน้า
กับสาวสวยฉวยเกาะแกะแทะโลมมา
ตบแทบดิ้นจนสิ้นท่าหายซ่าไป
.หมู่ชาวบ้านลอบปองเก็บของป่า
บ้างจ้องท่าหาโอกาสลักตัดไม้
บางคนบุกรุกที่ป่าพาปวดใจ
เจอเมื่อไรได้ลุยจับปรับทุกที
.แม้พรานป่าพาปืนแก๊ปแอบล่าสัตว์
ด้วยเจนจัดจ้องผิดไปในวิถี
ทั้งเวทย์มนต์แก่กล้าคาถาดี
ตามราวีหาญทำไปไล่จับกุม
.เหล่านายทุนพวกมีอิทธิพล
หวังฉ้อฉลจากป่าไม้มีหลายกลุ่ม
ทั้งไม้เถื่อนที่ดินไปให้ร้อนรุ่ม
เข้าควบคุมไร้เกรงกลัวก้มหัวให้
.พวกมากยศมีสีที่เบ่งอวด
แม้ตำรวจข้าราชการทหารใหญ่
ในนอกถิ่นหลากหลายทั้งใกล้ไกล
พร้อมชนไปไม่ถอยหลังสู้ทั้งปวง
.แต่ผู้ร้ายโจรใส่สูทแต่งชุดไหม
นักการเมืองทำเขื่องไปยิ่งใหญ่หลวง
อีกเจ้านายในหน่วยงานยันกระทรวง
ผลาญป่าไม้กลับไม่ห่วงกล้าท้วงเลย
.ครูนิด วนศาสตร์(ชมรมสีเสียดแก่น)
www.lookforest.com
แรงดลใจ: อ่านเฟสบุ๊คเมื่อวาน(15 พ.ค.63) พบข้อความที่โดนใจมากว่า "พวกเราเก่งในการปราบปรามชาวบ้าน เป็นเสือ กลิ่นสัก แต่ไม่เก่งในการปราบพวกโจรใส่สูทในกระทรวงฯครับ" อันเป็นความเห็นของพี่ยัน:สุริยัน มูลสาร วน.35 ที่ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของคนป่าไม้ส่วนใหญ่ได้ดียิ่ง จนต้องขออนุญาตเอามาขยายความตามความคิดเห็นส่วนตัว ที่ผ่านประสบการณ์การป่าไม้มาพอสมควร ซึ่งคงไม่แตกต่างนักจากพี่ยันที่คร่ำหวอดและผ่านหนาว ร้อน ฝนในวงการป่าไม้มาอย่างยาวนาน ขอเน้นว่าที่เขียนขึ้นมานี้ ไม่ได้เหมาเข่งกับชาวป่าไม้ทุกคน หลายคนอาจมีผลงานต่อต้านโจรใส่สูทอยู่ก็ได้ ซึ่งน่าได้นำมาแลกเปลี่ยนกันบ้าง
การก้าวก่ายงานทางด้านป่าไม้จากนักการเมือง เชื่อว่ามีมานานแล้ว เพียงแต่ว่าค่อยๆมากขึ้นในทุกขณะ อาจเป็นเพราะนักการเมืองนอกจากต้องการผลประโยชน์จากป่าไม้โดยตรงแล้ว ยังพยายามใช้หาเสียงจากประชาชนให้มากที่สุด ตามกระแสการแข่งขันทางการเมืองที่รุนแรงมากขึ้นทุกที กับทั้งชาวป่าไม้เราในยุคหลังๆมักไม่ค่อยกล้าหือกับพวกเขา ต่างจากที่เคยทำการวิจัยพบว่านายตรี กกกำแหง วน.1 ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้คนที่13 ช่วงปี พ.ศ.2514-16 ท่านกล้าแสดงความคิดเห็นทางวิชาการป่าไม้ที่ได้ร่ำเรียนมา ในการคัดค้านความต้องการของผู้ใหญ่และทหารระดับสูงในพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งก็ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีมาแล้ว
อาจเป็นเพราะนักการเมืองและผู้ใหญ่ในวงการราชการยุคก่อนๆ ยังเป็นผู้มีจิตใจกอปรด้วยคุณธรรมมากกว่าในยุคหลังๆก็เป็นได้ โดยป๋าธานี:นายธานี ภมรนิยม วน.15 ผู้ใหญ่ที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับท่าน เคยเล่าให้อดีตที่เคยเป็นป่าไม้เขตแพร่ในช่วงปี พ.ศ.2525-2529 ซึ่งได้สร้างผลงานการปราบปรามการทำไม้เถื่อนอย่างเด็ดขาดและจริงจังในทุกรูปแบบ ที่สร้างผลกระทบด้านลบทางเศรษฐกิจกับคนทุกระดับในจังหวัดแพร่ แต่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็น ส.ส.จากเมืองแพร่ก็มิเคยมาขอร้องหรือก้าวก่ายแต่ประการใด นอกจากนี้ด้วยผลงานที่โดดเด่นดังกล่าว ส่งผลให้ท่านก้าวหน้าทางราชการในโอกาสต่อมาอีกด้วย
ในช่วงวิกฤตการณ์ต้องคิดถึงคนอื่นให้มาก ๆ
@ 
